บทที่ 539
ถึงแม้ว่าหลิ่วจาวเฟิงจะยอมถอดใจแล้วแต่ก็ยังมีท่าทางแบบนั้นอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย หลังจากที่เห็นไป๋ยี่เฟยแล้วก็ยังพูดเยาะเย้ยเหมือนเดิม“ไป๋ยี่เฟย ทุ่มเงินไปเยอะขนาดนั้นแล้วมันยังไง? ก็แพ้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าฉันเป็นแก ป่านนี้ฉันกระโดดทะเลไปตั้งนานแล้ว เงินเยอะขนาดนั้น แกก็ช่างกล้าจ่ายไปจริงๆนะ สุดท้ายไม่ได้อะไรกลับมาสักอย่าง”
ไป๋ยี่เฟยสบถออกมาอย่างเย้ยหยัน ดึงกระดาษทิชชู่ออกมาหนึ่งแผ่น เช็ดมืออย่างไม่รีบไม่ร้อน“แล้วเกี่ยวอะไรกับแกด้วย!”
“นี่แก!”หลิ่วจาวเฟิงจ้องเขม็ง จากนั้นก็สบถหึออกมาก่อนจะพูดขึ้น“แกก็ทำเก่งต่อไปเถอะ!ถึงยังไงไอ้คนที่แพ้ไม่เป็นท่า ก็คือแก ไม่ใช่ฉัน!”
“แล้วก็ อย่านึกว่าฉันจะยอมถอดใจง่ายๆ ถึงแกจะชนะ ก็เพราะว่าฉันไม่ได้เป็นคนของเย่ฮวนตั้งแต่แรกแล้ว เย่ฮวนยังไม่มีสิทธิ์นั้น!”
ไป๋ยี่เฟยที่กำลังจะก้าวเท้าไป หยุดชะงักลง“แกไม่ใช่คนของเย่ฮวน?”
หลิ่วจาวเฟิงพยักหน้าอย่างภูมิใจ“แกนึกว่าฉันกับเย่ฮวนจะไปเป็นปฏิปักษ์กับแกใช่ไหม? ฮ่าๆ……แกก็ไม่ใช่คนฉลาดอะไรมากมายเหมือนกันนะ”
“จะบอกความจริงให้แกฟังนะ ฉันเป็นคนของคุณชายรองไม่ได้มีเป้าหมายที่จะต่อสู้กับแกเหมือนกับเย่ฮวน แต่……ต้องทำให้เย่ฮวนต่อสู้กับแก ยุให้แกกับเย่ฮวนบาดหมางกันยังไงล่ะ”
“แกดูสิ ตอนนี้ฉันบรรลุเป้าหมายเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือไง?”
“เรื่องที่คุณชายรองมอบหมายให้ฉันทำ ฉันก็ทำได้แล้ว ถึงตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่างของฉันที่สูญหายไป ก็จะหวนกลับมาอีกครั้ง ส่วนแกก็แพ้ให้กับเย่ฮวน แถมยังเสียเงินไปตั้งหกพันล้านอีก ช่างโง่จริงๆ”
“พฤติกรรมแบบนี้ของแก ยังคิดที่จะเป็นทายาทของตระกูลไป๋อีกเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
“ตระกูลไป๋ไม่มีทางให้คนที่โง่ขนาดนี้มารับช่วงต่อหรอก ส่วนแก นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แพ้ราบคาบอย่างไม่มีวันฟื้นกลับขึ้นมาได้อีก!”
“จะช้าจะเร็วยังไงตระกูลไป๋ก็เป็นของคุณชายรองอยู่ดี แกสู้ไม่ได้หรอก!”
“ฮ่าๆ……”
พอพูดถึงตอนสุดท้าย หลิ่วจาวเฟิงก็หัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยได้ฟังจบก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมามากมายอะไร เพียงแค่พูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ“มันน่าภูมิใจตรงไหน?”
“ต่อให้ฉันแพ้ แกจะได้สืบทอดตระกูลไป๋ต่องั้นเหรอ? ประโยชน์ที่ไป๋เซี่ยวให้กับแกมีมากเท่าไรกันเชียว? พูดให้ชัดๆก็คือ แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้น มันน่าภูมิใจตรงไหนกัน?”
“ยิ่งไปกว่านั้น……ฉันแทบจะไม่เคยคิดเรื่องที่มารับช่วงต่อตระกูลไป๋เลยด้วยซ้ำ ฉันไม่สนใจ!”
หลิ่วจาวเฟิงอึ้งตะลึงไปกับคำพูดของไป๋ยี่เฟย ก่อนจะตอบสนองกลับมา“เหอะ! นี่แกว่าฉัน? คนที่แพ้ราบคาบแบบแกมีหน้ามากล้าว่าฉัน?”
“แกไม่สนใจ? อย่ามาเสแสร้งแกล้งทำต่อหน้าฉัน ธุรกิจตระกูลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นของตระกูลไป๋แกจะไม่สนใจเลยเนี่ยนะ? ฉันว่าแกไม่มีปัญญาได้แล้วมาทำเป็นอ้างว่าอย่างนู้นอย่างนี้มากกว่า!”
ไป๋ยี่เฟยยิ้มอย่างดูถูกดูแคลน“รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอยากทำอะไร?”
“อะไร?”หลิ่วจาวเฟิงอึ้งไปสักพัก
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเล็กน้อย“ซัดแกยังไงล่ะ!”
“นี่แก……”หลิ่วจาวเฟิงม่านตาหดเล็กลง ยังไม่ทันได้ตั้งรับ ไป๋ยี่เฟยก็เข้ามาจัดการกับเขาแล้ว
“ปึ้ง!”
ไป๋ยี่เฟยเตะหลิ่วจาวเฟิงติดผนัง ชนไปอีกหนึ่งที ก่อนจะร่วงตกลงบนพื้น
“ไป๋ยี่เฟย!นี่แกกล้าลงมืออีกเหรอ!ตอนนี้ยังเป็นช่วงเลือกตั้งอยู่ แกไม่กลัวสหพันธ์ธุรกิจจะตัดสิทธิ์แกหรือไง?”หลิ่วจาวเฟิงสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ไป๋ยี่เฟยเดินตรงไป คว้าผมของเขาเอาไว้ ดึงอย่างแรง ให้เขาเงยหน้าขึ้นมามองตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งขรึม“แกเอาความกล้ามาจากไหนถึงมาหาฉันตามลำพังแบบนี้?”
“ที่สั่งสอนไปก่อนหน้านี้ไม่พอสินะ ถึงได้รีบอยากมารับเท้าเร็วขนาดนี้?”
หลิ่วจาวเฟิงตื่นตกใจไม่น้อย แต่กลับยังพูดขึ้น“ไป๋ยี่เฟย แกลงไม้ลงมือไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับแกหรอก แกหยุดซะจะดีกว่า……”
ไป๋ยี่เฟยกระแทกหัวของหลิ่วจาวเฟิงกับผนังอย่างแรง“ใครจะไปสนใจสหพันธ์ธุรกิจ?”
“แกกลัว แต่ฉันไม่กลัว!”
“ก่อนหน้านี้ฉันบอกไว้แล้ว ว่าอย่าโผล่มาอยู่ต่อหน้าฉันเพียงลำพัง ฉันเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นสุดๆ”
“ตอนนี้หลิงหลิงยังนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล แกก็ยังคิดจะมารังแกภรรยาของฉัน ตอนนี้ แกก็มาเยาะเย้ยฉันอีกเหรอ? เอาความกล้ามาจากไหน?”
“นี่แก!”หลิ่วจาวเฟิงตื่นตกใจจริงๆ
ไป๋ยี่เฟยไม่ให้โอกาสเขาได้พูด คว้าผมของเขา ใช้มืออีกข้างตบบ้องหูเขาไปสองสามที
“อ๊าก!”
“อ๊าก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่