เมื่อเจียงอวี้พูดถึงผู้อาวุโสของตัวเอง เขาก็ไม่แม้แต่จะเกรงใจเลยแม้แต่น้อย
ก็มันเป็นเรื่องจริง ถ้าสามารถนำทัพได้ดีและรบเก่งก็สามารถกลับบ้านได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน
“นั่นก็ใช่ แค่พวกเรากล้าหาญอย่างเดียวไม่มีประโยชน์ ยังต้องมีแม่ทัพที่เก่งในการนำทัพด้วย” ซูเฉินเห็นด้วยกับสิ่งที่เจียงอวี้พูดเป็นอย่างยิ่ง
เขาตอนนี้ยังไม่รู้ว่าแม่ทัพของพวกเขาก็คือบิดาแท้ๆ ของเจียงอวี้นั้นเอง!
บอกได้คำเดียวว่าเจียงอวี้เป็นคนติดดินมาก แม้ว่าจะอยู่ในค่ายทหารที่อึกทึกและวุ่นวาย เขาก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเฉยมาก ไม่มีท่าทีของคุณชายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย
“เจียงอวี้ เจ้ามากับข้าหน่อยสิ!”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น รองแม่ทัพที่อยู่ข้างกายท่านแม่ทัพใหญ่ก็เดินเข้ามา แล้วเรียกชื่อเจียงอวี้ออกมาตรงๆ
เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว จนตอนนี้ทหารที่อยู่ชั้นล่างต่างก็พากันสงสัยฐานะที่แท้จริงของเจียงอวี้กันแล้ว
ครั้งนี้ท่านเจียงกั๋วกงนำทัพมาออกรบพร้อมกับพาบุตรชายมาด้วยหนึ่งคน นั่นก็คือเจียงเยี่ยนซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาของเจียงอวี้นั้นเอง
เจียงเยี่ยนเองก็อยู่ในค่ายทหารเช่นกัน แต่เขาเป็นคนที่ไม่ถ่อมตนเอาเสียเลย เที่ยวป่าวประกาศชาติกำเนิดของตัวเองไปทั่ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มสงครามอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ แต่ทั้งค่ายทหารต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าเขาเป็นลูกชายของแม่ทัพใหญ่ ทุกคนเลยพากันประจบสอพลอเขา
เจียงอวี้ก็แซ่เจียงเช่นกัน และยังถูกรองแม่ทัพเรียกตัวไปหลายครั้ง ทุกคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเองก็เป็นคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ที่ใช้เส้นสายเข้ามาด้วยเช่นกัน
ในสายตาของทุกคน เหล่าคุณชายที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์เหล่านี้ล้วนแต่ดูดีแค่เปลือกนอกแต่ไร้น้ำยา ด้วยเหตุนี้ตอนที่พวกเขามองเจียงอวี้สายตาจึงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แม้แต่ซูเฉินที่สนิทกับเจียงอวี้ก็ถูกเมินไปด้วย
เจียงอวี้และซูเฉินสบตากัน จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินตามรองแม่ทัพไปยังกระโจมของแม่ทัพใหญ่...
……
ช่วงปลายเดือนสี่ หยางชิงชิงและเยี่ยรุ่นเจ๋อจะจัดงานแต่งงานขึ้น ทางตระกูลเยี่ยมีเรือนเล็กๆ สองชั้นอยู่ในเซียงโจว บิดาเจ้าบ่าวได้หาคนมาปรับปรุงเรือนให้ใหม่เพื่อใช้เป็นเรือนหอของคู่บ่าวสาว
เงินสินสอดของทางบ้านของพวกเขาที่ให้มาไม่ได้เยอะมากนัก มีเงินสองร้อยแปดตำลึง และมีสินสอดอื่น ๆ ที่จำเป็นอย่างเช่นชุดเครื่องเรือนไม้เนื้อแดงชุดใหม่เอี่ยม และเครื่องประดับทองคำสามชิ้น ทุกอย่างที่ควรมีก็มีครบถ้วน
เหตุผลหลักก็เป็นเพราะทางฝ่ายชายได้ใช้เงินไปกับการตกแต่งเรือนหอใหม่แล้ว แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงให้ต้องจ่ายอีก ทางท่านลุงกับท่านป้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก ในสายตาของพวกเขาขอแค่ลูกสาวมีความสุขก็พอแล้ว
แต่ว่าหลังจากผ่านไปครึ่งปี หยางชิงชิงได้เป็นเถ้าแก่เนี้ยของร้านอวี้เหยียนถัง ตัวนางเองก็เก็บเงินเองได้ร้อยกว่าตำลึง หากรวมเครื่องประดับที่ซูหว่านให้นางมาทั้งหมดก็มีมูลค่าไม่น้อยเลย

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...