อาหลินน่าจะเป็นชื่อของหลี่มามา หลี่มามายิ้มเล็กน้อยด้วยความรู้สึกเขินอาย
“หยางมามา ไม่เป็นไร วันนี้พวกเรามาหาท่านเพราะมีเรื่องสำคัญจะปรึกษา ฮูหยินเสิ่นจากจวนมหาบัณฑิตเป็นคนเเนะนำข้ามา”
พอหยางมามาได้ยินว่ามาจากฮูหยินเสิ่นแห่งจวนมหาบัณฑิต นางก็รู้ทันทีว่าเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ นางจึงเดินไปนั่งที่ตำเเหน่งประธาน เเละให้หลี่มามาพาเด็กๆออกไปก่อน
ในห้องโถงจึงกลับมาเงียบสงบ เสียงหัวเราะของเด็กๆก็เลือนหายไป
ซูหว่านจึงเริ่มพูดคุยกับหยางมามาเกี่ยวกับเรื่องที่นางต้องการจะจ้างหยางมามาให้เป็นผู้ดูแลร้านอวี้เหยียนถังของตัวเอง
มีหมู่บ้านนอกเมืองหลวง เเละได้ซื้อคนกลุ่มหนึ่งมาทำงานเเล้ว เเต่ยังขาดผู้ดูแล เเละในอนาคตก็จะเปิดสาขาที่เมืองใกล้เคียงอีกสองเมืองด้วย สรุปแล้วหยางมามาเเค่ต้องดูแลการดำเนินงานของโรงผลิตเเละร้านอวี้เหยียนถัง รวมถึงการทำบัญชีและจ่ายค่าจ้างให้คนงาน ซึ่งนางอธิบายรายละเอียดทั้งหมดอย่างละเอียด
งานนี้ไม่เหนื่อยเลย เพราะสามารถทำงานจากที่บ้านได้ เเต่ด้วยความที่ตลาดในเมืองหลวงมีขนาดใหญ่มาก ซูหว่านจึงไม่วางใจที่จะมอบหมายให้คนไม่มีประสบการณ์ดูเเล นางจึงมาหาหยางมามา
หลังจากฟังจบ หยางมามาก็ดูสนใจมาก เพราะซูหว่านบอกว่านางสามารถจัดสรรเวลาได้อย่างอิสระ ขอแค่ดูแลคนใต้บังคับบัญชาไม่ให้คิดเรื่องไม่ดี เเละจัดการบัญชีให้เรียบร้อยก็พอ ยิ่งไปกว่านั้น ซูหว่านยังให้เงินเดือนเดือนละหนึ่งร้อยตำลึง ซึ่งเกือบเท่ากับเงินเดือนของข้าราชการหญิงในวังเป็นเวลาเกือบหนึ่งปี เเต่ในวังก็ต้องใช้เงินดูเเลตัวเอง ทำให้เเต่ละปีเก็บได้ไม่มากนัก
หยางมามาเป็นผู้ที่ถนัดงานนี้ที่สุด ทั้งการบริหารคนเเละการทำบัญชี เพราะตอนที่เป็นข้าราชการหญิง นางสามารถดูแลคนใต้บังคับบัญชาได้อย่างเรียบร้อย
“หยางมามา ท่านสามารถหาเวลาที่สะดวกได้เลย ข้าจะพาไปดูโรงผลิตด้วยตัวเอง เเละร้านของเราก็อยู่ใกล้บ้านท่านมาก เดินทางสะดวก เรามีความตั้งใจจริงๆที่จะเชิญท่านมาเป็นผู้จัดการใหญ่ของร้านอวี้เหยียนถังของพวกเรา เราเชื่อมั่นในความสามารถและชื่อเสียงของท่าน ถ้าเป็นคนอื่นเราไม่วางใจ”
ซูหว่านมีท่าทีที่ให้ความเคารพเเละจริงใจมาก หยางมามาฟังไปก็พยักหน้าไป
นางยังถามรายละเอียดอีกหลายเรื่อง ซึ่งซูหว่านก็ตอบให้ทีละข้อ ตอนที่นางรู้ว่าร้านอวี้เหยียนถังมีสาขาอยู่ตามเมืองต่างๆ นางก็เเสดงความชื่นชมซูหว่านออกมาทางสายตา
ในตอนเเรกนางคิดว่าซูหว่านเป็นเพียงคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่คิดอยากจะทำธุรกิจเล่นๆ เเต่ไม่คาดคิดเลยว่านางจะมีความสามารถมากขนาดนี้ ที่ไม่สามารถดูเเลเองได้ก็เพราะมีหลายอย่างที่ต้องทำพร้อมกัน ร้านค้าของนางกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงดูเเลได้ไม่ทั่วถึง
เห็นได้ชัดว่าถึงเเม้หยางงมามาจะดูเป็นคนอ่อนโยน เเต่เมื่อเป็นเรื่องงาน นางกลับเป็นคนละเอียดรอบคอบมาก ทุกเรื่องเเละทุกรายละเอียดนางต้องสอบถามให้ชัดเจน
ไม่ทันไรก็ถึงเวลาเที่ยงเเล้ว หลี่มามาทำอาหารสำหรับซูหว่านเเละซูอี้เสร็จพอดี หยางมามาจึงชวนให้พวกเขาทานอาหารกลางวันด้วยกัน แล้วค่อยคุยกันต่อหลังจากทานข้าวเสร็จ
พี่น้องทั้งสองก็ไม่ได้อิดออดอะไร ไปร่วมทานอาหารด้วยกัน ระหว่างมื้ออาหารหยางมามาก็ค่อนข้างยึดถือระเบียบคือ ห้ามพูดคุยระหว่างทานอาหาร เเม้เเต่เด็กๆที่ปกติจะส่งเสียงดังก็ยังเงียบและตั้งใจทานข้าวอย่างเรียบร้อย
“จะอร่อยกว่าที่พี่สี่ทำหรือ”
ซูอี้ส่ายหน้า
“ไม่หรอก เรื่องทำอาหารต้องยกให้พี่สี่เท่านั้น เเต่ว่าอาหารของหลี่มามามีรสชาติเหมือนอาหารของท่านเเม่” คำตอบของซูอี้ไม่มีใครเหมือน เเละซูหว่านก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“เห็นด้วยอย่างยิ่ง เเต่ก็หายาก ถ้าพี่สี่ได้ยิน เขาจะต้องดีใจไปสามวันสามคืนแน่ๆ”
ซูอวิ๋นกับซูอี้เป็นเเฝดกัน เเต่ปกติมักเข้ากันไม่ได้ ชอบโต้เถียงกัน ไม่มีใครยอมใคร เเต่ลับหลังเเล้วสองพี่น้องกลับชื่นชมความสามารถในด้านที่อีกฝ่ายถนัด
ซูอี้เเค่ยิ้มเฉยๆ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาพูดต่อว่า
“เจ้าดูพอใจในตัวหยางมามามาก ในใจเจ้ามีคำตอบอยู่เเล้ว งั้นข้าก็อยู่ข้างเดียวกับเจ้าอยู่เเล้ว อีกอย่างข้าว่าหยางมามาทำงานนี้ดูเหมือนจะเป็นการใช้ความสามารถไม่เต็มที่”
ซูอี้ชื่นชมความสามารถของหยางมามามาก เพราะอย่างไรเสียนางก็เคยเป็นข้าราชการหญิงในวัง จะเป็นคนธรรมดาไปได้อย่างไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...