สิ่งที่เขาให้ได้มีไม่มากนัก มีก็แต่สิ่งของนอกกายเหล่านี้
มนุษย์บนโลกใบนี้หลักๆ มีความต้องการอยู่แค่สี่อย่างเท่านั้น นั่นก็คือ เสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย และการเดินทาง การมอบชีวิตที่สุขสบายให้แก่พวกเขา ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
“ไม่จำเป็นหรอก ครอบครัวของเราไม่ใช่พวกที่ชอบทวงบุญคุณ เงินทองที่ได้มาจากผู้อื่น สุดท้ายแล้วใช้ไปก็ไม่สบายใจ อีกอย่าง การช่วยท่านก็เป็นความตั้งใจแน่วแน่ของน้องสาวข้า เงินค่ายาก็เป็นนางที่ออก ข้าแค่อาศัยท่านฝึกฝีมือก็เท่านั้นเอง ถ้าท่านอยากจะตอบแทนจริง ๆ ลองถามน้องสาวของข้าด้วยตัวเองสิ ว่านางต้องการอะไร!”
ไม่โลภเงินทอง คนแบบนี้ช่างหายากจริงๆ เจียงอวี้รู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก
ในโลกนี้ คนที่สามารถวางเฉยต่อสิ่งล่อลวงอย่างเงินทองได้นั้นหาได้ยากนัก
“เช่นนั้น เมื่อสะดวก ข้าจะไปถามน้องสาวท่านด้วยตัวเอง!”
“อีกไม่กี่วัน ข้าก็จะออกไปทำงานแล้ว หนึ่งเดือนจะกลับมาบ้านแค่สองครั้ง พอถึงตอนนั้นข้าจะไม่อยู่บ้าน แต่ข้าก็ได้เขียนข้อควรระวังต่างๆ ไว้ในกระดาษหมดแล้ว ถึงตอนนั้นน้องชายข้าทั้งสามคนจะดูแลท่านเป็นอย่างดี พวกเราเป็นคนซื่อสัตย์ เมื่อตัดสินใจช่วยท่านแล้วก็จะดูแลจนท่านหายดี!”
ที่แท้ซูมู่กำลังเขียนข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยอยู่นั่นเอง
“ขอบคุณมาก ถึงตอนนั้นยาต่างๆ ที่บ้านตระกูลซูนำมาใช้ อาหารที่กินไป ค่ารักษาพยาบาลที่หมอทั่วไปเรียกเก็บ ท่านหมอซูช่วยทำรายการออกมาด้วยให้ข้าด้วย ข้าจะจ่ายเงินให้ท่านตามที่เห็นสมควร การที่ท่านรักษาคนป่วย ข้าจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ ย่อมเป็นเรื่องที่ถูกต้อง!”
เจียงอวี้ยังถือว่ามีคุณธรรม ซูมู่เลิกคิ้วขึ้น เมื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล ก็สมควรรับไว้ เขาเองก็ไม่เกรงใจแล้ว อย่างน้อยนี่ก็เป็นคนไข้คนแรกอย่างเป็นทางการที่เขารักษาเอง การเก็บค่ารักษาก็ยังจำเป็นอยู่
แน่นอนว่าคนอื่นๆ ไม่รู้เรื่องการสนทนาของทั้งสองในห้อง ซูหว่านกับพี่ชายต่างก็กินเนื้อกันอย่างมีความสุข
พรุ่งนี้พี่สามจะขึ้นเขาไปตัดฟืน ส่วนพี่ใหญ่ พี่สี่ พี่ห้า และนางก็จะอยู่บ้านทำสบู่
นางยังไม่มีโอกาสปรึกษาพี่รองว่าสมุนไพรจีนชนิดใดดีต่อเส้นผม และสามารถนำมาใส่ในสูตรสบู่ได้
แต่ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีกว่า
“หวานหว่าน สองสามวันนี้พี่จะช่วยงานเจ้าให้มากขึ้น อีกไม่กี่วันพี่ใหญ่ก็จะกลับไปยังสำนักศึกษาแล้ว ปีหน้าก็เป็นปีของการสอบราชการที่จัดขึ้นทุกๆ สามปี จะประมาทไม่ได้ ตั้งแต่นี้ไปจนถึงสิ้นปี คงต้องอยู่ที่สำนักศึกษาเพื่อทบทวนตำรา!”
วันรุ่งขึ้น ซูเฉินก็ถือมีดตัดฟืนขึ้นเขาไปแต่เช้า เขาอ้างว่าจะไปตัดฟืน แต่แล้วก็ไปล่าสัตว์บนภูเขากับลุงเจียง กะว่าจะหาเนื้อสัตว์ป่ากลับไป ถ้าได้มาเยอะก็จะเอาไปกิน แต่ถ้าไม่เยอะก็จะเอาไปขาย
เขาคิดว่า ควรเก็บเงินไว้ให้มากขึ้นเพื่อใช้ยามจำเป็น ผู้ชายในบ้านมีตั้งเยอะ จะพึ่งพาน้องสาวให้หาเงินคนเดียวได้อย่างไร เรื่องแบบนี้ถ้าพูดออกไปก็น่าอับอายขายหน้าเหลือเกิน
ตั้งแต่ซูอวิ๋นและซูอี้เรียนรู้วิธีทำสบู่ได้แล้ว พวกเขาก็แทบจะไม่ยอมให้ซูหว่านลงมือทำเองเลย ส่วนใหญ่พวกเขาก็เป็นคนทำ ซูหว่านก็แค่ยืนดูอยู่ข้างๆ ถ้าเจอตรงไหนผิดปกติก็รีบบอกพวกเขา
แต่สบู่กลิ่นดอกไม้ สินค้าใหม่นี้ นางจะทำเอง ยังคงใช้แม่พิมพ์ทรงกลม ทำออกมาสักยี่สิบสามสิบก้อนเพื่อทดลองตลาดก่อน ถ้าขายดีค่อยเพิ่มกำลังการผลิต
หลังจากชำระหนี้แล้ว เงินก็เหลือน้อย วัตถุดิบหลายอย่างต้องซื้อ น้ำมันเมล็ดซิ่งที่ซื้อมาครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ก็ยังสามารถใช้ทำสบู่ได้อีกหกสิบก้อน ครึ่งหนึ่งเป็นสบู่นมแพะผสมน้ำมันเมล็ดซิ่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นสบู่กลิ่นดอกไม้ ส่วนสบู่นมแพะผสมน้ำมันหมูก็ยังต้องทำต่อไป น้ำมันหมูที่เหลือยังสามารถทำได้อีกร้อยยี่สิบก้อน
ตกลงกันว่าจะส่งของในอีกสิบวันข้างหน้า นางแช่น้ำมันเมล็ดซิ่งกับดอกหอมหมื่นลี้เอาไว้ หลังจากแช่หลายครั้งก็หอมฟุ้งไปทั่ว กลิ่นหอมนั้นถึงขนาดลอดช่องประตูเข้าไปในจมูกของเจียงอวี้เป็นระยะๆ
ทั่วทั้งลานอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ ราวกับปลูกต้นหอมหมื่นลี้ไว้หลายต้น กลิ่นดอกหอมหมื่นลี้นั้นหอมเข้มข้นอยู่แล้ว แค่เดินวนอยู่ในนั้นสองรอบ ตัวก็ต้องติดกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ไปด้วย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...