อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฮูหยินรองจะไม่มีตำแหน่งภรรยาเอก แต่ตอนนี้เรือนหลังของจวนก็เป็นนางที่คอยดูแลจัดการทั้งหมด ทั้งยังเวลาออกไปข้างนอก ขบวนของนางก็จัดตามแบบภรรยาเอกทุกประการ”
ซูหว่านไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย ต้องอาศัยการสืบถามเท่านั้นถึงจะรู้
เมื่อได้ฟังเช่นนี้แล้ว เจียงกั๋วกงก็ถือว่าไม่เลว ในยุคเช่นนี้ การรับเพียงแค่อนุภรรยาคนเดียว อีกทั้งเพื่อภรรยาผู้ล่วงลับ ก็ไม่ยอมแต่งตั้งตำแหน่งภรรยาเอกให้ใครเลย นับว่าใช้ได้
แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดความสัมพันธ์ระหว่างเจียงกั๋วกงกับเจียงอวี้บุตรชายถึงได้ย่ำแย่นัก
ไม่รู้ว่าฮูหยินรองคนนั้นจะรู้สึกหรือไม่ว่ามีคนซุบซิบนางอยู่ นางหันหน้าไปทางด้านหลังเล็กน้อยแล้วชายตามองมาทางนี้ ซูหว่านเห็นเข้าพอดี ท่วงท่าและแววตาเช่นนี้หากคนไม่รู้คงนึกว่านางเป็นฮูหยินใหญ่แน่ๆ
เจียเฉิงนินทาคนอื่นลับหลังก็พลันรู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบหลบสายตาไปทางอื่นและลูบจมูกตัวเอง
ซูหว่านกลับทำตัวตามปกติ เพราะอย่างไรแล้วในอนาคตพวกนางก็ต้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน การทำความรู้จักกันไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ส่วนกู้เย่ว์ก็นั่งอยู่กับสหายสนิทอยู่ที่ด้านหลังพวกนาง ในวงสังคมเช่นนี้ นางไม่ค่อยรู้จักกับสตรีสูงศักดิ์คนใดเท่าไหร่นัก คนที่คบหาสมาคมด้วยจึงเป็นเพียงบุตรสาวของขุนนางระดับสี่ระดับห้าในเมืองหลวงเท่านั้น
เพราะถึงแม้นางจะเป็นเสี้ยนจู่ แต่ครอบครัวของนางเป็นพ่อค้า ซึ่งตามลำดับชนชั้นตามสี่อาชีพหลักแล้ว พ่อค้าอยู่ในลำดับสุดท้ายเสมอ ทุกครั้งที่กู้เย่ว์ออกงาน นางมักจะสวมใส่เครื่องประดับทองและเงินเต็มตัว ทำให้หญิงสาวคนอื่นรู้สึกว่านางมีแต่กลิ่นอายของเงินตรา ไม่เต็มใจที่จะคบหากับนางสักเท่าไหร่
สรุปคือ บรรดาผู้ที่ไม่มีใครคบหาต่างก็รวมกลุ่มกันเอง ไม่มีบุตรสาวตระกูลสูงศักดิ์ที่จะเต็มใจคบหาสมาคมกับนาง
เมื่อนางเห็นซูหว่านและเจียเฉิงที่อยู่ด้านหน้ากำลังพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนานและเดินอยู่ใกล้ชิดกันเช่นนั้น ในใจของนางก็เกิดความดูแคลน
ก็เพราะเห็นแก่หน้าของพี่ชายทั้งสองแห่งตระกูลซูนั่นแหละ นางถึงได้เต็มใจพาซูหว่านไปร่วมวงด้วย หากไม่แล้ว นางจะมีดีอันใด
ซูหว่านไม่ได้สนใจกู้เย่ว์เลย นางตามเจียเฉิงไปสนทนาเรื่องงิ้วจนกระทั่งโรงงิ้วเลิกรา หลังจากนั้นก็ถึงเวลาสำหรับงานเลี้ยงยามค่ำ
ทว่านางรู้สึกได้ว่ามีสายตาหนึ่งจับจ้องมองนางอยู่ด้านหลัง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
เจียเฉิงบอกกับนางแล้วว่า เมื่อรุ่ยเสวี่ยให้กำเนิดลูกแมวแล้ว จะยกให้แก่นางเป็นตัวผู้หนึ่งตัวและตัวเมียหนึ่งตัว ให้เป็นคู่กัน
เมื่อถึงเวลาทานอาหาร ซูหว่านตั้งใจว่าจะนั่งร่วมโต๊ะกับแม่ซูและฮูหยินเสิ่น
ระหว่างนั้น ฮูหยินรองแห่งจวนเจียงกั๋วกงซึ่งมีสาวใช้ประคองผ่านมาพอดี ก็ชะงักและหยุดมองซูหว่าน
ซูหว่านไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายขณะที่เอ่ยปากซึ่งนับว่าเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพนัก แต่เพราะนางเป็นฝ่ายที่ใช้สายตาเช่นนั้นมองตนก่อน เป็นแค่อนุภรรยาที่แม้แต่บรรดาศักดิ์ก็ไม่คู่ควร อาศัยเพียงเพราะในจวนไม่มีภรรยาเอก จึงได้มีอำนาจดูแลเรือนและทำตัวโอหังอยู่ที่นี่เท่านั้น ส่วนตนนั้นเป็นถึงจวิ้นจู่ขั้นสอง จะต้องเกรงใจนางด้วยหรือ
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังจงใจเน้นคำว่ารอง ซึ่งน้ำเสียงที่ดูเนิบนาบนั้นทำให้ฮูหยินรองถึงกับโกรธจนรูจมูกกว้างขึ้นทันที ดูออกว่านางกำลังอดกลั้นอย่างเต็มที่ ส่วนภายในกำลังกัดฟันกรอดๆ
นี่เป็นเพียงการเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่ต่อหน้าคนอื่น แต่มีกลิ่นอายของความขัดแย้งอย่างรุนแรงทีเดียว
“จวิ้นจู่ไม่ได้เข้าใจผิด ท่านนี้เป็นฮูหยินรองแห่งจวนเจียงกั๋วกงจริงๆ” ฮูหยินเสิ่นเห็นว่าบรรยากาศเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาจริงๆ จึงรีบลุกขึ้นยิ้มแย้มและไกล่เกลี่ย
ฮูหยินรองเจียงผู้นี้ ไม่ทันไรก็ถูกซูหว่านต้อนเสียอยู่หมัด นางจะต้องรู้ความสัมพันธ์ของซูหว่านกับเจียงอวี้ จึงรีบมาแสดงอำนาจเพื่อข่มขู่ เป็นการลองเชิงนางไปในตัว
แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่า ยังไม่ทันได้เริ่มปะทะคารมก็ถูกพูดให้เสียหน้าจนไปไม่เป็นเสียแล้ว เด็กซูหว่านคนนี้แข็งกร้าวจริงๆ
นางรู้สึกว่าเซวียนเล่อจวิ้นจู่ผู้นี้ไม่ธรรมดา หากนางได้แต่งงานกับเจียงอวี้ในอนาคตคงจะเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมได้ เพียงแค่ได้เห็นความใจกว้างของนางที่บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูล ก็รู้ได้เลยว่าเป็นคนที่มีความสามารถ ตอนนี้นางก็ได้ประจักษ์แล้ว
นางปรารถนาที่จะสร้างอนาคตให้แก่บุตรชาย แต่เจียงอวี้คืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ในเมื่อตัวนางเองไม่ได้เป็นภรรยาเอก บุตรชายของนางจึงต้องทนกับคำว่าเป็นบุตรที่เกิดจากอนุไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะไปที่ใดก็มิอาจเชิดหน้าชูตาได้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...