ตอนเช้าซูหว่านต้องตื่นขึ้นมาเพื่อใช้น้ำอุ่นล้างตาให้เจียงอวี้ เขาคลำประตูออกมาเอง เช้านี้น้ำค้างลงจัด หมอกก็หนาจัดเช่นกัน นอกลานบ้านจึงขาวโพลนไปหมด
ซูหว่านเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองเขาทันที เขาสูงใหญ่มาก ตัวนางสูงแค่เกือบจะถึงไหล่ของเขาเท่านั้นเอง
นางต้มน้ำร้อนให้เขา ให้เขาล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด จากนั้นซูหว่านก็ล้างตาให้เขา
เหมือนที่ซูหว่านบอก สบู่นมแพะนี้ล้างมือแล้วรู้สึกสดชื่นมาก แถมยังนุ่มลื่น มีกลิ่นนมแพะจางๆ เหลืออยู่
ไม่คิดเลยว่าผู้เก่งกาจจะอยู่ในหมู่ชาวบ้านธรรมดา นางยังเด็กแค่นี้แต่กลับมีความคิดและฝีมือที่ชาญฉลาดถึงเพียงนี้แล้ว
นี่เป็นสิ่งที่สตรีสูงศักดิ์เหล่านั้นเทียบไม่ได้เลย พวกนางนอกจากจะท่องบทกวีได้ไม่กี่บทแล้ว ก็ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากความบอบบางอ้อนแอ้น
เมื่อแกะผ้าที่ปิดตาเขาออก มุมตาและรอบเปลือกตายังคงแดงก่ำ ปูนขาวกัดกร่อนคน แถมยังร้อนขึ้นเมื่อโดนน้ำ คาดว่าดวงตาของเขาคงทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานไม่น้อย
"ท่านลองค่อยๆ ลืมตาดูนะเจ้าคะ ข้าจะใช้น้ำอุ่นล้างตรงหัวตาให้"
เจียงอวี้ทำตาม เขานั่งอยู่ ส่วนนางยืน นางเอาผ้าชุบน้ำที่มุมหนึ่ง แล้วค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดหัวตาและรอบดวงตาให้เขาอย่างเบามือ
แรงมือของหญิงสาวนั้นยังคงเบาและอ่อนโยนกว่าผู้ชาย ตอนที่ซูเฉินและคนอื่นๆ ล้างตาให้เขานั้นก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แถมพวกเขายังลงแรงหนักกว่าอีกด้วย
แต่ในตอนนี้ ลมหายใจของนางพ่นรดบนใบหน้าเขาเป็นครั้งคราว พร้อมกับไออุ่น ทำให้เขาถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
กลับกลายเป็นว่าตัวเขาเองที่รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา
ซูหว่านไม่ทันสังเกต นางทำหน้าที่ของตนเองอย่างตั้งใจ จากนั้นก็เอาผ้าเช็ดหน้าทั้งผืนชุบน้ำบิดให้หมาดๆ แล้วพับให้เรียบร้อยเพื่อให้เขาใช้เช็ดหน้า
"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ท่านเช็ดหน้าเองได้เลย!"
พอรับผ้าเช็ดหน้ามา เจียงอวี้ก็กล่าวขอบคุณ เมื่อเขาเช็ดหน้าเสร็จ ซูหว่านก็ปิดตาให้เขาอีกครั้ง
"อีกสองวันก็ไม่ต้องปิดแล้วเจ้าค่ะ พี่รองบอกว่าท่านจะมองเห็นได้ในเร็วๆ นี้!"
"ดี ขอบคุณมากนะ"
ประโยคที่เจียงอวี้พูดบ่อยที่สุดในบ้านตระกูลซูคือ "ขอบคุณมาก""รบกวนด้วย" "อืม""ดี" อะไรประมาณนี้
เขาก็อดทนได้อย่างแท้จริง มองไม่เห็น แถมยังลุกจากเตียงไปไหนมาไหนบ่อยๆ ไม่ได้ ไม่มีใครคุยด้วย เขาก็อดทนผ่านมาได้ ถ้าเป็นซูหว่าน นางคงต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
หลังจากทำธุระเสร็จ นางก็เริ่มก่อไฟ เพื่อจะทำน้ำดอกไม้กลั่นด้วยตัวเอง นางเอาดอกไม้ที่ล้างสะอาดแล้วใส่ลงไปในหม้อสำหรับนึ่ง จากนั้นวางภาชนะไว้ตรงกลาง รอให้น้ำจากไอน้ำค่อย ๆ กลั่นตัวลงไปในนั้น
ตอนที่ตาแดงก่ำ มีน้ำตาคลอๆ เหมือนกับตัวละคร ‘รับ’ ในนิยายวาย ไม่มีอะไรจะน่าสงสารไปมากกว่านี้แล้ว
ซูหว่านรู้สึกละอายใจกับความคิดเหล่านี้ของตนเอง เขามีรสนิยมทางเพศปกติ ถ้าจะเป็นก็คงเป็นฝ่าย ‘รุก’
เจียงอวี้ไม่รู้เลยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนนี้เขากำลังอยากรู้ว่าผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร จะเหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้หรือไม่
ช่วงนี้เขากินยาต้มไม่ขาด พี่รองกำชับว่าเมื่อเขากินยาหมดแล้ว ให้พี่สามไปที่อำเภออีกครั้งเพื่อไปเอายามาให้เขากินบำรุงร่างกายต่อไป
เก็บข้าวโพดมาหลายวันแล้ว ข้าวโพดในไร่เก็บเกี่ยวเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้แขวนอยู่ใต้ชายคาบ้านทั้งหมด และที่มุมกำแพงก็กองเป็นภูเขาเล็กๆ ต้องใช้มือแกะเมล็ดออก แล้วไปยืมครกมาบดให้เป็นแป้งข้าวโพด
ต่อไปก็ต้องขุดมันเทศและมันฝรั่งกลับมา เติมเต็มห้องใต้ดิน เตรียมพร้อมสำหรับฤดูหนาวอย่างแท้จริง
พี่สาม พี่สี่ และพี่ห้าไปขุด ส่วนซูหว่านก็ทำอาหารอยู่ที่บ้าน ถือโอกาสว่างๆ ก็แกะเมล็ดข้าวโพดไปด้วย ข้าวโพดเหล่านี้สุกงอมมานานแล้ว ตากแดดอยู่ในไร่มาสองเดือน เลยแก่จัดจนแข็งและแห้งกรอบ
ตอนแรกแกะยากมาก พอแกะไปได้สองสามแถวก็แกะง่ายขึ้น
เจียงอวี้รู้ว่านางกำลังแกะเมล็ดข้าวโพด คิดว่าตัวเองว่างอยู่ก็เลยจะช่วยแกะด้วย
เขามองไม่เห็น ซูหว่านเลยยกเก้าอี้พนักพิงไปให้เขานั่งใต้ชายคาบ้าน แล้ววางตะกร้าไว้ข้างหน้า เขาจึงใช้วิธีคลำเอาเพื่อแกะเมล็ดข้าวโพด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...