บทที่ 526
เย่ซื่อกรุ๊ปมีสินทรัพย์รวมหลายหมื่นล้านหยวน ซึ่งในตอนนี้มันแค่ใช้ไปไม่กี่พันล้านหยวนเท่านั้นเอง และมันก็ไม่ได้รู้สึกปวดใจอะไรเลยสักนิด
แต่สำหรับคริสตัลกรุ๊ปแล้ว มันเกือบจะเป็นหนึ่งในห้าแล้ว และมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของคริสตัลกรุ๊ปนั้นก็ยังมีไม่ถึงหมื่นล้านหยวนด้วยซ้ำ ซึ่งไม่สามารถเทียบกับเย่ซื่อกรุ๊ปได้เลย
ต้องบอกว่าไป๋ยี่เฟยกับหวังโหลวกล้าเสนอราคากับเย่ซื่อกรุ๊ปนั้น นับว่าช่างมีความกล้าหาญจริงๆ
"เฮ้อ นี่ยังเด็กเกินไป!"
"ใช่แล้ว เงินก้อนนี้หากโยนลงไปในนั้นแล้ว ไม่ใช่การปาหินลงน้ำงั้นเหรอ?"
"ฉันรู้สึกว่ามันดูโง่มาก!" ทั้งๆที่รู้ว่าผลสุดท้ายเป็นแค่การโยนเงินเข้าไป ถ้าไม่ใช่ว่าโง่แล้วจะเป็นอะไรได้อีกเล่า?”
ทุกคนต่างพากันซุบซิบ
หวังโหลวไม่ได้สนใจในการซุบซิบของคนเหล่านี้ เพราะเขามีแผนของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพูดกับไป๋ยี่เฟยอย่างเสียงเบาว่า "เย่ฮวนต้องชนะบัตรเลื่อนขั้นนี้แน่นอน แน่นอนว่าต้องประมูลได้ใบที่ 1 แน่ ถ้าพวกเราไม่ประมูลเขาอย่างหนัก ฉะนั้นแค่เพิ่มราคาก็พอแล้วเน้อ"
"แต่สำหรับใบที่ 2 เขาโดนพวกเราเพิ่มราคาแล้ว แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้คุณแน่ แต่ยังไงก็จะประมูลต่อไป เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะเพิ่มราคาอีกครั้ง โดยให้เขาประมูลบัตรเลื่อนขั้นทั้งสองใบซึ่งหากรวมกันแล้วน่าจะประมาณ 5 พันล้านหยวน"
"เพราะ5 พันล้านหยวนเป็นราคาสูงสุดที่เย่ฮวนสามารถรับได้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นบัตรเลื่อนขั้นใบที่3 เขาก็จะไม่กล้าขึ้นราคากับเราแล้ว และเราก็จะสามารถยึดบัตรใบที่3 ไปได้อย่างแน่นอน"
ไป๋ยี่เฟยได้ยินหวังโหลวพูดดังนั้นก็พยักหน้า
และในวินาทีต่อมา ไป๋ยี่เฟยก็ยกป้ายขึ้นตะโกนว่า " 5 พันล้าน!"
หวังโหลวเบิกตากว้างทันที
ทุกคนในที่นั่นต่างก็ทำสีหน้างุนงง
เย่ฮวนจ้องไป๋ยี่เฟยด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผี
สวี่ชางยืนนิ่งตะลึงอยู่กับที่ และรู้สึกว่าสมองของเขากำลังค้าง
5 พันล้านหยวนเลย!
นั่นมัน 5 พันล้านหยวนเลยนะ!
หวังโหลวผ่อนคลายลงอย่างยากลำบาก เขากลืนน้ำลาย และไม่มีความสงบอย่างที่เคยมีก่อนหน้านี้อีก "ไป๋...ไป๋ยี่เฟย คุณ...คุณได้ยินผิดแล้วหรือเปล่า? ผมพูดถึงบัตรใบที่3 นะ!”
เฝิงเซียนเซียนโกรธจนแทบระเบิด หล่อนลุกขึ้นยืน แล้วชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยพร้อมกับตะโกนว่า "ไป๋ยี่เฟย คุณก่อความวุ่นวายอะไรกัน?
คุณมีเงินมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
"บริษัทเสียหายอย่างพวกคุณกล้าดียังไงมาแข่งกับตระกูลเย่ของเรา? ฝันไปเถอะ! ถ้าถึงเวลาแล้วไม่มีเงินจ่าย พวกคุณต้องชดใช้ และฉันจะคอยดูว่าคุณจะเอาเงินชดใช้จากไหน”
ท่าทางของเฝิงเซียนเซียนเอามือเท้าสะเอวและตะโกนร้องอย่างเกรี้ยวกราด ซึ่งมันไม่มีความเป็นนายหญิงน้อยของตระกูลเย่เลยสักนิดแต่กลับเหมือนหญิงปากร้ายที่ตลาด
เย่ฮวนหน้าบึ้งทันที กำลังจะเอ่ยปากให้เฝิงเซียนเซียนนั่งลง แต่กลับได้ยินไป๋ยี่เฟยเอ่ยปากขึ้น
เสียงนั้นพูดสงบจิตสงบใจ "แค่ 5 พันล้านเองจิ๊บจ๊อย”
หลังจากพูดจบ ทุกคนก็พากันเลือดคลั่ง แค่ 5 พันล้านเองจิ๊บจ๊อยได้ไง?
แค่ 5 พันล้านเองจิ๊บจ๊อยเหรอ?
คุณคิดว่ามันเป็นเหมือนผักกาดขาวที่กลาดเกลื่อนไปทั่วถนนงั้นเหรอ?
น้ำเสียงนี้ช่างอวดดีบ้าระห่ำเกินไปแล้ว?
เฝิงเซียนเซียนหัวเราะเบาๆอย่างเหยียดหยาม "ในเมื่อพูดขนาดนี้แล้ว คงจะสามารถจ่ายเงิน 5 พันล้านได้จริงๆแล้วสินะ?”
"แต่อย่าลืมว่า ตระกูลเย่เป็นบริษัทชั้นนำในเป่ยไห่ คุณสามารถจ่ายเงิน 5 พันล้านหยวนได้ แล้วจะจ่ายอีก 10 พันล้านหยวนได้ไหมล่ะ?"
"อยากโขกเงินกับพวกเรา ก็ไม่ดูกำลังตัวเองเลยเน้อ?"
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจ จึงพูดอย่างเฉยชาว่า "ตระกูลเย่ของพวกคุณน่ะรวยมาก รู้สึกว่าไม่สามารถเอาชนะได้เลยจริงๆ”
"แต่ผมก็แค่อยากจะแข่งดูแค่นั้นเอง"
เฟิงเซียนเซียนหัวเราะออกมาอย่างโกรธเคือง "ได้ แข่งก็แข่งสิ จะคอยดูว่าใครสามารถเอาชนะใครได้?”
สีหน้าเย่ฮวนมืดครึ้ม ถ้าจะเทียบกับเงิน แน่นอนว่าไม่สามารถเอาชนะตระกูลเย่ได้อยู่แล้ว แต่เฝิงเซียนเซียนพูดไปแบบนั้น ก็บุ่มบ่ามเกินไป ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อคนอื่นๆ เห็นดังนั้นพวกเขาก็เงียบและคอยดูการแสดงต่อไป
สวี่ชางที่อยู่บนเวทีไม่ขัดอะไรสักคำ เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นฝ่ายที่ได้รับประโยชน์อยู่แล้ว ซึ่งหากตามการพัฒนานี้ต่อไป เขาก็จะยิ่งได้ผลประโยชน์ แล้วทำไมต้องขัดขวางด้วยล่ะ?
แต่ ไป๋ยี่เฟยสามารถหยิบเงินออกมาได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่