เข้าสู่ระบบผ่าน

ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม นิยาย บท 56

ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน ดูเข้ากันดีทีเดียว โดยพื้นฐานแล้วแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ต่างคนต่างทำงานของตัวเองอย่างเงียบๆ

เจียงอวี้มีพละกำลังมาก แกะเมล็ดข้าวโพดได้อย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็แกะจนเต็มก้นตะกร้าแล้ว ในขณะที่ร่างกายของซูหว่านนั้นเดิมทีก็บอบบางและไม่มีแรงมากนัก พอแกะไปได้สักพัก นิ้วมือก็เริ่มแดงก่ำแล้ว

อาจเป็นเพราะเบื่อมากๆ ซูหว่านเลยเริ่มแอบเร่งความเร็วตามเจียงอวี้ เขาไม่ได้รีบร้อน แต่เมล็ดข้าวโพดทุกเม็ดกลับตกลงในตะกร้า ไม่มีแม้แต่เม็ดเดียวที่หล่นออกมาข้างนอก ไม่เหมือนซูหว่านที่ทำเมล็ดข้าวโพดหกกระจายอยู่ข้างๆ เยอะแยะไปหมด

ในที่สุด หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ซูหว่านก็อดทนไม่ไหว เปิดปากถามขึ้นมาว่า

“เจียงอวี้ ท่านไม่เบื่อหรือ?”

เจียงอวี้ได้ยินดังนั้นก็หันหน้าไปทางนาง แต่เขายังคงหลับตาอยู่

“ก็ดีอยู่นะ ทำแบบนี้แล้วทำให้ใจสงบลงได้”

ซูหว่าน “……”

แต่นางสงบใจไม่ได้เลยน่ะสิ……

“เหอะเหอะเหอะ……งั้นก็ช่างเถอะ”

ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยากของนาง เจียงอวี้ก็ยิ้มเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลานั้น เฉินอิ้งหงเดินผ่านหน้าบ้านของตระกูลซู นางเห็นคนสองคนกำลังทำงานอยู่ในลานบ้าน และหนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่ลูกชายทั้งห้าของบ้านตระกูลซู

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เฉินอิ้งหงก็หยุดเดิน แล้วแอบมองลอดรั้วเข้าไป

ชายหนุ่มหันหลังให้นาง จึงมองไม่เห็นใบหน้า แต่จากความเข้าใจที่นางเคยเล่นกับกู้เย่ว์มาตั้งแต่เด็ก ทำให้นางมั่นใจว่านี่ไม่ใช่หนึ่งในพี่ชายทั้งห้าคน

“แค่กๆ……ซูหว่าน!”

ซูหว่านที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขยันขันแข็งได้ยินคนเรียกชื่อตนเองก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปข้างหลัง

เจียงอวี้ขยับศีรษะเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นมาสักพักแล้วว่ามีคนอยู่ข้างนอกกำลังจ้องมองอยู่

“เฉินอิ้งหง?”

ช่วงนี้ซูหว่านไม่ค่อยได้เจอนางเลย เพราะเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว แต่ละบ้านก็มีงานเยอะ บ้านตระกูลซูยังตั้งอยู่ตรงเชิงเขาซึ่งอยู่ลึกที่สุดในหมู่บ้าน ทำให้ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมาทางนี้สักเท่าไร ดังนั้นโดยปกติแล้ว ลานบ้านเล็กๆ แห่งนี้จึงค่อนข้างเงียบสงบ

น้ำเสียงของเฉินอิ้งหงหยิ่งผยอง ท่าทางของนางยังคงแสดงออกว่าไม่พอใจซูหว่านอยู่เช่นเดิม

“มีอะไรหรือ เห็นเจ้าเรียกข้า มีธุระอะไรงั้นหรือ?” น้ำเสียงของซูหว่านก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน

เฉินอิ้งหงกลอกตา นางจ้องมองแผ่นหลังนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมยาวถูกมัดไว้หลวม ๆ ด้วยเศษผ้าเส้นหนึ่ง เส้นผมดำขลับราวกับผ้าไหมทอดตัวลงบนแผ่นหลัง เส้นผมดูสุขภาพดีกว่าของผู้หญิงเสียอีก

“บ้านเจ้ามีแขกงั้นหรือ? เขาคือใครกัน?” เฉินอิ้งหงแสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็น

“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่เล่นกับเจ้าหรอก!” ซูหว่านพูดอย่างไม่แยแส ท่าทีที่นิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านนั้นน่าโมโหที่สุด

"เย่ว์เย่ว์ทั้งเรียบร้อยและน่ารักขนาดนั้น เจ้าดีไม่ถึงครึ่งของเย่ว์เย่ว์เลยด้วยซ้ำ ไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายทุกคนของเจ้าจะไม่ชอบเจ้า แม้เจ้าจะเป็นน้องสาวแท้ๆ แล้วมันจะอย่างไร? ตลอดชีวิตของเจ้าก็คงไม่มีทางเทียบความสัมพันธ์สิบกว่าปีของเย่ว์เย่ว์กับพวกเขาได้หรอก!"

เฉินอิ้งหงโมโหจัด จนพูดอะไรออกมาไม่ยั้ง และคำพูดเหล่านั้นก็ไปเหยียบจุดอ่อนของซูหว่านเข้าพอดี ทำให้สีหน้าของนางถมึงทึงขึ้นมา

"ดูท่า ที่บ้านคงต้องเลี้ยงหมาสักตัวแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นใครต่อใครก็เข้ามาเห่าหอนอะไรต่อมิอะไรได้กันหมด!"

โกรธก็โกรธมาก และในใจก็อึดอัดไปหมด แต่ที่นางพูดมามันก็ถูก

ตอนนี้นางยังไม่ได้รับความรักจากพี่ชายทุกคน แต่ไม่เป็นไร นางยังมีเวลา สามารถค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปได้

“เจ้า… ช่างเถอะ ขี้เกียจพูดกับเจ้าแล้ว!”

เฉินอิ้งหงยังคงต้องรีบไปส่งของที่ไร่ นางจึงกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจแล้วเดินจากไป

เจียงอวี้เงียบมาโดยตลอด เขาเป็นผู้ชายจึงไม่สะดวกที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องการโต้เถียงของหญิงสาว อีกทั้งตอนนี้เขายังไม่สามารถให้คนจำนวนมากเข้ามาข้องเกี่ยวกับตัวเองได้ บาดแผลยังไม่หายดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง และเพื่อไม่ให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น

ตอนนั้นเขาต้องฆ่านักฆ่าเหล่านั้นจนตายทั้งหมดถึงจะหนีรอดมาได้ มีคนกลับไปรายงานข่าวแล้ว แต่ผู้บงการเบื้องหลังไม่เห็นศพของเขา คงไม่เชื่อว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขากลับได้เห็นอีกด้านหนึ่งของหญิงสาวคนนี้ เวลาทะเลาะกันก็ไม่ยอมใครเลยนะเนี่ย ถ้าไม่ได้ยินกับหูตัวเอง เขาคงคิดว่านางยังคงเรียบร้อยและมีมารยาทเหมือนเมื่อสองสามวันก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม