สรุปเนื้อหา บทที่ 399 – ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย
บท บทที่ 399 ของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เหมยปาเหย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 399
ไป๋ยี่เฟยตื่นขึ้นในตอนเช้า และเขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในรถตำรวจ เขาได้นั่งในรถตำรวจที่มีโครงเหล็กนั้นอีกครั้ง
เขากำลังจะถูกนำตัวไปยังสถานกักกันในเป่ยไห่
เหลียงยู่ยังคงนั่งอยู่ตรงข้ามไป๋ยี่เฟย กู่หรงก็นั่งข้างๆไป๋ยี่เฟยเช่นกัน แต่แค่ครั้งนี้พวกเขากำลังเดินทางจากเมืองเทียนเป่ยไปยังเมืองเป่ยไห่ ซึ่งมันแตกต่างกันแค่ทิศทางในการเดินทางเท่านั้น
ระหว่างทาง เหลียงยู่มองไปที่ไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาที่ซับซ้อน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่ได้เอ่ยปากพูด
ไป๋ยี่เฟยมองออกว่า เหลียงยู่มีความอยากรู้อยากเห็นและสงสัยอยู่หลายอย่าง ซึ่งดูจากการแสดงสีหน้าในวันนี้แล้ว หล่อนก็คงได้พูดคำนั้นออกไปแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลแล้ว เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมาก
หลังจากที่เดินมาได้ครึ่งทาง ในที่สุดเหลียงยู่ก็ทนไม่ไหวที่จะพูดออกมา "นายไม่เหมือนฆาตกร ”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปครู่หนึ่ง เขายิ้มและพูดว่า "คุณก็ไม่เหมือนตํารวจเหมือนกัน ”
"ว่าไงนะ?" เหลียงยู่ไม่พอใจ เพราะความฝันของหล่อนคือการเป็นตํารวจที่ดีที่คอยลงโทษและกําจัดคนร้าย อยู่ๆก็พูดว่าหล่อนไม่เหมือนตํารวจ นั่นไม่ใช่การดูถูกเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยยักไหล่ "ไม่มีอะไรหรอก" ”
เหลียงยู่เม้มปาก และครุ่นคิดถึงข้อมูลที่หล่อนเคยอ่านเหล่านั้น ก็ทำให้หล่อนรู้สึกว่าจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดขนาดนั้น หล่อนจึงเอ่ยปากขึ้นอีกว่า "ตรงกลางเรื่องนี้มีอะไรที่นายยังไม่ได้อธิบายไว้หรือเปล่า"
เมื่อพูดจบ กู่หรงก็มองมา และสนใจกับคำถามนี้มากเช่นกัน
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับไม่ได้พูดอะไร เขาได้แต่ส่ายหัว
เหลียงยู่รู้สึกล้าเล็กน้อย "ไม่พูดก็ช่างมันเถอะ! ”
กู่หรงถอนหายใจเล็กน้อย เพราะเขารู้เรื่องราวมากกว่าเหลียงยู่ ดังนั้นเขาจึงมีเรื่องให้ต้องคิดมากกว่า เหลียงยู่ แต่หลังจากเงียบไปสักพัก กู่หรงก็พูดขึ้นว่า "ผมจะไปพบเขา"
ไป๋ยี่เฟยพูดเสียงต่ำลง "อืม"
กู่หรงมองเขาอีกครั้ง "ที่จริงแล้ว มันไม่จำเป็นต้องฆ่าคนหรอก ”
ที่ฉินหัวยอมเละขนาดนั้น ก็เพราะว่าอยากรักษาชีวิตของเขาไว้ แต่เขากลับไม่เข้าใจ ว่าทำไมไป๋ยี่เฟยถึงฆ่าคนมากมายขนาดนี้ด้วย
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และหัวเราะเบา ๆ “ ถ้าผมไม่ฆ่าเขา เขาก็จะมาฆ่าผม”
ใช่ ฉินหัวยังมีชีวิตอยู่ แต่มันก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ฉุงโยวเวยส่งมาก็เพื่อมาฆ่าเขา แล้วเขาจะสู้กลับไม่ได้เลยหรือไง? มันสมควรแล้วเหรอที่เขาต้องถูกพวกมันฆ่า? แล้วมันควรปล่อยให้พี่น้องและเพื่อนพ้องของตัวเองโดนทำร้ายด้วยอย่างนั้นเหรอ?
กู่หรงและเหลียงยู่มองหน้ากัน จากนั้นเหลียงยู่ก็พูดว่า "เขาส่งคนมาฆ่านาย แต่นายก็สามารถแจ้งตํารวจได้นิ"
ไป๋ยี่เฟยไม่เห็นด้วย แจ้งตำรวจแล้วมันจะมีประโยชน์เหรอ? กว่าที่ตำรวจจะมาถึง คนคงตายไปกันหมดแล้ว
สีหน้าของเหลียงยู่หม่นหมองลง "ฉันรู้ว่าบางทีตํารวจอาจมาไม่ทัน แต่ว่าพวกเราก็พยายามกันอย่างเต็มที่ที่สุดแล้วนะ..."
"ครึ่งปีมานี้ ผมได้เรียนรู้ประโยคหนึ่ง "ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ”
เมื่อเขาเรียนจบ เขาหวังว่าคนอื่นๆจะให้โอกาส ให้เขาได้แสดงความสามารถ และได้ทำในสิ่งที่เขาคิดให้เป็นจริงขึ้นมา
แต่สิ่งที่คนอื่นมองไม่ใช่พรสวรรค์และความคิดของคุณ แต่มันกลับเป็นฐานะและตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณ เขาไม่เคยได้รับโอกาสเลยสักครั้ง เขามักจะบ่น และรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเอาสะเลย
ต่อมา เขาก็ไม่คาดหวังว่าคนอื่นจะให้โอกาสเขาอีกต่อไป และได้ล้มเลิกสิ่งที่ตัวเองเรียกว่าความทะเยอทะยานไปเสีย จนกระทั่งเขาได้เป็นประธานโหวจวี๋กรุ๊ป
เป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว เขาประสบกับสิ่งต่างๆมากมาย ทำให้เขารู้ว่า เพียงแค่เขาเข้มแข็ง และมีฐานะ ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลาย
ทุกครั้งที่มีการลอบสังหาร และทุกครั้งที่มีการสมรู้ร่วมคิด เขามักจะตระหนักถึงประโยคที่ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน!
เหลียงยู่และกู่หรงอึ้งไปเล็กน้อย แต่ไม่ได้โต้แย้งคําพูดของไป๋ยี่เฟยใดใด
เขาพูดถูก แต่บางครั้ง เราก็ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆสำเร็จได้ด้วยตัวเองเสมอไป
หลังจากนั้น การสนทนาก็เงียบไป
เมื่อพวกเขามาถึงศูนย์กักกันเป่ยไห่ กู่หรงและเหลียงยู่ก็พาไป๋ยี่เฟยเข้าไป และส่งมอบเขาให้กับเพื่อนร่วมงานข้างใน ไป๋ยี่เฟยก็ถูกอีกคนพาไปยังสถานที่ที่เขากำลังจะไปอยู่
ที่นี่ไม่ต่างจากในละครทีวีมากเท่าไหร่ มีหลายห้องเรียงกันเป็นแถว โดยแต่ละห้องจะหันหน้าไปยังทางเดินที่มีโครงเหล็กและประตูบานเล็กๆที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งมันจะพอสำหรับคนคนหนึ่งที่เดินจะเข้าและออกเท่านั้น
“เข้าไปสิ”
เมื่อพูดจบ ชายหน้าหนวดก็หันหลังกลับ และนั่งบนเตียงเพื่อดูการต่อสู้
ทุกคนล้อมรอบไป๋ยี่เฟยไว้ และในขณะเดียวกัน ก็เริ่มทุบไป๋ยี่เฟยจนล้มลงกับพื้น
ไป๋ยี่เฟยไม่อยากสร้างปัญหา แต่อีกฝ่ายกลับเป็นฝ่ายเริ่มหาเรื่องก่อน!
เมื่อคนแรกกำหมัดออกไป ไป๋ยี่เฟยก็จับมันไว้ได้ และลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับยื่นเท้าขึ้นมา และถีบคนนั้นจนล้มลงไป เพราะด้านหลังยังมีคนอยู่ ดังนั้นจงทำให้เขาทั้งสามคนล้มลงกับพื้นด้วยกัน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ไป๋ยี่เฟยก็คว้าข้อมือของอีกคนที่อยู่ข้างๆเขาด้วยมือซ้าย และดึงมันอย่างรุนแรง จนคนคนนั้นเสียการทรงตัวทันที และกำปั้นของไป๋ยี่เฟยก็มาถึงเขา
“โอ๊ย!”
ชายคนนั้นกรีดร้องออกมา และถูกไป๋ยี่เฟยเตะออกไป
คนอื่นๆต่างก็พากันรุม แต่ไป๋ยี่เฟยก็สามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย พอผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนต่างก็ล้มลงกับพื้นและร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
แววตาของไป๋ยี่เฟยเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม และจิตสังหารแห่งการฆ่าก็พูดขึ้นมา ทําให้ทุกคนต่างก็ไม่มีใครกล้าก้าวออกไปข้างหน้า
ชายหน้าหนวดเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็ตะโกนออกมาว่า "ไอ้พวกขยะไร้ประโยชน์! ”
พอพูดจบ ก็พุ่งตัวออกไปทันที
ไป๋ยี่เฟยรีบหันกลับไป และหลบหมัดของชายหน้าหนวดได้ทัน ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ยื่นเท้าออกไป เท้าข้างหนึ่งเหยียบเข้าไปที่หัวเข่าของชายหน้าหนวด จนทำให้ชายหน้าหนวดคุกเข่าลงกับพื้นในทันที
ไป๋ยี่เฟยบิดแขนของชายหน้าหนวดไว้ด้านหลัง และข่มเขาไว้แน่น ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพราะผมไม่ต้องการสร้างปัญหา ไม่อย่างนั้น... ผมคงต้องฆ่าคนเพิ่มอีกเป็นแน่
เมื่อพูดคำนี้ออกไป ชายหน้าหนวดก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นเล็กน้อย คนคนนี้อาจจะฆ่าคนจริงๆ ถึงเข้ามาในนี้ได้
ไป๋ยี่เฟยปล่อยชายหน้าหนวดลง ให้บทเรียนพวกเขาแค่นี้ก็พอแล้ว เนื่องจากการต่อสู้เมื่อครู่ อาการบาดเจ็บของเขาดูเหมือนจะเจ็บปวดมากกว่าเดิม ดังนั้นเขาจึงอยากพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ไป๋ยี่เฟยวางมือลงชายหน้าหนวดก็ลุกขึ้น พร้อมกับกําหมัด และพยายามชกไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยเคยฆ่าคนแล้วเป็นไง? เขาเท่านั้นถึงจะเป็นหัวหน้าของที่นี่ได้ ทั้งในห้องขังนี้ไม่มีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง ใครจะไปเชื่อว่าเขาจะฆ่าคนได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่