ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ไม่เพียงเเต่ฮ่องเต้เท่านั้น แม้เเต่มู่หรงไหวเองและซูหว่านก็อดใจเต้นไม่ได้
มู่หรงไหวคิดในใจว่า เเย่เเล้ว ที่หอเฟยฮวามีสายลับ ประมาทไปหน่อยแล้ว
ซูหว่านคิดในใจ อะไรกันนะ มีคนสะกดรอยตามนางหรือ
ฮ่องเต้คิดในใจว่า เจ้าคนนี้ดีนัก หาโอกาสตอกย้ำให้เป็นเรื่องจริงไปเลยยิ่งดี จะได้ตัดขาดความหวังของจวนเจียงกั๋วกงให้สิ้นซาก
“ขอเสด็จพ่อทรงโปรดพิจารณาให้ถี่ถ้วน กระหม่อมกับเซวียนเล่อจวิ้นจู่เพียงเเค่เคยพบกันไม่กี่ครั้ง ไม่เคยพูดคุยกันหลายประโยคด้วยซ้ำ หอเฟยฮวาเป็นร้านอาหาร กระหม่อมไปได้ จวิ้นจู่ก็ไปได้ จะเป็นการนัดพบไปได้อย่างไร พี่หกอย่าได้กุเรื่องใส่ร้าย อย่าทำให้ชื่อเสียงของจวิ้นจู่ต้องมัวหมองเลยพะยะค่ะ”
มู่หรงไหวเดินออกมาปฏิเสธทันที
ซูหว่านในขณะนี้มีเพียงเเค่เฝ้ามองเจียงอวี้ พยายามหาอารมณ์บางอย่างจากใบหน้าของเขา นางไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด
เจียงอวี้ยังคงมองตรงไปข้างหน้า คุกเข่าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากคำพูดนั้น
“คนของข้าเห็นกับตาตัวเอง จวิ้นจู่กับน้องเจ็ดออกจากห้องส่วนตัวของหอเฟยฮวาคนหนึ่งตามหลังอีกคนหนึ่ง จะมองผิดไปได้อย่างไร น้องเจ็ดเจ้ากำลังปิดบังอะไรอยู่”
ดูท่าหอเฟยฮวาจะมีไส้ศึกจริงๆ
มู่หรงไหวถูกถามจนตกตะลึง เเต่ก็ตอบโต้กลับอย่างรวดเร็ว
“พี่หก ท่านจงใจหาคนมาจับตาดูข้า หมายความว่าอย่างไร”
เดิมทีมู่หรงฉียิ้มอย่างภาคภูมิใจ เเต่คำพูดนี้ทำให้เขาพูดไม่ออกอีกครั้ง
“ข้า…องค์ชายผู้นี้ไม่ได้หาคนมาจับตาดูเจ้า เพียงเเต่บังเอิญเจอเท่านั้น”
“บังเอิญเจออย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นพี่หก เมื่อท่านพูดเช่นนี้ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้เคยบังเอิญเจอกับจวิ้นจู่ที่หอเฟยฮวาจริงๆ ตอนนั้นจวิ้นจู่เพิ่งได้รับการเเต่งตั้ง ข้ารู้สึกซาบซึ้งในความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของจวิ้นจู่ที่นำทรัพย์สินมากมายขนาดนี้มาช่วยเหลือทหาร เลยคิดว่าจะกล่าวขอบคุณจวิ้นจู่เเทนเหล่าทหาร ขอให้เสด็จพ่อทรงไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ลูกอยู่สนามรบมาหลายปี สนิทสนมกับเหล่าทหาร การกระทำเช่นนี้จึงเป็นเรื่องปกติ
อีกทั้งจวิ้นจู่ยังบริจาคกิจการของร้านอวี้เหยียนถังทั้งหมดเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน แม้เเต่ในวันปกติที่บังเอิญเจอก็ยังต้องให้ความเคารพ ข้าเชิญจวิ้นจู่ดื่มชาสักเเก้ว กล่าวคำขอบคุณต่อหน้า มันมากเกินไปหรือไม่พี่หก น้ำสกปรกที่ท่านวาดมานี้มันจงใจเกินไปหน่อย การปล่อยข่าวลือไม่ดีเลย”
หากมู่หรงไหวจัดการเรื่องเล็กน้อยเเค่นี้ไม่ได้ งั้นเขาจะเเย่งชิงบัลลังก์ไปทำไม
เขาเป็นสมาชิกชมรมโต้วาทีของมหาวิทยาลัย ไม่มีความกลัวใดๆ
เมื่อเขาพูดถึงขนาดนี้เเล้ว ด้วยมารยาท หากเจ้ายังคงวุ่นวายไม่เลิก นั่นก็เป็นความผิดของเจ้า เจ้าบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ข้าก็บอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญเช่นกัน
เเน่นอน มู่หรงฉีพูดไม่ออก
“เจ้าหก เจ้าพูดจาไม่สมควร” ฮ่องเต้พูดออกมาประโยคหนึ่ง
เเม้ว่ามู่หรงฉีจะไม่เต็มใจ เเต่ก็ยอมรับผิดอย่างซื่อสัตย์
“เป็นลูกที่ไม่รอบคอบในการพูด!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...