ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 519

สหายสนิท ไม่ได้เจอกันนานเลย

ภาพงานเลี้ยงงานแต่งของซูอี้ วันเดียวคงจะไม่เสร็จ เขาทำได้เพียงร่างเค้าโครงแบบคร่าว ๆ จากนั้นค่อย ๆ ปรับแต่งรายละเอียดให้สมบูรณ์

วันนี้บรรดาองค์ชายล้วนนั่งด้วยกันอย่างรู้กันเอง องค์ชายห้ามู่หรงเซิงมาทำไม ไม่ต้องพูดก็รู้อยู่แล้ว

เขาต้องการดึงซูจิ่งมาเป็นพวก ดังนั้นจึงมาด้วยตัวเอง มู่หรงไหวเพราะความสัมพันธ์อันดีกับซูเฉิน จึงมาด้วยตัวเอง

เขาไม่ต้องการดึงคนมาเป็นพวก ถึงอย่างไรซูเฉินก็ยืนข้างเขาอยู่แล้ว

ก่อนจะเริ่มงานเลี้ยง พ่อซูต้องออกมากล่าวสุนทรพจน์ วันนี้มีแต่ขุนนางระดับสูง เขาเข้าร่วมงานแบบนี้เป็นครั้งแรก แถมยังต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้าน ประหม่าอย่างมาก

อาหารบนโต๊ะแปลกใหม่มาก กลิ่นหอมของอาหารลอยอบอวลไปทั่วเรือน คนในเมืองหลวงไม่เคยเห็นอาหารแบบนี้มาก่อน

สีแดง ฉุนจมูก แต่ทำให้คนเห็นแล้วอยากอาหารมาก

“ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งงานลูกชายอย่างซูจิ่ง หากต้อนรับไม่ทั่วถึง โปรดอภัยด้วย โต๊ะอาหารในวันนี้ ทำโดยเฉิงโหลวแห่งเมืองหลวง หวังว่าทุกท่านจะเอร็ดอร่อย ขอบคุณ”

คำพูดของพ่อซูสั่นมาก แต่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ถ่ายทอดออกมาได้ครบทุกอย่าง

เริ่มโต๊ะอาหารอย่างเป็นทางการ กู้เย่ว์นั่งร่วมโต๊ะกับพวกคุณหนูจากตระกูลเล็ก ๆ ที่สนิทกัน

ซูอวิ๋นเห็นทุกคนอยากจะลอง และแสดงความอยากรู้อยากเห็นกับอาหารของเขา เขาจึงยิ้มกว้างจนเห็นฟัน

เขาเดินมายังโต๊ะของซูมู่ ซูอี้ และหมอเทวดาซุนอย่างรู้ทาง

พี่ชายใหญ่พี่สามต้องต้อนรับพวกองค์ชาย เจียงอวี้ก็นั่งอยู่กับพวกเขา สวมหน้ากากไว้ วันนี้เปลี่ยนร่างเป็นเครื่องจักรช่วยดื่มไร้อารมณ์ จึงทำให้การมีอยู่ของตัวเองเป็นศูนย์

หลังจากเริ่มงานเลี้ยง ทุกคนอยากจะยื่นตะเกียบกินอาหารจนแทบรอไม่ไหว โดยเฉพาะมู่หรงไหว พอเห็นหมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดงใส่พริก เนื้อตุ๋น ซุปปลาเปรี้ยว และหม้อไฟเนื้อแกะ เขาก็กลืนน้ำลายทันที

แค่เห็นก็ต้องยกความดีความชอบให้กับสหายสนิท

กินเข้าไปหนึ่งคำ หมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดง มันแต่ไม่เลี่ยน นุ่มและหอมกรุ่ม รสเปรี้ยวของซุปปลาเปรี้ยวกำลังดี ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารอยากมาก เนื้อตุ๋น ก็รสชาติเหมือนร้านเนื้อตุ๋นในสมัยปัจจุบัน แต่ดีกว่า เพิ่มต้นหอมเล็ก ๆ กลิ่นหอมจนอยากจะตาย

น้ำตาจะไหล น้ำตาจะไหลแล้ว มู่หรงไหวไม่ได้กินพริกมาหลายปีแล้ว รู้สึกซาบซึ้งจริง ๆ

ทุกคนในงานล้วนชื่นชมอาหารอันแปลกใหม่นี้ ต่างชมกันไม่หยุดปาก ข้อกำหนดหกคนต่อหนึ่งโต๊ะ พวกคุณหนูที่ชอบกินเผ็ดล้วนไม่สนใจภาพลักษณ์ คีบอาหารอย่างต่อเนื่อง

คนกินเผ็ดได้เหมือนค้นพบแผ่นดินใหม่ คนกินเผ็ดไม่ได้ ซุปปลาเปรี้ยวกับหม้อไฟแกะ ถ้าใส่ผักสดตามฤดูกาลลงไปสักหน่อย ก็สบายมาก

“หวยหมินเสี้ยนจู่ให้เกียรติมาด้วยตัวเอง ทำให้บ้านหลังเล็กมีเกียรติขึ้น”

ทำให้บ้านดูมีเกียรติขึ้นหรือไม่ก็ไม่รู้หรอก แต่รู้สึกอึดอัดมากนั่นถูกแล้ว คำพูดตามมารยาทก็ต้องพูดเอาไว้

กู้เย่ว์ก็หน้าด้านหน้าทน ไม่ว่าคนตระกูลซูจะทำตัวห่างเหินกับนางอย่างไร แต่นางยังคงเรียกว่าพี่ชาย

“พี่ชายใหญ่ ยินดีกับการแต่งงาน ขอให้ท่านกับพี่สะใภ้รักกันตลอดไป”

ซูจิ่งยกเหล้าดื่มรวดเดียวหมด แล้วยิ้มโดยไม่พูดอะไร

พอคารวะเหล้าครบทุกโต๊ะแล้ว ซูจิ่งกับพวกถึงได้มีเวลากลับมายังโต๊ะตัวเองและกินอาหารเล็กน้อย

เพียงแต่คำว่าพี่ชายใหญ่ของกู้เย่ว์ ทำให้พวกคุณหนูที่นั่งโต๊ะเดียวกันไม่เข้าใจ จึงถามนางว่าเกิดอะไรขึ้น

กู้เย่ว์เลยถือโอกาสเล่าเรื่องที่เมื่อก่อนเคยแลกเปลี่ยนตัวตนกับซูหว่าน พวกนางถึงได้รู้ว่า เมื่อก่อนกู้เย่ว์กับตระกูลซูคือครอบครัวเดียวกัน นางเป็นน้องสาวบุญธรรม พวกพี่ชายของตระกูลซู ก็ถือว่าเป็นพี่ชายของนาง

บังเอิญว่าพวกที่นั่งร่วมโต๊ะกับนาง ล้วนขึ้นชื่อว่าชอบนินทา ไม่นานทุกคนก็รู้เรื่องนี้กันหมด

อาหารบนโต๊ะกินไปครึ่งหนึ่งแล้ว กู้เย่ว์เห็นซูอวิ๋นไปหลังเรือนคนเดียว นางจึงหาข้ออ้างออกจากโต๊ะแล้วตามไป ซูหว่านตั้งใจสังเกตนางตลอดเวลา พอเห็นนางเดินตามพี่สี่ไป นางไม่วางใจ จึงแอบตามหลังไปด้วย