เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 437

กู้เย่ว์เริ่มแจกข้าวต้มตั้งแต่เช้าตรู่ ผู้ลี้ภัยต่างเข้าแถวรับข้าวต้มอย่างเป็นระเบียบ

การหุงข้าวต้มใช้แค่ข้าวซ้อมมือก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ข้าวเจ้า สำหรับผู้ประสบภัย ขอแค่มีอะไรกิน ก็ถือว่าดีมากแล้วจริงๆ

สาวใช้คนหนึ่งของกู้เย่ว์วิ่งเข้ามารายงานว่า มีคุณหนูแซ่ซูคนหนึ่งบริจาคข้าวซ้อมมือจำนวนสามพันชั่งให้แก่โรงทาน

“คุณหนูแซ่ซู? คุณหนูซูคนไหนหรือ”

เมื่อได้ยินว่าแซ่ ‘ซู’ กู้เย่ว์ก็รู้สึกใจหาย คิดถึงซูหว่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“บ่าวไม่ทราบว่าเป็นคุณหนูซูคนไหนเจ้าค่ะ อีกฝ่ายบอกแค่ว่าแซ่ซูเท่านั้น” สาวใช้ส่ายศีรษะ

กู้เย่ว์รู้สึกประหลาดใจ นางจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดเมื่อเห็นเกวียนบรรทุกข้าวสารเหล่านั้น

ในเวลานั้นเอง คาราวานกองหนึ่งผ่านมาที่หน้าประตูเมือง ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก

กู้เย่ว์เงยหน้าขึ้น สบตากับซูหว่านที่เลิกม่านรถมองออกมาข้างนอกพอดี

นางมองซูหว่านด้วยความรู้สึกตกตะลึง ซูหว่านก็มองนางเช่นกัน แต่ซูหว่านดูสงบนิ่งกว่ามาก ทั้งยังยิ้มให้นางอย่างมีความหมาย ก่อนจะลดม่านลง

ไม่ว่ากู้เย่ว์จะมีจุดประสงค์ใดก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านางกำลังทำความดีอยู่

กู้เย่ว์ลดสายตาลง คิดว่าเหตุใดซูหว่านถึงมาอยู่ที่เมืองหมิ่นโจวได้

ที่นี่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างหนัก ไม่เหมาะกับการขยายธุรกิจ ดังนั้นนางน่าจะมาที่นี่ก็เพราะซูจิ่ง

กู้เย่ว์ตรึกตรองอย่างถ้วนถี่ นางเองก็ควรจะไปที่อำเภอโยวด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก็ไปให้ซูจิ่งเห็นหน้าบ้าง ตอนนี้ซูจิ่งได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ การก่อสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำเซวียนเหอก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ชาวบ้านบริเวณลุ่มน้ำต่างก็ชื่นชมเขา

เมื่อใดก็ตามที่เขื่อนแห่งนี้เสร็จสิ้น เขาจะต้องกลายเป็นขุนนางหัวแถวคนใหม่ในราชสำนักอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีตำแหน่งถึงขั้นสาม พี่เซิงเคยบอกไว้ว่าเขาต้องการคนรุ่นใหม่แบบนี้ในอนาคตเพื่อมาเป็นกำลังสำคัญของเขา

นางบริจาคเงินตั้งห้าหมื่นตำลึงเพื่อสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำเซวียนเหอ แน่นอนว่าเป็นจำนวนเงินที่ซูหว่านไม่สามารถควักออกมาได้ ซูจิ่งเองก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นเงินของนาง เมื่อนางไปถึงที่นั่น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาย่อมต้องให้เกียรติปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี

“คุณหนู เมื่อไหร่พวกเราถึงจะกลับกันสักทีล่ะเจ้าคะ”

ในขณะที่กู้เย่ว์กำลังครุ่นคิด ก็มีเสียงบ่นไม่พอใจของเฉินอิ้งหงดังขึ้นจากด้านหลัง

เมื่อหมุนกายไปมอง ก็ได้เห็นกับใบหน้าที่ดูหงุดหงิดของอีกฝ่าย

หลังจากออกเดินทางจากเมืองหมิ่นโจวตั้งแต่เช้าตรู่ ก็มาถึงอำเภอโยวในตอนพลบค่ำ ซูจิ่งไม่เคยคิดเลยว่าซูหว่านและซูอี้จะมาที่นี่

ตอนนี้พื้นที่ประสบภัยบริเวณลุ่มน้ำเซวียนเหอกำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะใหม่ ส่วนเขื่อนกั้นน้ำก็กำลังเร่งสร้างทั้งกลางวันและกลางคืน

ก่อนหน้านี้ ซูหว่านได้เสนอวิธีการทำงานแบบสองกะให้แก่เขา โดยกำหนดให้มีการเข้ากะกลางวันและกลางคืนสลับกัน กะละครึ่งเดือน และให้หยุดพักหนึ่งวันในช่วงเปลี่ยนกะ วิธีนี้รับประกันได้ว่าสุขภาพและพละกำลังของทุกคนจะสามารถเร่งสร้างเขื่อนได้อย่างเต็มกำลังทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลาได้มาก

ดังนั้น แม้จะเป็นช่วงพลบค่ำที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ซูจิ่งก็ยังคงอยู่ที่เขื่อนเพื่อควบคุมการก่อสร้างและศึกษาแบบแปลน

ช่วงน้ำหลากได้ผ่านพ้นไปแล้ว แม้ว่าน้ำในลำน้ำเซวียนเหอจะเชี่ยวกราก แต่ระดับน้ำก็ยังอยู่ในระดับปกติ ยกเว้นช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปีที่จะอันตราย ช่วงเวลาอื่นก็ถือว่าปลอดภัย

ปีนี้บังเอิญประสบกับน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง ทำให้หลายหมู่บ้านหลายตำบลถูกน้ำพัดพังทลาย เพิ่งจะสร้างขึ้นใหม่ได้ไม่กี่ปี ก็ต้องกลับมาสร้างใหม่อีกแล้ว

ยังดีที่เขื่อนของเขาใช้หินปูน จึงไม่ถูกพัดพังทลาย ความเสียหายหลังน้ำท่วมจึงไม่มากมายนัก สามารถสร้างต่อได้เลย

คาดว่าอีกไม่ถึงสองปี เขื่อนก็น่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์

ตอนที่ซูหว่านและซูอี้มาถึง พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยโคลนแห้งๆ สีเหลือง เมื่อมองไปรอบๆ แทบไม่มีต้นไม้เขียวเลยสักต้น ที่นี่ดูแร้นแค้นกว่าเมืองหมิ่นโจวมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม