บทที่469
หลิวเสี่ยวอิงกับเฉินห้าวยืนหลบไปอยู่ข้างๆ เพราะทั้งสองมีความสามารถในการต่อสู้น้อยที่สุด ดังนั้นจึงได้แต่ยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ก็พอแล้ว
ชายหน้าบากพูดต่ออีกว่า “พวกแกเป็นคนของตระกูลไหน? ตระกูลหลินเหรอ?”
คำถามนี้ไม่ได้ถามออกมาลอยๆ เพราะในที่นี้มีคนของหลายตระกูลมารวมกันอยู่มาก มีทั้งตระกลูเย่ ตระกูลฉุง ตระกูลหลิน รวมถึงคนที่ถูกส่งมาจากสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงอีก
เฉินอ้าวเจียวที่พาคนมายืนนิ่งไม่พูดอะไร
แล้วก็มีชายคนหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลังของชายหน้าบาก เขาเป็นชายที่มีตาข้างเดียว น้ำเสียงของเขาทั้งหยาบคายและป่าเถื่อน “ข้าต่างหากล่ะที่มาจากตระกูลหลิน อย่ามาพูดจามั่วๆ นะ!”
พอชายหน้าบากได้ยินอย่างนั้น เขาก็ทำเสียงฮึดฮัด “ถ้าอย่างนั้นก็คงมาจากสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงสินะ?”
สิ้นเสียง ก็ได้มีชายอีกคนเดินออกมา เขาเป็นชายวัยกลางคน สีผิวดำเข้ม เขาถ่มน้ำลายลงพื้น “แม่งเอ๊ย มันไม่ใช่คนของสหพันธ์สักหน่อย!”
ตอนนี้ชายหน้าบากเริ่มสับสนแล้ว “แล้วแกมาจากตระกูลไหนเนี่ย?”
ชายหน้าบากมาจากตระกูลฉุง เนื่องจากตระกูลฉุงกับตระกูลเย่ร่วมมือกันอยู่ดังนั้นชายหน้าบากจึงรู้ดีว่าใครบ้างที่มาจากตระกูลเย่ ที่เหลือก็น่าจะเหลือแค่คนจากตระกูลหลินกับสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงเท่านั้น
แต่มันกลับไม่ใช่ทั้งสองตระกูล แล้วแม่งยังมีใครคิดจะเข้ามาวุ่นวายอีกเนี่ย?
พอนึกถึงตรงนี้ ชายหน้าบากก็ได้มองหน้าเฉินอ้าวเจียวด้วยความตกใจ “หรือว่า……พวกแกจะมาจากตระกูลไป๋?”
พอพูดถึงตระกูลไป๋ หลิวเสี่ยวอิงก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นี่ตระกูลไป๋ก็คิดจะฆ่าไป๋ยี่เฟยด้วยเหรอเนี่ย?
ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายอะไร เพราะคนที่สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงประกาศแล้วว่า ใครก็ตามที่แก้แค้นให้เหลียงหมิงเยว่โดยการฆ่าไป๋หยุนเผิงก็จะได้หลันเต่าไปครอบครอง
นี่มันช่างเป็นรางวัลที่แสนเย้ายวนสำหรับทั้งสามตระกูลมาก แล้วตระกูลไป๋ต่างกันล่ะจะต่างกันตรงไหน?
ยังไงตระกูลไป๋ก็เป็นตระกูลที่ใหญ่ ผู้อาวุโสในตระกูลก็ต้องเอาผลประโยชน์ของตระกูลมาก่อนอยู่แล้ว ต่อให้คนๆ นี้จะเป็นผู้นำตระกูลก็ตาม เพื่อผลประโยชน์ที่จะได้รับพวกเขาก็ละทิ้งได้อยู่แล้ว
ชายหน้าบากขำแล้วขำอีก จากนั้นก็พูดเยาะเย้ยว่า “แม้แต่ตระกูลไป๋ก็ยังมา วันนี้นี่มันช่างครึกครื้นดีจริงๆ เลยนะ?”
“ไม่ใช่รึไง? ตระกูลไป๋ฆ่าได้แม้แต่คนของตัวเอง!” ชายตาเดียวยิ้มเยาะเย้ย
ชายหัวล้านคนหนึ่งเดินออกมา เขาเป็นคนของตระกูลเย่ “ก็รางวัลมันล่อตาล่อใจซะขนาดนั้น มีเหตุผลอะไรที่ตระกูลไป๋ต้องปฏิเสธด้วยล่ะ?”
“ยังไงซะ วันนี้ไป๋ยี่เฟยก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว ส่วนใครจะเป็นคนได้หัวมันไปก็ต้องดูที่ความสามารถของคนๆ นั้นแล้ว” ชายหน้าบากขำออกมา
พอสิ้นเสียง แววตาของทุกคนก็สงบลง ต่างคนต่างระวังตัวมากขึ้น
ใครๆ ก็อยากฆ่าไป๋ยี่เฟยทั้งนั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนจากตระกูลพวกนี้ ที่ฝีมือไม่ได้ต่างกันมาก การที่อยากฆ่าไป๋ยี่เฟยให้ได้ก่อนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เฉินอ้าวเจียวมองไปยังคนที่อยู่รอบๆ จากนั้นก็ลงมือ พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ลงมือ!”
พริบตาเดียว คนสิบคนที่อยู่ข้างๆ เฉินอ้าวเจียวก็พุ่งตัวออกไป
พอคนจากตระกูลต่างๆ เห็นเข้าก็ตกใจไปตามๆ กัน พวกเขาคิดว่านี่เป็นคนจากตระกูลไป๋ที่จะมาแย่งผลงานกับตัวเองจริงๆ ว่าแล้วทุกคนก็ลงมือกันทันที
คนสิบคน บวกเฉินอ้าวเจียวก็มีสิบเอ็ดคน
ถึงคนจะดูน้อย แต่ความสามารถนั้นเหลือล้นมาก
หลังจากที่พวกเขาบุกออกไปได้หนึ่งนาที คนพวกนั้นถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาน่ากลัวเพียงใด
ในระหว่างที่ประมือกัน อีกฝ่ายแทบไม่ทันได้ทำอะไรเลย ถ้าไม่ถูกทุ่มจนล้มก็ถูกอัดจนลุกไม่ไหว
เพียงไม่กี่นาที คนกว่าครึ่งก็ลงไปนอนอวดครวญอยู่บนพื้นแล้ว
ชายหน้าบากมองมาที่พวกเขาอย่างหวาดระแวง “นี่พวกแกเป็นใคร? ต้องไม่ใช่คนจากตระกูลไป๋แน่ๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่