"ใช่แล้ว! ค่าอาหารก็มากเกินไป ที่บ้านพวกเราท่านก็ไม่ได้กินของดีๆ หรือพักอยู่อย่างสบายเลย ถ้าข้าเก็บเงินท่านหนึ่งร้อยตำลึง นี่มันไม่เท่ากับข้าเป็นพ่อค้าเลือดเลยหรือ?"
สองพี่น้องปฏิเสธติดต่อกัน แถมยังมีเหตุผลรองรับอีกด้วย
เจียงอวี้รู้สึกจนปัญญา จึงยกมือขึ้นกุมหน้าผาก แล้วกล่าวต่อว่า
"เงินมากเงินน้อยไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเรื่องของน้ำใจ บ้านตระกูลซูมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า แล้วจะมีบุญคุณอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกเล่า?
"ข้ายังรู้สึกว่าตัวเองให้น้อยไปด้วยซ้ำ จนใจไม่สบายใจเลย!"
"ถึงกระนั้นก็รับมากขนาดนี้ไม่ได้ พวกเราสองพี่น้องรวมกันแล้วรับแค่หนึ่งร้อยตำลึงก็พอ ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งร้อยตำลึง ท่านเอากลับคืนไปเถอะ!"
เขาบอกว่าเป็นน้ำใจ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือความเหมาะสม
"หมอรักษาคนป่วยและช่วยชีวิตคน ถ้าเพียงเพราะช่วยชีวิตท่านแล้วจะต้องเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลราคาสูงลิบลิ่ว เช่นนั้นคนทุกคนที่ข้าช่วยชีวิตในภายหน้าก็จะต้องเรียกเก็บค่ารักษามากมายมิใช่หรือ?
หากเป็นเช่นนั้น ก็จะขัดต่อคุณธรรมของหมอที่มีจิตใจเมตตา แล้วชาวบ้านผู้ยากไร้ที่เจ็บป่วยไม่ต้องรอความตายเพราะไม่มีเงินจ่ายหรอกหรือ?"
คำพูดของซูมู่นั้นสูงส่งเกินไป จนทำให้เจียงอวี้รู้สึกว่าตนเองไร้วิสัยทัศน์ไปเลย
"พวกท่านสองพี่น้องเนี่ยนะ ข้าสู้ฝีปากพวกท่านไม่ได้จริง ๆ เช่นนั้นก็แล้วแต่พวกท่านเถอะ แต่อย่างไรพวกเราก็ต้องเป็นสหายกันแน่นอน ต่อไปเรื่องของตระกูลซู ข้าจะถือว่าเป็นเรื่องของตัวเอง ถ้าพวกท่านมีเรื่องยากลำบากอะไรก็อย่าได้เกรงใจ บอกกับข้าได้ทุกเรื่อง"
นี่คือคำสัญญาที่เจียงอวี้ให้ไว้กับพวกเขา คนในครอบครัวนี้ล้วนเป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง การที่เจียงอวี้ได้รู้จักกับพวกเขา ถือเป็นโชคดีในสามชาติภพเลยทีเดียว
ดังนั้นเขาจึงเก็บตั๋วเงินกลับคืนไปหนึ่งใบ แล้วซูมู่ก็หันกลับไปมอบตั๋วเงินใบนั้นให้ซูหว่าน
"หวานหว่าน เก็บไว้ให้ดีนะ ตั๋วเงินใบนี้เอาไว้ใช้สำหรับให้พี่ใหญ่ไปสอบได้"
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือว่าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปได้เรื่องหนึ่ง
พอพูดถึงพี่ใหญ่ ซูหว่านก็คิดว่าต้องรีบไปรับท่านพ่อท่านแม่กลับมาให้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องตรากตรำอยู่ข้างนอกอีก หากยังปล่อยไปแบบนี้ พ่อซูคงขาหักก่อนสิ้นปีเป็นแน่
ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสองเดือน ยังทันอยู่ รีบไปบอกให้พี่สามไปรับพวกเขากลับมาเร็วๆ ดีกว่า
ตอนนี้ที่บ้านมีกิจการแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการทำมาหากินอีกต่อไป พี่ชายหลายคนก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงแล้ว ท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานข้างนอกอีกต่อไป
"อื้อ รู้แล้ว!" ซูหว่านก็ไม่ได้อิดออดอะไร พอบอกว่าเป็นเงินสำหรับพี่ใหญ่ นางก็รับไว้เลย
"เจียงอวี้ เจ้าวางแผนจะทำอะไรต่อไปหรือ" ซูมู่ต้องการรู้ว่าหลังจากนั้นเขาจะทำอะไร


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตพลิกผัน ข้ากลายเป็นคุณหนูตัวปลอม
กดอ่านต่อบท444ไม่ได้ขึ้น erro...
ทำๆมกดอ่านไม่ได่ ขึ้น error...