ภาพนี้ หากวาดทุกอย่าง เกรงว่าต้องใช้กระดาษวาดภาพยาวหลายเมตร ถือว่างานใหญ่มาก
ทว่า เขาวาดภาพอยู่ตรงนี้ มันดึงดูดให้บรรดาหนุ่มสาวผู้มีความสามารถจำนวนมากในเมืองหลวงมาชมอยู่ข้าง ๆ
สองหูของซูอี้นั้นไม่ฟังสิ่งที่อยู่ข้างนอก ใจจดจ่ออยู่กับภาพวาด ข้างหูมีเสียงชื่นชมอย่างต่อเนื่อง เขาก็ยังทำเหมือนไม่ได้ยิน
ไม่ใช่ว่าเขาชอบทำตัวเด่น ถึงต้องมองเห็นได้ชัดเจนในที่สาธารณะ แต่ว่าภาพนี้ต้องอยู่ในงานจริง ทุกอย่างที่เห็นและได้ยินถึงจะบันทึกได้ครบ แถมวันนี้ยังแดดดี มีนกร้องและกลิ่นหอมดอกไม้ ด้านนอกจึงเหมาะแก่การวาดภาพอย่างยิ่ง
คนที่มามุงดูเห็นฝีมือวาดภาพของซูอี้ก็ล้วนตกตะลึง ลงรายละเอียดจนถึงใบไม้แต่ละใบ ศาลาและอาคารแต่ละหลัง มีบางคนยังเจอร่างของตัวเองในภาพด้วย
ในหมู่คนดู มีหนุ่มผู้มีความสามารถที่ฝีมือทางจิตกรรมสูงอยู่ไม่น้อย แต่พอเห็นภาพของซูอี้แล้ว ก็ต้องย่องยกและศรัทธา
เมื่อภาพงานเลี้ยงแต่งงานภาพนี้เผยแพร่ออกไป เกรงว่าต้องสร้างกระแสฮือฮาไม่น้อย
พูดตามตรง นักปราชญ์ผู้มีความรู้มากมายล้วนเคยวาดภาพงานเลี้ยงกลางคืน แต่ภาพของพวกเขาไม่ได้มีสีสัดสดใสเหมือนภาพของซูอี้ คนในภาพก็ไม่มีชีวิตชีวาเท่ากับที่ซูอี้วาด ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ก็สามารถรู้ได้ว่าคนนี้เป็นใคร
เขาใช้การออกแบบที่ชาญฉลาดมาก ภาพนี้มีการเติมผงเรืองแสงลงไป ขอแค่หามุมที่มีแสงแล้วมองเฉียง ๆ ก็จะเห็นได้ว่าเหนือตัวบุคคลมีการเพิ่มชื่อลงไปอย่างระมัดระวัง
ตรงเขามีผู้คนเยอะมาก จนกระทั่งซูอี้รู้สึกไม่ค่อยสะดวก เพราะมันบดบังสายตา
“ทุกท่านโปรดไว้หน้าด้วย ข้าวาดภาพต้องใช้ความสงบ รอภาพงานเลี้ยงแต่งงานเสร็จ ค่อยเชิญทุกท่านมาชม”
เขาแสดงเจตนาว่าอยากทำพื้นที่ให้โล่งอย่างนิ่มนวล ทุกคนล้วนไม่ใช่คนหน้าหนา ท่าทีของซุอี้อ่อนโยนเช่นนี้ พวกเขาจึงสลายตัวอย่างเชื่อฟัง ควรทำอะไรก็ไปทำสิ่งนั้น
ทว่า ยังมีคนไม่น้อยนึกถึงเรื่องนี้ อยากจะเห็นตอนภาพงานเลี้ยงแต่งงานเสร็จในทันที
วันนี้ซูอี้อาศัยภาพงานเลี้ยงแต่งงานจวนซูของตัวเอง เกรงว่าต้องโด่งดังแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สองสามก่อนมหาบัณฑิตยังได้เอ่ยถึงซูอี้ตอนสนทนากับฝ่าบาท ช่วงก่อนฝ่าบาทอยากจะเชิญจิตรกรประจำพระราชวัง เพื่อวาดภาพตัวเองในวัยนี้ รวมถึงฮองเฮาและเหนียงเหนียงทุกคนในวังหลัง ล้วนต้องมีภาพเหมือนใหม่
เขาถือโอกาสเอ่ยเรื่องนี้กับมหาบัณฑิต เมื่อพูดถึงภาพเหมือน มหาบัณฑิตก็นึกถึงซูอี้จากตระกูลซู
เขาเคยวาดภาพเหมือนให้ภรรยาและลูกสาวของตน ฝีมือวาดภาพนั้น ไม่ใช่ว่าเขาพูดเกินจริง แต่สามารถวาดสีหน้าท่าทางของคนออกมาได้เหมือนถึงเจ็ดแปดส่วน
ฝ่าบาทได้ยินก็ยังไม่เชื่อ คิดว่ามหาบัณฑิตอาจจะพูดเกินจริง กระทั่งมหาบัณฑิตนำภาพเหมือนภรรยาของตัวเองที่สวมใส่ชุดตราตั้งมาให้ฝ่าบาทดู เยี่ยมมาก แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังบอกว่าเหมือน
เพียงแต่ตอนนั้น อีกไม่กี่วันก็เป็นงานสมรสของตระกูลเสิ่นกับตระกูลซูแล้ว เขาจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ หลังจากจบเรื่องนี้ ซูอี้คงจะถูกเรียกตัวเข้าวังแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...