“ฝ่าบาท น้องสาวของกระหม่อมพูดจาไม่ระมัดระวัง หากมีความผิด กระหม่อมยินดีรับโทษเเทน” นี่คือคำพูดของซูเฉิน
ห้าพี่น้อง มีสองคนที่รับราชการ ดังนั้นจึงมีสิทธิ์พูด
บรรยากาศนิ่งงันเเละอันตรายอยู่ชั่วขณะ ทุกคนต่างหวาดกลัวเกรงว่าฮ่องเต้จะทรงพิโรธเเละลุกลามไปถึงผู้อื่น
ปรากฏว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วจนหัวเราะออกมา
“เรายังไม่พูดอะไรเลย พวกเจ้าจะตกใจไปทำไม เราบอกว่าจะลงโทษเซวียนเล่อจวิ้นจู่เเล้วหรือ เราเเค่ถามคำถามนางเท่านั้นเอง”
วันนี้ฮ่องเต้ไม่ต้องการเเสดงความโกรธต่อใคร เเต่เมื่อหนุ่มสาวทั้งสองไม่ไว้หน้า พระองค์ก็ต้องแสดงท่าที มีอารมณ์บ้าง
ประการเเรก พี่น้องตระกูลซูพระองค์ยังต้องการใช้งานต่อไป ประการที่สองก็ต้องให้เกียรติจวนเจียงกั๋วกงด้วย
เจียงกั๋วกงไม่ได้พูดอะไรเลย แม่ลูกหนิงเวยเห็นสภาพของเจียงอวี้เช่นนี้ ยังไม่ทันจะได้เเสดงความสะใจเลย
ซูหว่านยอมรับว่า ตอนที่ฮ่องเต้ถามคำถามนี้นางรู้สึกกลัว ตอนที่พูดประโยคนั้นนางรู้สึกว่าตัวเองเท่มาก พอพูดจบเเล้วนางก็รู้สึกเสียใจ ไม่น่าเพิ่มประโยคข้างหลังนั่นเลย
ถามหน่อยว่าเเถบความคืบหน้าย้อนกลับได้ไหม นางอยากจะลบเนื้อเรื่องบางส่วนออก
ซูหว่านสูดหายใจเข้าลึกๆ เเล้วดึงมือออกจากมือของเจียงอวี้ จากนั้นก็ก้มกราบฮ่องเต้หนึ่งครั้ง
“ฝ่าบาท เป็นหม่อมฉันไม่คู่ควรกับองค์ชายเจ็ด องค์ชายเจ็ดสง่างามดุจเเสงจันทร์ กระฉับกระเฉงเเละโดดเด่น เเต่หม่อมฉันพูดจาหยาบคาย พูดไม่เป็น เเถมยังไม่มีความรู้อะไรเลย หนึ่งไม่เก่งดนตรี หมากรุก วรรณกรรมและภาพวาด สองไม่ถนัดกวีนิพนธ์และบทเพลง เป็นคนธรรมดาๆ เกรงว่าจะทำให้องค์ชายเจ็ดเสียชื่อในภายภาคหน้า จึงยอมรับว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอเพคะ”
แม่นางผู้นี้ เวลาตำหนิตัวเองนี่ช่างรุนเเรงจริงๆ ทำให้ตัวเองดูไร้ค่า
นางก็ถือว่าเป็นคนที่รู้จักยืดหยุ่นได้ดี
มู่หรงไหวเกาหัวอยู่ข้างๆคิดในใจว่า เจ้าใช้คำเก่งจริงๆเหล็กนาบสองคำนี้เอาไว้ใช้บรรยายเขาเอง เขายังไม่กล้าที่จะยอมรับเลย
ฮ่องเต้ก็ต้องการทางลงเช่นกัน แม่นางผู้นี้ฉลาดจริงๆ ความหยาบคายก็ยังมองไม่เห็น ไม่เหมือนคนพูดไม่เป็น
นางพูดว่านางเป็นคนธรรมดา เเต่ความจริงก็ไม่เป็นเช่นนั้น
ในเรื่องศิลปะเเห่งการใช้ภาษา จุดนี้นางก็ทำได้ดีอีกเเล้ว
เจียงกั๋วกงถอนหายใจ คิดว่าถึงเวลาเเล้วที่เขาจะต้องออกมา วันนี้ถึงเเม้จะยืดเยื้อไปทั้งคืน ก็คงจะไม่มีผลอะไร สู้เขายื่นทางลงนี้ให้กับฮ่องเต้เสียเลยดีกว่า
“ฝ่าบาท เดิมทีการออกมาครั้งนี้ก็เพื่อการล่าสัตว์เเละผ่อนคลายกับฝ่าบาท เมื่อออกมาเเล้วพวกเราก็ควรจะกินดื่มเเละสนุกกันให้เต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ รอจนกลับถึงเมืองหลวงเเล้วค่อยมาปรึกษาหารือกัน วันนี้ลูกชายของกระหม่อมหยาบคายเเละไม่รู้กาลเทศะ หลังจากงานเลี้ยงรอบกองไฟจบลง จะลงโทษโบยเขาสามสิบไม้ เพื่อเป็นการลงโทษ การที่เขาทำให้ฝ่าบาทเเละพระสนมต่างๆขุ่นเคือง เป็นเพราะกระหม่อมสอนไม่ดี ขอลงโทษตัวเองด้วยการดื่มสุราสามจอกเป็นการไถ่โทษ!”
เจียงกั๋วกงยืนพูด ใบหน้าเเสดงความเคร่งขรึม จากนั้นก็หยิบกาเหล้าขึ้นมารินเหล้าให้ตัวเอง เเละดื่มรวดเดียวสามจอก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...