แต่น่าเสียดายที่นางคำนวณผิดอีกแล้ว จุดประสงค์ที่จะช่วยพี่สี่และพี่ห้านั้นดี แต่เสียดายที่พูดผิดและใช้วิธีผิด
เรื่องที่พี่สี่อยากจะเปิดร้านอาหารนั้น ซูหว่านได้ลงมือตัดหน้าไปก่อนแล้ว แถมยังคิดวิธีดีๆ ให้พี่สี่ได้หาเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอีกด้วย
ซูหว่านออกความคิดให้เขา โดยที่เขาจะแบ่งกำไรให้นางหลายส่วนในภายหลัง อย่างแรกคือแก้ปัญหาเงินทุนของเขา อย่างที่สองคือรักษาหน้าและศักดิ์ศรีของเขา เพื่อที่ในอนาคตเขาจะได้ไม่รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีนั้นได้มาจากการพึ่งพาผู้อื่น แต่มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตัวเอง
เมื่อเทียบกับการให้เงินอย่างตรงไปตรงมาของกู้เย่ว์แล้ว ซูอวิ๋นย่อมไม่มีทางตกลงโดยเด็ดขาด เงินของนางก็คือเงินของตระกูลกู้มิใช่หรือ?
พี่น้องตระกูลซูมีความเด็ดเดี่ยวถึงเพียงใดน่ะหรือ?
ถ้าบอกว่าจะไม่รับความช่วยเหลือใดๆ จากตระกูลกู้แล้ว ก็คือพูดคำไหนคำนั้น
ที่รับชุดเอาไว้ก็เพราะกู้เย่ว์บอกว่าเป็นของขวัญวันเกิด เห็นแก่น้ำใจของนาง รับก็รับไปแล้ว แต่แค่ไม่ใส่มันก็พอ
ให้ปลาไม่สู้สอนจับปลา ลูกไม้แบบนี้ นางสู้ซูหว่านไม่ได้หรอก
แน่นอนว่า ซูอวิ๋นปฏิเสธทันที
"ไม่ล่ะเย่ว์เย่ว์ ข้าอยากจะเก็บเงินเปิดร้านอาหารด้วยความสามารถของตัวเอง เงินของเจ้าข้าไม่เอาหรอก เจ้าเก็บไว้เถิด ถ้าไม่ใช่ความสำเร็จที่ได้มาด้วยความพยายามของตัวเอง ความสำเร็จนั้นก็ไม่มีความหมายอะไร!"
"พี่สี่ แต่เงินนี่ข้าให้ท่านยืมนะเจ้าคะ? พอร้านภัตตาคารเปิดแล้ว ก็ยังต้องอาศัยความพยายามของท่านในการบริหาร ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก แบบนี้ก็ยังไม่ได้อีกหรือ?"
กู้เย่ว์มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจอย่างยิ่ง
"ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีกับข้า อยากจะช่วยข้า ความหวังดีของเจ้าข้าซึ้งใจจริงๆ ที่เจ้ามีน้ำใจเช่นนี้ ข้ามีความสุขมาก แต่สรุปแล้วเรื่องนี้เจ้าอย่ามายุ่งเลยจะดีกว่า!"
เขาไม่ยอมรับความช่วยเหลือโดยตรงจากกู้เย่ว์ ไม่เกี่ยวกับว่าเงินนั้นเป็นของตระกูลกู้หรือไม่ แม้ว่าเงินนี้จะไม่ใช่ของตระกูลกู้ เขาก็ไม่สามารถรับไว้ได้อย่างหน้าตาเฉย แม้แต่การยืมก็ไม่ได้ เพราะเขาจะไม่ได้เพลิดเพลินกับกระบวนการเริ่มต้นธุรกิจนั้นเลย
ในนิยาย ร้านอาหารของซูอวิ๋นสร้างขึ้นจากการที่เขาทำงานเล็กๆ น้อยๆ เก็บสะสมเงินมาด้วยตัวเอง
เขาไปทำงานแบกหามที่ท่าเรือ ไปทำงานเป็นเด็กล้างจานในร้านอาหารและโรงเตี๊ยม ทั้งยังไปเป็นพ่อค้าเร่ขายอาหารเล็กๆ น้อยๆ ความพยายามของเขาไม่เคยขึ้นอยู่กับการพึ่งพาผู้อื่นเพียงอย่างเดียว
กู้เย่ว์ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผลเกินไป จนทำให้นางไม่สามารถโต้แย้งได้ จึงหันไปมองซูอี้
พี่ห้าคงไม่สามารถปฏิเสธสิ่งยั่วยวนใจเช่นนี้ได้หรอกกระมัง?
กู้เย่ว์คนนี้ ล้ำเส้นของซูอี้เต็มๆ นางยังคงคิดว่าเขาฟังคำพูดของนางจริงๆ และกำลังลำพองใจ หารู้ไม่ว่านางได้ทำร้ายจิตใจพี่ห้าอีกครั้งแล้ว
ซูอี้ยิ้มไม่ออกแล้ว เพียงแค่ ’อืม’ตอบรับในลำคอเบาๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปยังทิศทางของห้องส้วม
กู้เย่ว์ไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย สายตาของนางไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ซูอี้มากนัก นางหันไปหัวเราะพูดคุยอย่างสนุกสนานกับซูเฉินและซูอวิ๋นต่อ
"จริงสิ ครั้งนี้ข้าเอาของดีๆ กลับมาให้พวกท่านด้วยนะ โดยเฉพาะซูหว่าน เจ้าจะต้องชอบมากแน่ๆ!"
ซูหว่านที่กำลังกินขนมอยู่ก็หันไปมองนางทันทีเมื่อถูกเรียกชื่ออย่างกะทันหัน
พลางคิดในใจว่า อะไรอีกล่ะเนี่ย? ยังมีเรื่องของนางอีกหรือ?
แล้วก็เห็นสาวใช้ที่ชื่อชิวเอ๋อร์กำลังถือของบางอย่างที่บรรจุภัณฑ์ดูคุ้นตาอย่างมาก เมื่อเดินเข้ามาใกล้ถึงได้พบว่า มันก็คือสบู่นมแพะของซูหว่านนั่นเอง
"นี่คือของที่กำลังเป็นที่นิยมที่สุดในตลาดตอนนี้ สบู่นมแพะ พวกท่านลองดมกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้บนตัวข้าสิ นี่คือชุดที่ซักด้วยสบู่นี่ พอซักแล้วตัวก็จะหอมๆ ข้าชอบกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้มากที่สุดเลย
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นนมแพะด้วย ใช้ดีมาก เหมาะกับการล้างมือที่สุด หลังจากล้างแล้ว มือจะนุ่มลื่น ซูหว่าน เจ้าอยู่ในชนบททุกวัน มือคงจะหยาบกร้าน ดังนั้นการใช้สบู่ก้อนนี้ล้างมือจึงดีที่สุดแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้ได้ยินมาว่ามีสบู่สำหรับสระผมด้วย แต่ข้าซื้อมาไม่ได้ เพราะมันมีจำนวนน้อยเกินไป!"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...