เจ้าสำนักที่ไร้ซึ่งขุมกำลังหลักคอยหนุนหลังจะยืนหยัดอยู่ได้นานเพียงใด? ท้ายที่สุดแล้ว ก็มีเพียงเขา อวี๋อู๋ชางเท่านั้นที่เป็นที่ยอมรับของคนทั้งปวง!
หากไม่ได้ผลจริง ๆ เขาก็สามารถยุยงให้เกิดความขัดแย้งภายในสำนัก แล้วบีบบังคับให้สละตำแหน่งโดยตรง เมื่อถึงเวลานั้น เจียงอวี้ก็จะติดกับอยู่ในสำนักเฟิงเย่ว์ ในขณะที่อำนาจส่วนใหญ่ของสำนักอยู่ในกำมือของเขา เจียงอวี้ก็จะกลายเป็นเพียงสัตว์ร้ายจนตรอก ต่อให้ไม่อยากสละตำแหน่งก็ต้องสละ
ส่วนขุมกำลังภายนอกสำนักเฟิงเย่ว์ ยิ่งไม่มีสิทธิ์สอดแทรกโดยสิ้นเชิง พวกนั้นเป็นเพียงกองกำลังที่สำนักเฟิงเย่ว์ช้พัฒนากิจการเสริม ไม่มีอำนาจใดในสำนัก อำนาจตัดสินใจที่แท้จริงล้วนอยู่ในมือของผู้อาวุโสหลักเพียงไม่กี่คนภายในสำนัก ผู้อาวุโสแต่ละคนต่างมีศิษย์ที่เก่งกาจด้านวรยุทธ์อยู่ใต้สังกัดนับร้อยคน มีทั้งผู้ที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธลับ ผู้ที่ชำนาญอาวุธประเภทกลไก และผู้ที่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิด กล่าวโดยรวมคือ ภายในสำนักล้วนมีผู้อาวุโสที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธทุกแขนง และศิษย์ที่พวกเขานำก็ย่อมเชี่ยวชาญเช่นกัน
เดิมทีพวกเขาเองก็ไม่ยอมรับในตัวเจียงอวี้ที่เป็นเพียงเด็กเมื่อวานซืน อวี๋อู๋ชางได้ล้างสมองพวกเขามานานหลายปี ความคิดเหล่านั้นได้ฝังรากลึกไปแล้ว หากสั่งให้พวกเขาต่อต้าน พวกเขาก็มีแนวโน้มอย่างยิ่งที่จะทำตาม
แต่เจียงอวี้กลับแตกต่างออกไป ข้างกายเขามีเพียงเจียงอวิ๋นเฮ่อ ซึ่งในอดีตเคยหลบไปใช้ชีวิตสันโดษอยู่นอกสำนัก แม้บัดนี้จะดำรงตำแหน่งผู้อาวุโส แต่ก็เป็นเพียงในนาม ไม่มีกองกำลังที่สามารถสั่งการได้จริง กับหมอเทวดาซุนอีกคนหนึ่ง เขาเป็นเพียงแพทย์ที่ร่ำเรียนวิชาการรักษา มีลูกศิษย์อยู่แค่คนเดียว จะช่วยอะไรได้? จะให้ใช้เข็มเงินทิ่มแทงพวกเขาให้ตายหรืออย่างไร?
ดังนั้น นอกจากเจียงอวี้จะหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าอวี๋อู๋ชางลอบสังหารเจ้าสำนักเฒ่าจริง ๆ เหล่าผู้อาวุโสล้วนเป็นผู้ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเจ้าสำนักเฒ่า แม้พวกเขาจะไม่ยอมรับในตัวเจียงอวี้ แต่ก็เคารพรักเจ้าสำนักเฒ่าอย่างสุดซึ้ง ด้วยเหตุนี้ ขอเพียงพิสูจน์ได้ว่าอวี๋อู๋ชางคือผู้ที่ลอบสังหารเจ้าสำนักเฒ่าจริง เมื่อถึงเวลานั้น คนที่จะกลายเป็นสัตว์ร้ายจนตรอกก็คือตัวเขาเอง
แน่นอนว่า หากเจ้าสำนักเฒ่าอาการดีขึ้นและกลับมาบริหารสำนักได้ดังเดิม สำนักเฟิงเย่ว์แห่งนี้ก็จะไม่มีวันวุ่นวาย
คนที่เฟิงอิ่งนำมาล้วนเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะการต่อสู้ระยะไกล ระยะประชิด หรือการสอดแนม ล้วนมีผู้เชี่ยวชาญในทุกด้าน ขอเพียงสามารถพาหมอเทวดาซุนลงจากเขาไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ให้เป็นที่สงสัย แล้วคุ้มกันจนถึงเขาเหลยหมิงได้อย่างราบรื่นก็พอ
พอเห็นเจียงอวี้มาถึง หมอเทวดาซุนก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ไม่ยากเย็นอีกต่อไปแล้ว เจียงอวี้จะต้องแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างง่ายดายแน่นอน ไม่จำเป็นต้องให้เด็กสาวบอบบางสองคนต้องมาสละชีวิตอีก
ไม่ใช่ว่าเขาตระหนี่กับเจ้าสำนักเฒ่า แต่เป็นเพราะเขาทนทำใจไม่ได้ต่างหาก
“เจียงอวี้ เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดี มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องกำชับให้เจ้าไปทำ เจ้าต้องส่งคนลงจากเขาไปตามหาสตรีที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จำนวนหนึ่ง พาพวกนางขึ้นมาพักบนเขา ในช่วงนี้ เจ้าสำนักเฒ่าจำเป็นต้องใช้โลหิตหัวใจที่สดใหม่เป็นเครื่องยาเสริมทุกวัน ซึ่งโลหิตหัวใจนี้ต้องเป็นของสตรีเท่านั้น ของบุรุษใช้ไม่ได้ แต่เจ้าก็รู้ว่าสำนักเฟิงเย่ว์ของเราไม่มีศิษย์หญิง อีกทั้งการนำโลหิตหัวใจออกมานั้นทำร้ายร่างกายอย่างยิ่ง ข้าเชื่อว่าเจ้าเองก็คงไม่เต็มใจใช้โลหิตหัวใจของแม่หนูซูหรอกใช่หรือไม่ ดังนั้นเจ้าจงรีบไปจัดการเรื่องนี้เสีย อย่างช้าที่สุดต้องทำให้เสร็จภายในสองวัน”
“อีกอย่าง เจ้าได้รวบรวมคนพร้อมแล้วหรือยัง? หากพร้อมแล้วก็รีบออกเดินทางเถิด อย่าได้ชักช้า”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...