เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 45

ตอนนี้เขาสามารถกินอาหารอย่างช้าๆ ได้เองแล้ว หลังจากกินน้ำข้าวมาหลายวัน แถมมองไม่เห็นอีก ทำให้ดูเหมือนหนุ่มหล่อที่อ่อนแอมาก

ซูหว่านซื้อขนมเซาปิ่งไส้กุยช่ายผสมเนื้อกลับมา ก็ยังนึกถึงส่วนของเขาอยู่ด้วย ในมื้อเย็น ซูมู่นำขนมเซาปิ่งที่อุ่นแล้ว พร้อมกับข้าวต้มใส่หมูสับชามหนึ่งเข้าไปให้เขากิน

ตอนนี้เขาสามารถกินได้แค่ของเหลว หรืออาหารอ่อนๆ เท่านั้น

“ดื่มยาให้หมดก่อน แล้วค่อยกินอะไรรองท้อง!”

เจียงอวี้ถูกปิดตาไว้อยู่ ดวงตาของเขาไม่สามารถทนแสงจ้าได้ แต่ทุกวันซูมู่ก็จะใช้น้ำอุ่นล้างตาให้เขา ตอนนี้เขารู้สึกเพียงว่าดวงตาแห้งและเจ็บ แถมตอนแรกๆ ยังแสบร้อนเล็กน้อยด้วย มองไม่เห็นอะไรเลย

“ขอบคุณ”

เสียงพูดของเขาไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนฝึกยุทธ์ และฝีมือสูงด้วยแล้ว คนทั่วไปที่บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้คงตายไปนานแล้ว

ต่อให้รักษาชีวิตไว้ได้ชั่วคราว แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าไม่มีระดับการรักษาพยาบาลที่ดีพอ ก็ยังไม่แน่ว่าจะประคองอาการไว้ได้

พูดได้เพียงว่าคนผู้นี้ ช่างมีชะตาชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ถูกพิษร้ายแรงถึงขนาดนี้แต่ยังมีตัวยาที่สามารถยับยั้งพิษได้ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า สถานะของเขาไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เจียงอวี้กล่าวขอบคุณ ซูมู่ก็ไม่ได้ถ่อมตัว เขาพูดน้อยและมีนิสัยเย็นชา ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เจียงอวี้ก็รับรู้ได้ด้วยตัวเอง

เขารู้แล้วว่าครอบครัวนี้มีพี่น้องหกคน บิดามารดาไม่อยู่บ้าน ที่ศาลเจ้าที่ในวันนั้น ก็เป็นลูกสาวของบ้านนี้ที่ยืนกรานจะช่วยเขา และชายหนุ่มที่รักษาเขาผู้นี้ก็บังเอิญรู้วิธีถอนพิษชีซิงไห่ถัง จึงทำให้เขารอดชีวิตมาได้

กระบวนการที่ยากลำบากเหล่านั้น พี่สี่ของบ้านนี้ได้เล่าให้เขาฟังหมดแล้ว

ปากของซูอวิ๋นช่างพูดเจื้อยแจ้วที่สุด พอเจียงอวี้ฟื้นสติ ก็จะได้ยินเขาบ่นพึมพำอยู่ข้างหูเป็นระยะ ๆ ด้วยน้ำเสียงเสียดสีประชดประชัน ซึ่งไม่ค่อยน่าฟังนัก

คล้ายกับการสอบถามสถานะของเขา ถามว่าทำไมเขาถึงถูกไล่ล่ามาถึงที่นี่ จะทำให้ศัตรูตามมาถึงที่นี่หรือไม่ และจะทำให้ครอบครัวของพวกเขาเดือดร้อนหรือเปล่า

แน่นอนว่าเจียงอวี้ไม่ได้เปิดเผยฐานะของตัวเอง เพียงแต่บอกว่าเป็นคนพเนจรในยุทธภพ และได้ไปสร้างเรื่องกับนักฆ่าบางกลุ่มเข้า ซึ่งในสายตาของพวกนั้น เขาได้ตายไปแล้วและคงไม่กลับมาสร้างปัญหาอีกต่อไป

ยาและอาหารวางอยู่บนโต๊ะ เจียงอวี้มองไม่เห็น เขากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง สามารถมองเห็นแสงเทียนสีส้มจางๆ ผ่านผ้าที่ปิดตาไว้ เขาไม่สามารถลืมตาได้นานเกินไป มิฉะนั้นดวงตาจะแห้งและเจ็บปวดจนน้ำตาไหล

ซูมู่เห็นเขายื่นมือออกมาคลำหาถ้วย จึงได้ยื่นถ้วยยาให้เขาไป

“ขอบคุณ”

“ท่านควรขอบคุณนางจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะนางยืนกรานจะช่วยท่านให้ได้ บางทีท่านอาจจะกลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าไปแล้ว เดิมทีข้าไม่คิดจะลงมือช่วยท่านหรอกนะ เพราะคนอย่างท่านย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ส่วนครอบครัวของข้าเป็นสามัญชนทั้งบ้าน ไม่อาจทนรับความวุ่นวายใหญ่โตได้ เพียงแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็เท่านั้น

แต่นางพูดถูก ข้าเป็นหมอ จะให้นั่งมองชีวิตหนึ่งดับสูญไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร? แม้จะมีโอกาสแค่หนึ่งในสิบก็ต้องลองดู นางว่าท่านไม่ใช่คนเลวร้าย แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงคิดเช่นนั้น แต่ข้าก็ได้ประโยชน์มากมายจากเรื่องนี้ ท่านเป็นคนไข้คนแรกของข้าเลยนะ การช่วยท่านไว้ ข้าไม่นึกเสียใจเลย!”

ซูมู่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับว่าเขาเกิดมาพร้อมกับนิสัยที่สุขุมเช่นนี้ เจียงอวี้แม้จะมองไม่เห็น ก็ยังสามารถจินตนาการภาพลักษณ์ของซูมู่ขึ้นมาในใจได้อย่างเลือนราง

เขายกมุมปากยิ้มเล็กน้อย นี่ตัวเขาไม่ใช่คนเลวร้ายหรอกหรือ?

“ท่านหมอซู ขอถามหน่อยว่าดวงตาของข้าจะกลับมามองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้งหรือไม่?”

เจียงอวี้คิดว่า ถ้าต้องตาบอดไปตลอดชีวิต คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะเขาจะไม่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้มีพระคุณ

นางมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้าย ถ้าไม่ได้เห็นหน้านาง เขาก็รู้สึกเสียดาย!

“ผงปูนขาวเข้าตาท่าน แต่โชคดีที่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไม่ได้ทำลายรากฐาน เพียงแค่หมั่นล้างด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆ อีกไม่นานก็จะกลับมามองเห็นได้ชัดเจน”

“ดียิ่งนัก แต่ก็อย่างที่ท่านหมอซูกล่าวไว้ ข้าไม่ใช่คนสามัญชนธรรมดา เพียงแต่มีฐานะดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ครั้งนี้ที่รอดจากยมโลกมาได้ บุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ไม่อาจทดแทนได้หมด ท่านหมอซูและครอบครัวสามารถขออะไรก็ได้ตามสบาย ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง เครื่องประดับล้ำค่าหรือแม้แต่อาหารเลิศรส ตราบใดที่ข้าให้ได้ ข้าก็ยินดีที่จะมอบให้ทั้งหมด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม