เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 430

รูปร่างของพวกเขาผอมแห้ง เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เก่าและขาดรุ่งริ่ง อีกทั้งเปื้อนโคลนไปทั่ว เส้นผมก็ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง

เด็กเล็กๆ อายุห้าหกขวบหลายคนเอาแต่ร้องไห้กับผู้ใหญ่ เพื่อแสดงออกว่าตัวเองหิวข้าวมากแค่ไหน อยากจะกินอะไรสักอย่าง แต่เดินทางลี้ภัยมาตลอดทาง เสบียงที่มีได้หมดลงไปนานแล้ว

พอได้เห็นขบวนรถม้าสองคันขับมาบนถนนหลวงที่หาเจอได้ยาก และมีองครักษ์ขี่ม้าตัวใหญ่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม มีดาบห้อยอยู่ข้างตัว

ผู้ลี้ภัยก็รู้ทันทีว่านี่คือกลุ่มคนร่ำรวย ในรถม้าของพวกเขาอาจไม่แน่ว่ามีของกินมากมาย หรือไม่อาจจะเป็นท่านขุนนางผู้ใจดี หรือไม่ก็ฮูหยินคุณหนูคนใดก็ได้

มีคนคิดอยากจะลองเสี่ยงดู จึงพากันคุกเข่ากลางถนนเพื่อขออาหารจากเจ้าของรถม้า

“คนใจดีขอรับ ขออาหารให้พวกเราหน่อยเถอะ”

เสียงขอให้ช่วยดังระงมไปทั่ว ซูอี้เปิดหน้าต่างรถม้าแล้วยื่นหัวออกไปดู และก็พบว่ามีผู้ลี้ภัยหลายสิบคนคุกเข่าก้มหัวอยู่บนถนนเพื่อขออาหาร

ขบวนรถจึงต้องหยุดลง องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกจึงไปสอบถามซูหว่านว่าจะทำอย่างไรดี

ซูหว่านมองออกไปข้างนอกผ่านช่องแยกเล็กๆ ของประตูรถ พอเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ นางก็รู้เลยว่าเสบียงที่มีอยู่ในมือนั้นไม่เพียงพอที่จะแบ่งให้ทุกคนได้ ยังไม่ต้องพูดถึงผู้ลี้ภัยอีกหลายร้อยคนรอที่อยู่ข้างหน้าเลย หากนำออกมาตอนนี้ก็ไม่พอแบ่งให้ และอาจจะแย่งชิงกันจนเกิดความวุ่นวายได้ และพวกนางก็จะติดอยู่ที่นี่

การทำความดีก็ต้องมีขอบเขตและวิธีจัดการ การใจอ่อนเพียงชั่วคราวจะนำมาซึ่งปัญหาที่ไม่จำเป็น

แต่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้กีดขวางถนนอยู่ หากไม่ให้อาหารก็คงจะไม่ยอมให้ทาง พวกนางก็ไม่สามารถฆ่าพวกเขาเพราะเหตุนี้ได้

ดังนั้นซูหว่านจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็คิดหาทางออกได้หนึ่งทาง นางกระซิบกับองครักษ์ที่อยู่นอกหน้าต่างสองสามคำ

องครักษ์ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าให้ไม่หยุด

จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกผู้ลี้ภัยเหล่านั้นว่า

“นายท่านของพวกเราบอกว่า ตอนนี้บนรถไม่มีเสบียงที่จะแบ่งให้พวกเจ้าได้ แต่ขอให้พวกเจ้าเปิดทางให้พวกเราเข้าไปในจี้โจวก่อน นายท่านของพวกเราเป็นคนใจบุญ เมื่อเข้าไปถึงเมืองจี้โจวแล้วจะบริจาคข้าวสาร และจะทำโรงทานแจกข้าวต้มเป็นเวลาสามวันเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย พูดคำไหนคำนั้น พูดแล้วไม่คืนคำ!”

องครักษ์ไม่ได้เปิดเผยว่าซูหว่านเป็นผู้หญิง

เมื่อผู้ลี้ภัยได้ยินดังนั้นก็หันหน้ามองกันและกระซิบกระซาบ ต่างก็มีท่าทีไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเชื่อถือได้หรือแค่หลอกลวง

ในยุ้งฉางของเมืองจี้โจวเกือบจะว่างเปล่าแล้ว แต่พ่อค้าก็ยังขายข้าวเปลือกในราคาที่แพงมาก ยังไงเสียซูหว่านก็ได้ให้คำมั่นสัญญาไปแล้วว่าจะตั้งโรงทาน แล้วนางก็จะทำตามที่พูด

ที่หน้าประตูเมืองจี้โจวจะมีการแจกข้าวต้มทุกวัน ซึ่งนี้เป็นคำสั่งของผู้ว่าราชการเมืองว่าอย่างน้อยก็ต้องมีแจกหนึ่งมื้อต่อวัน แม้ว่าจะเป็นเพียงข้าวต้มจืดๆ ก็ตาม แต่จะปล่อยให้ผู้ลี้ภัยอดตายไม่ได้

ซูหว่านซื้อเมล็ดข้าวส่งไปที่โรงทานเลย ส่วนเรื่องอื่นๆนางก็ไม่จำเป็นต้องจัดการอะไรแล้ว

ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่สามารถเข้าเมืองได้ ทำได้เพียงอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่ตั้งอยู่นอกเมือง รอให้การสร้างเมืองใหม่อีกครั้งของลุ่มแม่น้ำเซวียนเหอใกล้เสร็จ พวกเขาก็จะกลับไปเอง

ซูหว่านให้คนซื้อข้าวเปลือกสองพันชั่งในคราวเดียวและส่งไปที่หน้าประตูเมืองโดยตรง แจกสองมื้อต่อวันและก็คงกินได้มากกว่าสามวัน

ตอนนี้ข้าวเปลือกหนึ่งชั่งขายในราคาสิบเหวิน ในเซียงโจวข้าวเปลือกหนึ่งชั่งขายเพียงสี่เหวินเท่านั้น แต่ที่นี่ราคาแพงกว่าเท่าตัวเลย

ซื้อสองพันชั่งซูหว่านต้องใช้เงินตัวเองออกไปสองร้อยตำลึง หากเป็นที่เซียงโจวสองร้อยตำลึงสามารถซื้อข้าวสารได้สองพันห้าร้อยจินเลยนะ

นางสั่งให้องครักษ์หาเกวียนเพื่อส่งข้าวเปลือกสองพันชั่งไปที่หน้าประตูเมือง เมื่อผู้ลี้ภัยเห็นเมล็ดข้าวจำนวนมาก ก็พากันคุกเข่าลงกับพื้นก้มกราบเพื่อขอบคุณผู้ใจบุญสำหรับการบริจาคช่วยเหลือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม