เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 431

คนน่าสงสารย่อมมีส่วนที่น่าชิงชัง หากพวกเขามิได้คิดหนีภัยเอาตัวรอด แต่เลือกที่จะอยู่ต่อเพื่อร่วมกันสร้าง แล้วใยถึงได้รอนแรมไร้ที่พักพิงเช่นนี้

เอาแต่คิดจะสบายนั่งรอรับผลประโยชน์โดยไม่ยินดีจะทุ่มเท จะไปมีความสำเร็จอะไรได้

แต่จะว่าไปแล้ว แม้ว่าข้าวของที่จี้โจวจะมีราคาแพง ทว่าที่พักกลับราคาถูกมาก ซูหว่านจึงเลือกที่พักในโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุด แต่แล้วก็ได้พบว่า โรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดของเมืองจี้โจวยังเทียบได้เพียงโรงเตี๊ยมระดับกลางของเมืองเซียงโจวเท่านั้น

เนื่องด้วยเหตุผลเรื่องแม่น้ำเซวียนเหอ เมืองจี้โจวจึงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเมืองชั้นล่าง ระดับเศรษฐกิจที่นี่อาจแย่กว่าตัวอำเภอสักอำเภอหนึ่งในจงโจวเสียด้วยซ้ำ!

นางซื้อร้านค้าที่ทำเลดีที่สุดร้านหนึ่งผ่านสำนักจัดหาที่ดินด้วยเงินไปไม่ถึงหนึ่งพันตำลึง รวมค่าตกแต่งและค่าจ้างคนงานแล้ว ก็ยังนับว่าถูกมาก

สินค้าในเมืองราคาพุ่งสูงขึ้นมาก ชาวบ้านในเมืองต่างก็ใช้ชีวิตกันแค่พอมีพอกิน คนที่จนกว่านั้นหน่อยก็แทบไม่สามารถหาซื้อข้าวซ้อมมือกินได้เลยด้วยซ้ำ

ขนาดเมืองจี้โจวก็ยังเป็นเช่นนี้ หากเป็นหมิ่นโจว ซูหว่านแทบไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อนึกถึงอำเภอโยวที่พี่ใหญ่อยู่ นางก็รู้สึกเห็นใจมาก ที่นั่นคือสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติรุนแรงที่สุด ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ที่อยู่ทางนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีอันตรายถึงชีวิตหรือไม่

นางยังคงใช้วิธีเดิม คือจะว่าจ้างผู้จัดการหญิงในระหว่างที่ตกแต่งร้าน โดยจะมีการสัมภาษณ์กันที่โรงเตี๊ยมโดยตรง จากนั้นก็ให้พวกหลิวอวิ๋นไปตรวจสอบประวัติ

ที่จี้โจวค่อนข้างวุ่นวาย ซูหว่านจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในโรงเตี๊ยม มีเรื่องอะไรก็จะให้ซูอี้เป็นคนออกหน้าจัดการ

ทว่าวันๆ เอาแต่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในโรงเตี๊ยมเช่นนี้ ซูหว่านรู้สึกเบื่อหน่ายจับใจ จึงคิดอยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง ก็แค่พาคนติดตามไปเพิ่มอีกหน่อยเท่านั้น

ทุกคนแต่งกายด้วยชุดเรียบง่าย พยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่นและเป็นที่สะดุดตา เสื้อผ้าก็ทำจากผ้าเนื้อธรรมดา ในเมื่อต้องการทำตัวให้ดูต่ำต้อยก็ต้องทำให้ถึงที่สุด

ข้าวซ้อมมือห้าพันชั่งและข้าวเจ้าเมล็ดสั้นสามพันชั่งที่ส่งไปให้พี่ใหญ่ไปถึงที่หมายแล้ว ด้วยนิสัยของเขา ซูหว่านรู้ดีว่า เขาคงจะไม่เก็บไว้กินเองมากนัก แต่จะบริจาคให้กับชาวบ้านทั้งหมด

นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยมหลายวันติดต่อกัน นอกจากวันแรกที่ออกไปดูร้านก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย แม้แต่การตกแต่งร้านก็มีพี่ห้าคอยดูแลให้

ได้ยินมาว่ายามค่ำคืนที่จี้โจวมีโจรขโมยและนักล้วงกระเป๋ามากมาย สรุปก็คือความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างแย่ ด้วยเหตุนี้ ซูอี้จึงยืนกรานอย่างหนักแน่นที่จะไม่ยอมให้นางออกไปไหนมาไหน

“พี่ห้า พวกเราซื้อมาลองชิมกันเถอะ!”

ซูอี้พยักหน้า ยินยอมตามคำขอเล็กๆ ของน้องสาว

ดังนั้น ซูอี้จึงไปต่อแถวซื้อซาลาเปาขณะที่ซูหว่านและคนอื่นๆ ยืนรออยู่ริมถนน เมื่อซูอี้ถือซาลาเปาร้อนๆ ที่ห่อด้วยกระดาษทาน้ำมันกลับมา เขาหยิบซาลาเปาออกมาหนึ่งลูกแล้วยื่นให้นาง แต่ยังไม่ทันที่ซูหว่านจะได้รับ จู่ๆ เด็กขอทานตัวน้อยคนหนึ่งก็วิ่งออกมา แล้วชนเข้ากับซาลาเปาในมือของซูอี้อย่างแรงทันที ทำให้ซาลาเปาร่วงหล่นเกลื่อนกลาดลงบนพื้นจนกินไม่ได้สักลูก

ขอทานน้อยรีบเอ่ยขอโทษทันควัน แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบซาลาเปาที่เปื้อนขึ้นมาจากพื้น แล้วก็วิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต แต่วิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ล้มคว่ำลงไปกับพื้น

ซูหว่านและซูอี้มองหน้ากันโดยที่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ความจริงนางอยากจะบอกว่าซาลาเปาเปื้อนแล้วอย่าเอาไปเลย ไม่ได้คิดจะโทษเขาแม้แต่น้อย แต่แล้วเขาก็ล้มลงไปเสียก่อน

“เจ้าเด็กเวร หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มสองคนในชุดบ่าวรับใช้ก็ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาเข้ามาล้อมเด็กขอทานและเริ่มเตะต่อยเขาทันที ขอทานน้อยกอดซาลาเปาที่เปรอะเปื้อนไว้แน่น ใช้มือข้างหนึ่งปกป้องศีรษะของตนเองพร้อมกับขดตัวปล่อยให้พวกเขาซ้อม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม