ครั้นถึงยามเย็น ท่านกั๋วกงก็กลับมาถึงจวน และตรงไปยังเรือนของเจียงอวี้ทันที
ทันทีที่ก้าวเข้าไป ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ ทำให้รู้สึกอึดอัด
“ข้าไปทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจอีกแล้วรึ?”
เมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์และบรรยากาศเย็นชาที่แผ่ออกมาจากทั่วร่างของเจียงอวี้ เจียงกั๋วกงก็รู้ได้ทันทีว่าบุตรชายกำลังขุ่นเคืองใจ
ปกติแล้วเมื่อเห็นเขามา อย่างน้อยก็ยังพอมีปฏิกิริยาบ้าง แต่วันนี้ใบหน้ากลับดำคล้ำถึงเพียงนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ากำลังไม่พอใจอย่างยิ่ง
“ท่านช่วยจัดการอนุภรรยาของท่านให้ดีหน่อยได้หรือไม่ เรื่องในจวนกั๋วกงตกถึงมือนางมาตัดสินใจตั้งแต่เมื่อใดกัน? แม้แต่แขกของข้า นางก็ยังกล้าทำการโดยพลการส่งกลับไปเช่นนี้?”
“หากท่านมิกล้าลงโทษ ข้าก็ไม่ถือสาที่จะลงมือแทนท่าน”
นับว่าดีที่เขาบอกออกมาตามตรงว่าตนไม่พอใจเรื่องใด
เจียงกั๋วกงพอได้ฟังก็รู้ทันทีว่าเหตุใดเขาจึงอารมณ์ไม่ดี ที่แท้ก็เป็นเพราะหนิงเวยนั่นเอง
เขาจึงเรียกพ่อบ้านมาสอบถามทันที เพื่อทำความเข้าใจถึงต้นสายปลายเหตุ
ตามธรรมเนียมแล้ว ของจำพวกเทียบเชิญคารวะ พ่อบ้านจะเป็นผู้รับไว้ก่อนแล้วค่อยนำมาให้ดู หากเป็นการมาเยี่ยมไข้ก็สามารถให้คนเข้ามาได้เลย แต่หากเป็นการมาเยี่ยมเยียนในฐานะแขก จะต้องให้คนมาเรียนให้นายท่านทราบก่อน
ครั้งนี้ รถม้าของรองเจ้ากรมซูมาถึงหน้าจวนกั๋วกงแล้ว แต่กลับถูกส่งตัวกลับไป นับว่าเป็นการหักหน้ากันอย่างยิ่ง มิน่าเล่าเจียงอวี้ถึงได้โมโหถึงเพียงนี้
หนิงเวยผู้นี้นับว่าใจกล้ายิ่งนัก อย่างไรเสียซูจิ่งก็เป็นถึงขุนนางใหญ่ขั้นสอง นางบอกไม่ไว้หน้าก็คือไม่ไว้หน้า ยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนางก็ทำไม่ถูกอย่างยิ่งแล้ว
พ่อบ้านกล่าวว่า ตอนที่บัตรถูกยื่นเข้ามา ตนกำลังรายงานเรื่องต่อฮูหยินรองอยู่พอดี เมื่อนางเห็นเข้าจึงจัดการเรื่องนี้เสียเอง
ตอนนั้นตนได้ท้วงติงไปแล้วว่าไม่เหมาะสม แต่กลับถูกอนุภรรยามองค้อนใส่
เมื่อเจียงกั๋วกงฟังจบก็รู้ว่าตนเป็นฝ่ายผิด จึงกล่าวกับเจียงอวี้ว่า
“เรื่องนี้เป็นความผิดของนางจริง ๆ เจ้าอยากจะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เจ้าเลย แต่อย่าให้มันเลยเถิดเกินไปนัก”
เรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ ถึงอย่างไรก็คงไม่ถึงขั้นต้องฆ่าแกงกันกระมัง?
“อนุภรรยาก็ควรทำตัวให้สมกับเป็นอนุภรรยา เรื่องของนายท่านตกถึงมือนางให้ตัดสินใจตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
“ข้าเห็นว่าการวางตัวของนางก็ใช่ว่าจะดีเท่าใดนัก ในภายหน้ายังไม่รู้ว่าจะไปสร้างศัตรูอีกมากเท่าไร นางเป็นคนของท่าน โดยธรรมชาติแล้วข้าย่อมไม่สะดวกที่จะลงมือเอง เพียงแต่ว่า อำนาจที่มอบให้นางนั้นมันจะมากเกินไปหรือไม่?”
นี่เป็นการบีบบังคับให้บิดาของเขายึดอำนาจการดูแลบ้านคืนจากหนิงเวย
“นี่เจ้าจะให้ข้ายึดอำนาจการดูแลบ้านของนางคืนรึ? แต่ตอนนี้ในเรือนหลังมีเพียงนางที่เป็นสตรีผู้เดียว หากวันหน้าต้องออกงานสังคม...”
“การออกงานสังคมไม่เป็นปัญหา เกียรติที่มอบให้นางยามอยู่นอกจวนก็นับว่าเพียงพอแล้ว!”


ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...