บทที่330
ไป๋ยี่เฟยตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน รอดจนถึงพรุ่งนี้เหรอ? งั้นก็แสดงว่า วันนี้คนต้องการฆ่าเขาอย่างนั้นสินะ!
เมื่อจางหัวปินเห็นสีหน้าของไป๋ยี่เฟยแล้วเขาก็อธิบายไปด้วยความหวังดี “การฆ่าหวังไห่ของคุณมันบ้าบิ่นเกินไป ความจริงฉุงโยวเวยได้เตรียมการไว้แล้ว แต่คุณกลับลงมือไปซะก่อน มันจึงเหมือนเป็นการเปิดทางให้เขา”
“เขาอยากได้ตำแหน่งประธานอย่างนั้นเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยไม่ได้โง่ แค่คิดดูก็รู้แล้ว
ที่สำคัญ ในการที่ฉุงโยวเวยเป็นคนลงมือเองมันก็เสี่ยงที่จะถูกคนอื่นสงสัย แต่ถ้าไป๋ยี่เฟยเป็นคนทำละก็ ผลลัพธ์มันก็จะแตกต่างออกไป ในเมื่อฉุงโยวเวยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย เขาก็สามารถขึ้นไปนั่งบนตำแหน่งประธานได้โดยปราศจากข้อครหาใดๆ
จางหัวปินพยักหน้า “ใช่ครับ และคุณก็ไม่ควรฆ่าซางเซิ่นด้วย”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว ซางเซิ่นก็คือผู้ชายที่มาหาเขาอย่างนั้นเหรอ?
จางหัวปินพูดต่อ “ฉุงโยวเวยไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่”
ไป๋ยี่เฟยก้มลงใช้ความคิด จากนั้นก็พยักหน้า
นี่ถือเป็นการเห็นพ้องต้องกัน ขอแค่ไป๋ยี่เฟยรอดไปจนถึงพรุ่งนี้ได้ จางหัวปินก็จะมาอยู่ใต้บัญชาของไป๋ยี่เฟยด้วยความเต็มใจ
พอตกลงกันเสร็จ ไป๋ยี่เฟยกับสวีลั่งก็จากไป
หลังออกมาจากในตรอก สวีลั่งก็รับรู้ได้ในทันทีและกระซิบข้างหูไป๋ยี่เฟยว่า “มีคนตามเรามาครับ”
สีหน้าของไป๋ยี่เฟยก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากได้ฟังคำพูดของจางหัวปินแล้ว เขาก็รู้เลยว่าพอออกมาข้างนอกเรื่องมันต้องไม่ง่ายอย่างแน่นอน เขาจึงไม่แปลกใจเลยสักนิด แต่เขากลับเดินไปที่รถอย่างปกติ
สวีลั่งเองก็ยังทำตัวปกติ เดินตามไปที่รถ แล้วขึ้นมานั่งบนที่นั่งฝั่งคนขับ
ทันใดนั้น กระจกรถของไป๋ยี่เฟยก็ถูกใครบางคนเคาะ
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้นมามอง ผู้มายืนคือชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดลำลอง เขาใส่หมวกแก๊ปที่แทบจะปิดหน้าแล้ว แถมที่คางของเขายังมีหนวดเป็นตอๆ เหมือนเพิ่งโกนมาไม่นาน
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกคุ้นเคยกับชายคนนี้ แต่ทันใดนั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงความไม่ปลอดภัย เขาจึงไม่ได้ลดกระจกลง เพียงแค่จ้องมองชายที่ยืนอยู่ด้านนอกเท่านั้น
และในขณะที่ชายคนนี้กำลังทำท่าเหมือนไม่ได้สนใจพวกที่สะกดรอยตามอยู่นั้น ไป๋ยี่เฟยก็สั่งสวีลั่งว่า “ออกรถ!”
การกระทำของชายคนนั้นมันแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นพวกเดียวกับที่ตามไป๋ยี่เฟยมา!
สวีลั่งเหยียบคันเร่งอย่างแรง แล้วรถก็พุ่งออกไปเหมือนกับลูกธนู
พอชายที่สวมหมวกแก๊ปเห็นอย่างนั้น เขาก็ได้แต่ยืนอึ้งอยู่กับที่ แถมยังสบถอีกด้วยว่า “เชี่ย!”
ไม่นาน ก็มีรถสามคันถูกขับออกมา ทุกคันล้วนแล้วแต่ไล่ตามรถของไป๋ยี่เฟยไปทั้งนั้น
ชายสวมหมวกไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบขวางรถแท็กซี่คันหนึ่งไว้ ดึงตัวคนขับออกมา จากนั้นก็ขับรถตามคนพวกนั้นไปทันที
“มีรถตามมาสามคันครับ” สวีลั่งมองกระจกหลัง
ไป๋ยี่เฟยก็เห็นแล้วเหมือนกัน “พยายามสลัดพวกเขาให้หลุด”
สวีลั่งตอบรับ
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าเคร่งเครียด คนพวกนี้ช่างใจกล้าเหลือเกิน ที่มาไล่ฆ่าเขาโจ่งแจ้งแบบนี้ ไม่กลัวถูกตำรวจจับบ้างหรือยังไง?
หึ แต่ว่า ฉุงโยวเวยเป็นถึงตระกูลฉุงของเมืองหลวงเลยนะ เรื่องแบบนี้เขาสามารถเคลียร์ได้อย่างง่ายดายเลยไม่ใช่รึไง?
“จับให้แน่นๆ นะครับ” สวีลั่งพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ไป๋ยี่เฟยยื่นมือไปจับราวจับบนหัวอย่างอัตโนมัติ จากนั้นก็รับรู้ได้ในทันทีว่าสวีลั่งกำลังเร่งความเร็วขึ้น
หลังเร่งความเร็ว สวีลั่งก็ขับรถซ้ายทีขวาที สุดท้ายก็ขับมาจนถึงซอยเล็กๆ ซอยหนึ่ง ในซอยนี้ไม่มีรถเลยสักคัน สภาพแวดล้อมก็ดูแย่มากด้วย มีถังขยะหลายใบวางอยู่ข้างทาง
ทันใดนั้น สวีลั่งก็พูดขึ้นออกมา “หมอบลงครับ!”
ไป๋ยี่เฟยรีบหมอบลง
ไม่นานก็มีเสียงดังสนั่นดังขึ้น
“__แม่!” ไป๋ยี่เฟยสบถคำหยาบออกมา “แม่งใช้ปืนด้วยเหรอเนี่ย!”
สวีลั่งสีหน้าเคร่งเครียด เขาเพิ่งหลบกระสุนไปได้หลายนัด หลังรถถูกยิงเข้าแล้ว แต่โชคยังดีที่ยิงไม่โดนกระจกหลัง เพราะไม่อย่างนั้น คนที่นั่งอยู่ด้านหลังคงได้ตายไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่