ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ นิยาย บท 271

สรุปบท บทที่ 271: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

อ่านสรุป บทที่ 271 จาก ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย

บทที่ บทที่ 271 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เหมยปาเหย อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 271

สุดท้ายแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็เปิดปากพูดขึ้น“เสว่เอ๋อ คุณ…….”

แต่แค่ไม่ได้พูดออกมาเป็นประโยค หลี่เสว่พูดต่อ“พวกเขาบอกว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากัน แต่ฉันจำคุณไม่ได้จริงๆ ฉันก็เลยไม่สามารถรับความสัมพันธ์ของพวกเราในตอนนี้ได้”

ไป๋ยี่เฟยอึ้งตะลึงไป ในขณะเดียวกันรู้สึกว่าใจของตัวเองราวกับถูกมีดแทงเข้าอย่างแรง แสนเจ็บปวดทรมาน

หลี่เสว่เห็นความเจ็บปวดในแววตาของไป๋ยี่เฟย อยากที่จะพูดอะไรออกมา

“คุณ……โอเคใช่ไหม?”หลี่เสว่ถามขึ้นอย่างระมัดระวัง“ฉันแค่รู้สึกไม่ชินเท่านั้น……”

“ผมเข้าใจ”ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว“คุณไม่ต้องทำแบบนี้หรอก คุณสบายใจที่จะทำยังไงก็ทำอย่างนั้นเถอะ ผมไม่ว่าอะไร”

คำพูดนี้พูดจบลง หลี่เสว่ก็เหมือนจะถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก พร้อมกับยิ้มๆ

ไป๋ยี่เฟยลุกเดินขึ้นไปข้างบนทันที“ผมขึ้นไปพักผ่อนสักพักก่อนนะ”

หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยขึ้นไปแล้ว หลี่เสว่รอดูอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นก็ลุกขึ้นไปเดินเล่นภายในบ้านวิลล่า

พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ ก็คนกลุ่มหนึ่งล้อมรอบเธอไว้อยู่ ในตอนนั้นเธอกลัวสุดขีด ไม่รู้จักแม้แต่คนเดียว ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?

จากนั้นโจวฉวี่เอ๋อก็บอกว่าพวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน บอกชื่อของเธอ สถานภาพ แล้วก็ประสบการณ์ต่างๆในยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาของเธอ สุดท้าย ก็บอกเธอว่า เธอแต่งงานแล้ว

ต่อมา โจวฉวี่เอ๋อยังบอกเธอ เรื่องที่ไป๋ยี่เฟยทำเพื่อเธอ ดีกับเธอ จนเธอก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นแล้ว ว่าไป๋ยี่เฟยเป็นผู้ชายแบบไหน?

ทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากมายขนาดนั้นเพื่อเธอจริงๆเหรอ?

เธอมีความรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้ามาอยู่ในโลกของนิทาน

จนกระทั่งตอนบ่ายเห็นไป๋ยี่เฟยตื่นขึ้นมา หลี่เสว่มองเขาด้วยจิตใจที่อยากรู้อยากเห็น แต่สภาพที่ดูทึ่มๆของเขา มันรู้สึกแทบจะไม่เหมือนกับที่โจวฉวี่เอ๋อพูดไว้เลย

ส่วนในขณะนี้เอง ไป๋ยี่เฟยที่อยู่ข้างบนทิ้งตัวลงบนเตียง กลับไม่รู้สึกอยากนอนเลยแม้แต่น้อย

คำพูดของหลี่เสว่เมื่อตะกี้ยังวนเวียนอยู่ข้างหูของเขา ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นอยู่ภายในใจ

คิดไปคิดมา ไป๋ยี่เฟยก็หมดหนทาง

ที่หลี่เสว่เป็นแบบทุกวันนี้ ก็เพราะว่าตัวเขาเอง

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ปล่อยวางไปบ้างก็ดีแล้ว

เขากับหลี่เสว่แต่งงานกันตามข้อตกลง ไม่เคยมีประสบการณ์รักกันจริงๆเลย พอดีได้ถือโอกาสนี้ ทำให้หลี่เสว่ชอบตนเองใหม่เลยแล้วกัน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการรอคอยอยู่เหมือนกัน

……

ช่วงค่ำ ณ ตลาดกลางคืนผู้คนจอแจ แสงสีระยิบระยับ

ณ ร้านปิ้งย่างข้างถนนร้านหนึ่ง สวีลั่งกับไป๋หู่ทั้งสองคนสั่งปิ้งย่างมาเยอะสุดๆ ดื่มเบียร์ไปพลาง กินปิ้งย่างไปพลาง

ทั้งสองคนเป็นคนที่พูดไม่เยอะอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลาที่กินก็ไม่ได้พูดอะไรกันสักประโยค แต่กลับยกแก้วเบียร์ขึ้นมาชนกันอย่างเงียบๆ เป็นภาพที่ดูแปลกประหลาดไม่น้อย

ไม่นาน จู่ๆโต๊ะของพวกเขาก็มีชายอีกคนเข้ามานั่งด้วย

ผู้ชายคนนี้ดูอ่อนปวกเปียก สีหน้าก็ไม่ค่อยดี ดูเหมือนป่วยเป็นโรค

สวีลั่งกับไป๋หู่ก็หยุดลงทันที ไป๋หู่กลับไม่ได้มีสีหน้าท่าทีอะไร ส่วนสวีลั่งชะงักลง เม้มปากเล็กน้อย

“รุ่นพี่”ชายเป็นโรคเรียกขึ้นมาหนึ่งคำ

สวีลั่งตอบ อื้อ ไป ก่อนจะหยิบไม่ปิ้งย่างขึ้นมากินไปหนึ่งไม้

ไป๋หู่เห็นแบบนี้ก็ทำเหมือนกับว่าคนคนนี้ไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย ก้มหน้ากินต่อ

ชายเป็นโรครู้สึกผิดหวังไม่น้อย“รุ่นพี่ เรื่องเมื่อวาน ผม……”

เย่อ้ายเชื้อเชิญประธานผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของเมืองเทียนเป่ยมา เกือบจะนั่งเต็มทั้งห้องประชุม

รอจนคนมาครบแล้ว เย่อ้ายจึงปรากฏตัวออกมาอยู่บนเวทีโฮสต์ของห้องประชุม

ผู้คนจ้องมองไปที่เย่อ้าย พากันรู้สึกอยากรู้อยากเห็น บริษัทเย่ซื่อเอนเตอร์เทนเมนท์เรียกพวกเขามารวมตัวกันเพื่ออะไร?

เย่อ้ายถือไมค์ พูดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้องประชุม“จุดประสงค์ที่เรียกทุกท่านมาในวันนี้ ก็เพื่ออยากที่จะให้ทุกท่านร่วมมือกันจัดการกับโหวจวี๋กรุ๊ป”

พูดจบ ห้องประชุมก็เริ่มมีเสียงฮือฮาพูดคุยกันอย่างร้อนแรงขึ้นมาทันที

“อะไร?”

“จัดการโหวจวี๋กรุ๊ป? ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?”

“โหวจวี๋กรุ๊ปเป็นผู้ประกอบการแนวหน้าของเมืองเทียนเป่ยเชียวนะ ถ้าพวกเราไปต่อกรกับโหวจวี๋กรุ๊ป มันก็เหมือนกับเอาไข่ไปกระทบหินชัดๆ”

“เธอเป็นใครกัน? กล้าดียังไงถึงพูดว่าจะไปจัดการกับโหวจวี๋กรุ๊ป?”

“ฉันจำได้ว่าเธอเป็นประธานของบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์ๆเล็กบริษัทหนึ่ง เห็นๆอยู่ว่ากระดูกคนละเบอร์กับโหวจวี๋กรุ๊ป ไม่คิดว่าจะกล้าพูดอะไรที่บ้าระห่ำแบบนี้ แถมกล้าไปต่อกรกับโหวจวี๋อีก?”

“เพ้อฝันเกินจริงสุดๆ!”

“……”

เย่อ้ายนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบนิ่ง รอพวกเขาพูดคุยกันเสร็จ

จนกระทั่งห้านาทีผ่านไป ทุกคนเห็นเย่อ้ายไม่ได้พูดอะไร ในที่สุดก็เงียบสงบลง

ในตอนนี้เย่อ้ายจึงพูดขึ้น“ฉันรู้ดี ทุกคนรู้สึกว่าโหวจวี๋กรุ๊ปเป็นบริษัทแนวหน้าของเมืองเทียนเป่ย รู้สึกพวกเราไปสู้กับเขาไม่ได้ใช่ไหม?”

“ใช่ สู้ไม่ไหวหรอก แต่ถ้าผู้ประกอบการจำนวนหลายร้อยของเมืองเทียนเป่ยแบบพวกเรานี้ร่วมมือกันล่ะก็ จะจัดการกับโหวจวี๋กรุ๊ปแค่บริษัทเดียวไม่ได้เลยเหรอ? ต่อให้โหวจวี๋กรุ๊ปเก่งกว่านี้ ก็ยังเก่งกว่าผู้ประกอบการหลายร้อยบริษัทอีกอย่างนั้นเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่