ซูอี้เข้าใจซูหว่าน จริงๆแล้วในใจนางมีเเผน และไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพยายามให้หยางมามามาทำงานให้ได้
ในวันรุ่งขึ้น ตามที่นัดหมายไว้ ซูหว่านและซูอี้เตรียมรถม้าเเละไปรับหยางมามาตรงเวลา พวกเขาไปที่ร้านอวี้เหยียนถังก่อน ซึ่งตกเเต่งใกล้เสร็จเเล้ว เหลือแค่จัดร้านให้เรียบร้อยก็พร้อมเปิด
จากนั้นก็เดินทางออกนอกเมืองไปที่หมู่บ้าน ในหมู่บ้านได้ซื้อบ่าวชายเเละบ่าวหญิงมายี่สิบคน ในจำนวนนี้มีสี่คนที่เป็นบ่าวชั้นดีเพื่อเป็นผู้นำบ่าวในหมู่บ้าน ส่วนที่เหลือเป็นบ่าวระดับกลางเเละระดับล่าง จะฉลาดหรือไม่ฉลาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่ทำงานได้ก็พอ เพราะคนที่ฉลาดไปมักจะสร้างปัญหา
เพราะซูหว่านได้บอกพวกเขาว่า หากทำงานดีก็จะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นบ่าว เเต่ไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอน การทำแบบนี้นางทำมาหลายครั้งเเล้ว เเละได้เรียนรู้บทเรียนเเละข้อบกพร่องต่างๆ ซูหว่านจึงค่อยๆเติบโตขึ้น นางรู้ดีว่าไม่ควรให้สัญญามากเกินไป ไม่อย่างงั้นคนพวกนั้นจะเหลิงได้ง่าย
นางได้บอกหยางมามาว่า หลังจากนี้การเพิ่มคนในหมู่บ้านจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางเอง ยกเว้นบัญชีรายไตรมาสที่ต้องส่งไปที่เซียงโจวเพื่อให้ตรวจสอบ เรื่องเล็กน้อยอื่นๆ สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง เพราะนางได้รับอำนาจอย่างเต็มที่เเล้ว ซึ่งพอๆกับที่น้าชายของนางได้รับ
หยางมามาเห็นการดำเนินงานของโรงผลิตเเละสบู่ที่ทำจากนมเเพะ นางพยักหน้าชมไม่หยุด
พูดกันตามตรง ซูหว่านเป็นผู้หญิงรุ่นใหม่ที่นางเห็นว่าเก่งกาจเป็นพิเศษ
สิ่งที่นางให้ความสำคัญที่สุด ไม่ใช่การยึดมั่นในกฏระเบียบเเละเข้าใจเหตุผล เเต่นางชื่นชมซูหว่านที่เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญเเละเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดที่จะพึ่งพาผู้ชาย เเต่สามารถตัดสินใจเรื่องของตัวเองได้
เเต่ในยุคโบราณที่มีระบบศักดินา สิ่งที่ซูหว่านจะให้ตัวเองได้ ก็คือการมีอิสรภาพทางการเงิน และสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องที่ว่าจะไปประกาศให้ผู้หญิงเป็นอิสระเเละทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันนั้น เป็นสิ่งที่ผู้หญิงที่ย้อนยุคมาเเบบไม่มีสมองเท่านั้นที่จะทำได้ นางไม่มีความสามารถมากขนาดนั้นที่จะเปลี่ยนความคิดของราชวงศ์ในระยะเวลาอันสั้นได้ เพราะมรดกที่สืบทอดกันมาหลายพันปี จะให้นางเปลี่ยนได้ในวันเดียวด้วยคำพูดไม่กี่คำได้อย่างไร การที่ยุคหลังจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ผ่านการเปลี่ยนเเปลงมาเกือบสองร้อยปี เเละความพยายามรวมเลือดเนื้อของคนนับไม่ถ้วน ร่องรอยที่เต็มไปด้วยบาดเเผลเหล่านั้นไม่สามารถลบออกไปได้เลย จำได้เพียงจดจำไว้ในใจ ชีวิตนั้นสั้นนัก ในเมื่อไม่สามารถดูเเลทุกคนได้ ก็ขอเเค่ดูเเลตัวเองก็พอ
ถ้าจะพูดอย่างจริงจังหน่อย ความคิดเหล่านี้ถ้าพูดออกไปจะเป็นเรื่องอุกอาจเเละต้องโทษถึงตาย ซูหว่านยังรักชีวิตของนางมาก
ส่วนเรื่องของพี่ชายทั้งหลาย นั่นคือญาติของนางในอีกโลกหนึ่ง ครอบครัวก็ควรจะช่วยเหลือกัน รุ่งโจน์ก็รุ่งโรจน์ร่วมกัน หายนะก็หายนะร่วมกัน ความสำเร็จของพวกเขาในอนาคตก็คือที่พึ่งพิงของซูหว่าน แต่ซูหว่านก็ทุ่มเทให้พวกเขาเช่นกัน ความสัมพันธ์เเบบสองฝ่ายที่มุ่งไปข้างหน้าไปข้างหน้าพร้อมกัน ไม่ใช่การพึ่งพิงฝ่ายเดียว
ยังมีเจียงอวี้ ซูหว่านไม่เคยทำตัวต่ำต้อยต่อหน้าเขา อย่างน้อยซูหว่านก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย นางเป็นฝ่ายนำเสมอเมื่ออยู่กับเขา เเละในอนาคตเจียงอวี้ก็จะเป็นฝ่ายฟังนาง ต่อให้ในอนาคตแต่งงานไปอยู่ที่จวนกั๋วกงนางก็ไม่ต้องระมัดระวังอะไรเลย พี่ชายที่นางคอยสนับสนุนจนเติบโตมาได้นี่เเหล่ะคือที่พึ่งของนาง หากเจียงอวี้ทำไม่ดีกับนางหรือรังแกนาง นางก็พร้อมที่จะถอนตัวได้ทุกเมื่อ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...