“คนที่ก่อเรื่องในครั้งนี้มีบ่าวรับใช้หญิงสามคน บ่าวรับใช้ชายสองคน เช่นนั้นบ่าวรับใช้หญิงก็ให้ย้ายไปทำงานที่โรงผลิตเป็นสาวใช้แรงงานที่ทำงานหนักๆ เสื้อผ้าของทุกคนก็ให้พวกนางเป็นคนซักทั้งหมด ส่วนคนรับใช้ชายสองคนก็ให้ไปเป็นคนเทของเสีย ให้ใส่โซ่เหล็กที่ข้อเท้าเอาไว้และควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่มีทางหนีไปไหนได้แน่!”
นี่เป็นความคิดของซูอี้ ซึ่งซูหว่านก็เห็นว่าใช้ได้
ตอนนี้คนงานในโรงผลิตรวมๆกันแล้วมีทั้งหมดไม่ต่ำกว่าหกสิบคน คงจะมีงานมากพอให้พวกนางทำแล้วล่ะ พวกนางต้องทำงานที่สกปรกและเหนื่อยที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ
เช้าวันต่อมา ซูอวิ๋นและซูอี้ก็ไปที่โรงผลิตพร้อมกับซูหว่าน
โรงผลิตหลายแห่งถูกสร้างให้อยู่ในตรอกเดียวกัน และแต่ละแห่งก็อยู่ไม่ไกลจากกันนัก ห่างกันแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น
พอซูหว่านกลับมา คนงานในโรงผลิตไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงต่างก็ดีใจกันมาก พากันทักทายนางอย่างอบอุ่น
ซูหว่านกลับมาครั้งนี้พอทราบเรื่องสกปรกเหล่านั้นแล้ว ดังนั้นมีรางวัลแล้วก็ต้องมีบทลงโทษ
พวกของหมางจ้งทำผลงานได้ดี จึงตกรางวัลเป็นเงินสิบตำลึงให้แต่ละคน รวมไปถึงให้เครื่องประดับที่เป็นต่างหูหรือไม่ก็ปิ่นปักผมดอกไม้หนึ่งคู่ไปด้วย
พรรคพวกของต้าสู่เสียวก็เช่นกัน ทว่าไม่ได้ให้เครื่องประดับไปแต่เปลี่ยนเป็นให้เป็นเงินแทน โดยให้เงินไปคนละสิบห้าตำลึง เพราะพวกเขาล้วนเป็นผู้ชาย จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องประดับพวกนั้น
ซูหว่านให้พวกเขาไปที่ห้องเก็บฟืนเพื่อพาพวกคนทรยศออกมา และเพราะพวกนางไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกายมาเป็นเวลานาน ทั้งอุจจาระและปัสสาวะก็อยู่ในห้องเก็บฟืนนี้ พอพาออกมาเท่านั้นแหละ กลิ่นเหม็นก็โชยออกมาทำเอาทุกคนแทบจะอาเจียน
ซูหว่านใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูก ส่วนซูอวิ๋นก็ทำหน้าเหยเกด้วยความรังเกียจ พลางกับบีบจมูกตัวเองแน่นเช่นกัน คนงานในโรงผลิตทุกคนถูกท่านน้าเรียกให้มารวมตัวกันอยู่ที่ด้านข้างเพื่อมาดูจุดจบของผู้ทรยศ
พอทั้งห้าคนเห็นซูหว่านมาถึงก็นึกว่านางต้องการจะฆ่าพวกนางทิ้ง ต่างคนต่างพากันตกใจจนคุกเข่าขอร้องอ้อนว้อน พร้อมกับโขกศีรษะลงกับพื้นซ้ำ ๆไม่หยุด
“เถ้าแก่ พวกเราสำนึกผิดแล้ว โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะเจ้าค่ะ/ขอรับ ต่อไปจะไม่กล้าทำอีกแล้ว ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยเถอะ!”
พวกนางอยากจะเข้ามาดึงชายกระโปรงของซูหว่าน แต่ถูกพวกองครักษ์ที่ซูหว่านพามาขวางเอาไว้
“ตอนที่พวกเจ้าทำเรื่องพวกนั้นก็ควรจะคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีวันนี้ เป็นแค่ทาสแท้ ๆ แต่กลับกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ พวกเขาเสนออะไรให้พวกเจ้างั้นหรือ? ให้ทรัพย์สมบัติที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหมดสิ้น หรือสัญญาว่าจะไถ่ตัวพวกเจ้าจากการเป็นทาสงั้นหรือ? ถึงจะมีเงินมากมายแค่ไหน แต่ถ้ายังเป็นทาสอยู่ทั้งชีวิตก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี? อีกอย่างนะ สัญญาทาสของพวกเจ้าก็ยังอยู่ที่ข้า หรือว่าพวกเขาจะหาวิธีมาขโมยไปจากข้าอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากนี้นางยังต้องไปดูงานที่ร้านอวี้เหยียนถัง เพื่อทำความเข้าใจการค้าขายของร้านเล็ก ๆ ในเซียงโจวว่าเป็นอย่างไร
และยังทางชิวเหนียงด้วย ได้ยินมาว่านางกลับมาแล้ว และต้องการนัดเจอกับนางสักครั้งแต่ทางด้านชิวเหนียงคงต้องเลื่อนไปอีกสักสองวัน เพราะซูหว่านรับปากว่าจะไปดูโรงวาดรูปของพี่ห้า และยังต้องช่วยพี่สี่วางแผนเรื่องโรงเตี๊ยมอีกด้วย ยุ่งมากๆ เลย
โรงวาดรูปของพี่ห้าถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ดูสวยงามและประณีตกว่าแต่ก่อนมาก
ตอนนี้โรงวาดรูปรับแต่งานวาดภาพเหมือนเท่านั้น ภาพวาดที่เคยอยู่บนผนังถูกถอดออกหมดแล้ว และก็จะวาดแค่ปีละสองภาพเท่านั้น ซูหว่านคิดว่าแค่วาดปีละสองภาพก็ถือว่าเยอะเกินไปด้วยซ้ำ หลังจากที่พี่ห้ามีชื่อเสียงขึ้นมา การมีผลงานวาดไปอยู่ข้างนอกมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดีนัก
ซูอี้คอยอยู่ที่ร้าน ส่วนซูหว่านก็ไปดูโรงเตี๊ยมกับซูอวิ๋น
ที่นี่แต่เดิมเป็นโรงน้ำชาเล็กๆ สองชั้น ขนาดพื้นที่รวมกันแล้วเท่ากับเอาทั้งสองชั้นมารวมกัน หรือน่าจะประมาณสามร้อยกว่าตารางเมตรเห็นจะได้
ห้องครัวไม่ได้รวมอยู่ในพื้นที่นี้ ต่อไปคงจะทำแต่อาหารเพียงอย่างเดียวคงจะไม่มีบริการที่พักแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...