ซูหว่านมองดูตัวเลขที่อยู่บนสมุดจดบัญชีด้วยความพึงพอใจ
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของปิงจีถังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าอย่างมาก ชิวเหนียงก็ใช้โอกาสนี้ขยายกิจการเครื่องสำอางอย่างพวกแป้งและชาด เพื่อแข่งขันกับร้านอวี้เมี่ยนเถาฮวา
แม่นางเซี่ยคนนั้นต้องปวดหัวกุมขมับทุกวันเพื่อเรียกลูกค้าของตัวเองเอาไว้ เพราะการมีอยู่ของร้านปิงจีถังทำให้ลูกค้าที่เป็นเศรษฐีของนางถูกแย่งไปหมด ลูกค้าที่เหลือก็เป็นคนทั่วไปที่สามารถซื้อได้แค่ของชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น
ซูหว่านพิจารณารายละเอียดบัญชีอย่างละเอียดหมดแล้ว นางเชื่อมั่นในความสามารถของชิวเหนียงอย่างเต็มร้อย
ชิวเหนียงคำนวณยอดเงินคงเหลือของปีที่แล้วออกมา และไปแลกเป็นตั๋วเงินที่โรงแลกตั๋วเงิน จากนั้นก็แยกส่วนแบ่งของซูหว่านกับเจียงอวี้ออกจากกัน
สองหีบที่นางนำมาด้วยนั้นคือส่วนแบ่งที่เป็นส่วนของซูหว่านนั่นเอง ส่วนของเจียงอวี้นั่นนางจะเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ชั่วคราว รอเขากลับมาจากสนามรบเมื่อไรก็จะมอบให้
ในเมื่อก่อนหน้านี้ตกลงกันไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้ ตอนนี้ได้แบ่งกำไรให้เขาไปสามส่วน แต่สำหรับเจียงอวี้แล้ว เงินจำนวนนี้เป็นแค่เศษเงินเท่านั้น ขอแค่ซูหว่านมีความสุขก็พอแล้ว
นอกจากนี้ชิวเหนียงอยากจะใช้โอกาสที่การค้ากำลังไปได้สวยนี้รีบเปิดสาขาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ เพื่อขยายอาณาจักรผลิตภัณฑ์ของตัวเอง วันนี้ที่มาก็ตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องนี้กับซูหว่านโดยเฉพาะ เพราะถ้าจะไปเปิดสาขาใหม่ก็ต้องมาเบิกขอเงินจากนาง
“เถ้าแก่ ตอนนี้กิจการของร้านปิงจีถังของพวกเราที่เซียงโจวเริ่มมั่นคงและขายดีมาก ทำกำไรให้ได้บ้างแล้ว ดังนั้นข้าเลยคิดว่าอยากจะไปเปิดสาขาเพิ่มตามเมืองใกล้เคียงดู โดยจะให้โรงผลิตหลักยังอยู่ที่เซียงโจวเหมือนเดิม ท่านคิดเห็นอย่างไรบ้าง? เพราะถึงตอนนั้นก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนเรื่องคนงานด้วย ข้าจะรับคนงานจำนวนมากมาทำงานที่โรงผลิต เพราะตามแผนแล้วเดิมทีจะเริ่มทำตั้งแต่หลังตรุษจีนอยู่แล้ว แต่เนื่องจากท่านยังไม่กลับมา ข้าก็เลยต้องรอขอความเห็นจากท่านก่อน ตอนนี้ท่านกลับมาแล้ว ข้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้าต่อไป”
ซูหว่านพยักหน้าเห็นด้วย เพราะชิวเหนียงเองก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กลับร้านปิงจีถังอย่างเต็มที่ และตัวนางเองก็มีความตั้งใจที่จะเปิดสาขาเพิ่มให้ได้ในปีนี้เช่นกัน
ปลูกต้นไม้แต่เนิ่น ๆ จะได้สร้างร่มเงาเร็ว ถ้ารอให้การค้าของปิงจีถังมั่นคง หากไปถึงเมืองหลวง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นจนไปถึงเบื้องหน้าฝ่าบาทก็ใช้อวี้เหยียนถังเป็นฉากบังหน้าแทนได้
ทรัพย์สินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ในช่วงที่แคว้นจิ้นเพิ่งจะทำสงครามเสร็จเช่นนี้ เป็นช่วงที่ท้องพระคลังกำลังว่างเปล่า อุตสาหกรรมสบู่จากนมแพะนี้น่าจะช่วยอุดปากเหล่าขุนนางได้ และยังทำให้ฝ่าบาททรงวางพระทัยได้อย่างเต็มที่ด้วย
หากวิธีนี้ยังไม่ได้ผล นางก็จะบริจาคเงินส่วนตัวเพิ่มอีกหน่อย การแสดงออกแค่เปลือกนอกนี้ก็จะดูเหมือนว่าพวกนางได้ทุ่มเทจนหมดตัวแล้ว ความภักดีเช่นนี้ฟ้าดินเป็นพยานได้ ลองคิดดูว่าถ้าเป็นพวกขุนนางพวกนั้นจะตัดสินใจขนาดนี้ และยอมเสียสละได้มากขนาดนี้หรือเปล่า?
“ทั้งหมดเอาตามที่เจ้าเห็นสมควรเลย แต่หลังจากนี้คงต้องลำบากเจ้าวิ่งวุ่นไม่หยุดและต้องเหนื่อยเพิ่ม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ข้าจะขึ้นเงินเดือนให้เจ้าอีกสองร้อยตำลึง เจ้าว่าดีไหม?”
นางทำอะไรให้เยอะแยะ ก็คุ้มแล้วกับเงินเดือนจำนวนนี้ ตัวเองยังรู้สึกว่าให้น้อยไปด้วยซ้ำ นางที่เป็นเถ้าแก่ที่ไม่ลงมือทำอะไรเองเลยถือว่าเก่งกาจมากเลยทีเดียว
จริง ๆ แล้วนางแทบไม่ต้องกังวลเรื่องร้านปิงจีถังเลย ที่โรงผลิตนางก็ไปแค่ครั้งเดียว เพราะทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดีกว่าร้านอวี้เหยียนถังของนางเสียอีก ซึ่งจุดนี้ซูหว่านต้องเรียนรู้จากนางเอาไว้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...