เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 534

เจียเฉิงหัวเราะอย่างไม่คิดเกรงใจ คนบ้านสกุลซูนี่น่าสนใจจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

พอเห็นจวิ้นจู่หัวเราะเยาะเขา ซูอวิ๋นก็หน้าเเดงก่ำ พึมพำว่า

“ท่านแม่ เจียเฉิงจวิ้นจู่คนเขายังอยู่ที่นี่นะ ท่านช่วยไว้หน้าข้าหน่อยได้ไหม”

“โอ้ว เจ้าก็รู้จักไว้หน้าด้วยหรือ” เเม่ซูจ้องเขาเขม็ง

ซูหว่านเลิกคิ้วมองซูอวิ๋นอย่างท้าทาย ซูอวิ๋นได้เเต่หลับตาเเล้วล้างสมองตัวเอง

ข้ามองไม่เห็น ข้าไม่ได้ยิน…

เจียเฉิงยังคงสับสน ฟังดูเเล้วชายเสื้อม่วงคนนี้น่าจะเป็นคนที่หวานหว่านชอบ เขามีที่มาที่ไปอย่างไร ถึงขนาดให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้

รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง เเต่ก็ยังเเปลกหน้าอยู่หน่อยๆ หน้าตาดูดีมาก เหมาะสมกับหวานหว่านจริงๆ

พี่ชายคนอื่นๆอีกสองสามคนก็ทำหน้าบึ้งตึง ซูจิ่งลุกขึ้นกระทันหัน เเล้วมองดูเจียงอวี้

“ซื่อจื่อ โปรดตามข้ามา ข้ามีเรื่องอยากพูดกับท่าน ยังมีพวกเจ้า ก็มาด้วยกัน”

ซูจิ่งกวาดสายตามองพี่น้องคนอื่นๆ เป็นนัยให้พวกเขาตามมา

เจียงอวี้เลิกคิ้ว เเล้วลุกขึ้นอย่างสงบ พร้อมกับคำนับพ่อซูแม่ซู

“ท่านลุง ท่านป้า ขอตัวก่อน

“ไปเถอะไปเถอะ พวกเจ้าทุกคน ปฏิบัติต่ออาอวี้ดีๆนะ ห้ามรังเเกเขา” เเม่ซูรู้ว่าที่ลูกชายเรียกเจียงอวี้ไปคุยด้วย ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหวานหว่านเเน่ๆ”

เรื่องของอาอวี้กับหวานหว่านทำให้พวกเขามองหน้ากันไม่ติด ก็พอจะเข้าได้อยู่

ซูหว่านก็รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่เจียงอวี้จะต้องเผชิญ

ตอนนี้พี่ชายของนางก็คือที่พึ่งของนาง มีพวกเขาคอยหนุนหลังอยู่ข้างหลังเเล้วรู้สึกมั่นใจมาก

นางก็รู้ว่าพี่ชายของนางจะไม่ทำอะไรเขาหรอก มันก็เเค่การพูดคุยกันอย่างจริงจังเท่านั้น พี่ใหญ่ตอนนี้เป็นผู้นำตระกูลเเล้ว บางเรื่องเขามีการตัดสินใจของตัวเอง ซึ่งเป็นการรับผิดชอบต่อครอบครัวเเละเป็นการปกป้องน้องสาวด้วย

ยังมีทางด้านของเจียเฉิง นางก็ยังสับสนอยู่

อะไรนะ เมื่อกี้คุณชายซูเรียกชายเสื้อม่วงว่าอะไรนะ

ซื่อจื่อ?

พี่น้องตระกูลซูทั้งห้าคน พาเจียงอวี้ตรงไปที่ห้องหนังสือของซูจิ่ง

หลังจากเข้าไป ข้างในมีเก้าอี้ ทุกคนหาที่นั่งกัน ส่วนซูจิ่งก็นั่งที่โต๊ะหนังสือ

เจียงอวี้ดูสบายๆ ไม่รู้สึกอึดอัดเลย เขารู้ว่าต่อไปจะมีการพูดคุยเรื่องอะไร เขาเตรียมใจไว้เเล้วว่าจะให้คำตอบที่น่าพอใจที่สุด

ซูเฉินในตอนเเรกที่รู้เรื่องก็ค่อนข้างจะตื่นเต้น เเต่ตอนนี้ดีขึ้นเเล้ว เขาอยู่กับเจียงอวี้ในสนามรบมาหลายปี ความรู้สึกก็ยังคงเหมือนเดิม เขาเชื่อในคุณธรรมของเจียงอวี้มาก หลังจากเคยสู้รบครั้งหนึ่งเเล้ว ก็เข้ากันได้ดี

ตอนนี้พูดถึงเรื่องการเเต่งงานของทั้งสองคน พูดตามตรงคือ ขอเเค่หวานหว่านไม่มีความเห็น เขาก็ไม่มีความเห็น

เเม้ว่าตำเเหน่งเเม่ทัพทหารม้าของเขา จะเป็นตำเเหน่งทางนามธรรม เเต่ตอนนี้บ้านเมืองสงบสุข ไม่มีสงคราม ตำเเหน่งนี้จึงเป็นเพียงเเค่ชื่อเท่านั้น หน้าที่หลักของเขาคือ การดูเเลป้องกันเมือง

ในตอนเเรกที่เขาออกไปรบนั้น มีเหตุผลสองข้อคือ หนึ่งเพื่อปกป้องบ้านเมือง เเละทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ สองเพื่อสร้างชื่อเสียงเเละสร้างความมั่นใจให้กับคนในครอบครัว

เเต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า พี่ใหญ่จะเป็นคนที่พึ่งพาได้มากที่สุด

นิสัยของซูอวิ๋นไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เขาเหมือนกับประทัดที่พร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลา

ส่วนซูอี้ ก็ยังเป็นคนยิ้มง่าย ตาหยีๆ มีความคิดที่ลึกซึ้ง มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง เเละมักจะพูดจาประชดประชัน ถ้าไม่พูดก็เเล้วไป เเต่ถ้าพูดออกมาเมื่อไรจะต้องจี้ใจดำเเน่นอน

“ซื่อจื่อ เจียงกั๋วกงรู้เรื่องท่านกับหวานหว่านหรือยัง”

ซูจิ่งเริ่มถามคำถามที่เขาอยากถาม

“รู้เเล้ว บอกเขาไปเเล้ว”

“เเล้วเจียงกั๋วกงเห็นด้วยกับเรื่องของพวกเจ้าหรือไม่” ซูจิ่งถามอีก

“ปากไม่ได้ตอบตกลง เเต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่เป็นห่วงเรื่องอะไร เรื่องฐานะเเละอิทธิพลของสองตระกูลเราในตอนนี้ ท่านพ่อของข้าก็กังวลเหมือนกัน ท่านจึงไม่ได้ตอบตกลงทันที เเต่บอกว่าขอพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน เเต่ที่ท่านพูดเเบบนี้ ก็หมายความว่า ในใจของท่านเห็นด้วยแล้ว เเต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฮ่องเต้ไม่พอใจ ก็ต้องหาทางจัดการให้รอบคอบกว่านี้ สรุปเเล้วเรื่องนี้พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล ข้าเจียงอวี้ขอแต่งงานกับหวานหว่าน เรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่จวนกั๋วกงต้องจัดการเอง จะไม่ส่งผลกระทบต่อตระกูลซูแม้แต่น้อย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม