ฝ่าบาทอย่าตรัสแบบหยุดกลางคันเช่นนี้สิพ่ะย่ะค่ะ ทำเอาใจไม่ดีเลย
อะไรคือเอากลับไปไม่ได้
เมื่อเผชิญหน้ากับสีหน้าสับสนของซูอี้ ฮ่องเต้ก็รู้สึกว่าการหยอกล้อคนหนุ่มสาวนี่ก็สนุกดีนะ
“อย่าเพิ่งตกใจไป อย่าตกใจ ข้าแค่อยากจะบอกว่า ภาพงานฉลองมงคลสมรสภาพนี้ จะมอบให้ข้าได้หรือไม่ ข้าอยากจะเก็บมันไว้ในวัง เพื่อสืบทอดไปนับพันปีในภายภาคหน้า ให้คนรุ่นหลังได้เห็นขนบธรรมเนียมการแต่งงานและวิถีชีวิตของประชาชนที่เจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งในราชวงศ์ต้าจิ้นของข้า”
เป็นเช่นนี้นี่เอง ซู่อี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เช่นนั้นก็ดีจริงๆ การที่ภาพนี้อยู่ในวังหลวงกับอยู่กับหมู่ชาวบ้านนั้น คุณค่าของมันมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ได้อยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงมองเห็นคุณค่าในผลงานของกระหม่อม ถือเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของกระหม่อมแล้ว”
เพียงแต่น่าเสียดายที่ภาพวาดนี้ไม่สามารถให้หวานหว่านได้ดูเป็นการส่วนตัวแล้ว
“เจ้าใช้ชื่อว่าอู๋ย่างจวีซื่อใช่ไหม”
ฮ่องเต้สังเกตเห็นตราประทับที่มุมภาพ
ซูอี้พยักหน้า
“ชื่อนี้มีที่มาอย่างไรหรือ” ฮ่องเต้ถามต่อ
ซูอี้จึงได้อธิบายถึงที่มาและความหมายอันลึกซึ้งของนามอู๋ย่างจวี้ซื่อที่เขานำมาใช้
ฮ่องเต้ฟังไปพลางพยักหน้าไปเป็นการแสดงความเห็นด้วย
หลังจากนั้น เขาจึงเรียกขันทีลู่ให้นำภาพงานฉลองมงคลสมรสมากางบนโต๊ะ ก่อนจะนำตราประทับมาประทับใต้นามอู๋ย่างจวีซื่อ ส่งผลให้ภาพนี้มีมูลค่าสูงยิ่งขึ้นไปอีก
ซูอี้เพ่งมองตราประทับอันเป็นสัญลักษณ์แห่งองค์ฮ่องเต้ผู้ทรงอำนาจ ความรู้สึกภายในพลันพลุ่งพล่านอย่างท่วมท้นจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“เสี่ยวลู่จื่อ! ถ่ายทอดคำสั่งของข้าไปสั่งการ ให้กองพระราชสำนักเร่งทำตราประทับขึ้นมาให้อู๋ย่างจวีซื่อ แล้วทำป้ายไม้แกะสลักตัวอักษรนำไปส่งที่จวนตระกูลซูด้วย
จากนั้นเจ้าจงจัดให้คนไปทำความสะอาดตำหนักเล็กในหอหรูอี้ให้เรียบร้อยเพื่อเป็นที่พักชั่วคราวให้แก่อู๋ย่างจวีซื่อ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ อู๋ย่างจวีซื่อจำเป็นต้องวาดภาพเหมือนให้แก่ข้าและเหล่าพระสนมทั้งหมดในวังหลัง เจ้าจงจัดหาคนไปคอยดูแลปรนนิบัติเขาด้วย”
การกระทำเช่นนี้ของฝ่าบาทเท่ากับเป็นการยอมรับในฐานะจิตรกรของซูอี้ ทั้งยังเป็นการมอบเกียรติยศชั้นสูงให้เขาอีกด้วย
การได้รับตราประทับและป้ายพระราชทาน ช่างเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่จริงๆ!
ขันทีลู่เห็นว่าฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับอู๋ย่างจวีซื่อมากเพียงนี้ ย่อมรู้ดีว่าจะต้องทำเช่นไร จึงรีบไปจัดการตามรับสั่งโดยไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อย
ตระกูลซูมีวาสนานัก มีคนสนิทข้างกายฝ่าบาทเพิ่มมาอีกคนหนึ่งแล้ว ช่างเป็นมงคลอันสูงส่งอย่างแท้จริง
ในภายหน้าหากได้พบกับคนตระกูลซู คงต้องเอาใจใส่ให้ดีเสียหน่อย ตระกูลนี้เป็นยอดคนจริงๆ
ซูอี้คุกเข่าลงอีกครั้งและทำความเคารพอย่างนอบน้อม

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...