บทที่547 – ตอนที่ต้องอ่านของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่
ตอนนี้ของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่547 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่547
แต่พอพูดจบ หลิวเสี่ยวอิงก็กลับไปนั่งเงียบเหมือนเดิม ก้มหน้าก้มตาดื่มไวน์ของตัวเองต่อไป
หลี่เสว่ถลึงตาใส่ไป๋ยี่เฟย แต่เธอก็ยังหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา ไปชนกับแก้วของไป๋ยี่เฟยเบาๆ แล้วดื่มทีเดียวหมด
พอวางแก้วลง หลี่เสว่ก็อยากจะบอกไป๋ยี่เฟยให้หยุดดื่มได้แล้ว แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดออกมา เธอกับไป๋ยี่เฟยก็ถูกผู้คนที่เข้ามาแสดงความยินดีแยกออกและล้อมเป็นสองวง
แล้วทั้งสองก็ค่อยๆ ถูกแยกออกด้วยการดื่มอวยพรไปเรื่อยๆ จนไม่มีเวลาได้คุยกันอีกเลย
……
ภายในห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่
หวังเจียที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “โอ๊ย……”
เห้อคุนเองก็อยู่ในห้องทำทำงานของผู้จัดการใหญ่ด้วยเหมือนกัน เจ็บจนต้องนอนสะอื้นอยู่บนโซฟา ใบหน้าก็บูดเบี้ยวไปตามๆ กัน
ส่วนเลขาคนสวยที่เริ่มตั้งสติได้แล้ว กำลังนั่งเช็ดเหงื่อให้หวังเจียอยู่
เห้อคุนกัดฟันพูด “ผู้จัดการหวัง ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะครับ!”
“ไป๋ยี่เฟยมันไม่เหลืออะไรแล้วไม่ใช่เหรอครับ? แล้วทำไมยังมีคนมากมายแบบนั้นอยู่ด้วยล่ะครับ? แถมทำไมคนพวกนั้นยังไปดื่มอวยพรอีก? วันนี้มีคนใหญ่คนโตจากที่ไหนมาเหรอครับ?”
“ไม่ใช่สิ! ในเมืองเทียนเป่ยนี้ โหวจวี๋กรุ๊ปก็ใหญ่ที่สุดแล้วนี่ มันยังมีใครอีกเหรอครับ?”
ตอนนี้ หวังเจียยังรู้สึกหวาดผวาอยู่เลย “แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า?”
เห้อคุนยังรู้สึกไม่พอใจ “ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับผมโดนกระทืบฟรีๆ แล้วสิครับ? ไป๋ยี่เฟยมันมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับผม?”
หวังเจียสูดหายใจเข้าไปหายครั้งก่อนจะกดความหวาดกลัวในใจให้ลดลงไปได้ จากนั้นก็หยิกแก้มของเลขาสาวเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า “หยิบมือถือให้ผมที ผมจะโทรหาประธานหลิ่ว”
เลขาสาวรีบลุกไปหยิบมือถือในห้องทำงานให้ หวังเจียทันที
พอหวังเจียโทรหาหลิ่วจาวเฟิง เขาก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้หลิ่วจาวเฟิงฟังไปรอบหนึ่ง
พอฟังที่ หวังเจียเล่าจบ หลิ่วจาวเฟิงก็โกรธจนอย่างจะเขวี้ยงมือถือทิ้งไปทันที “นี่พวกแกประสาทรึไง? อยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องไป๋ยี่เฟยทำไม?”
“ยังจะมายาจกอีก ถ้ามันเป็นยาจกละก็ จะมีใครที่เป็นคนรวยอีก?”
“แกรู้รึเปล่าว่าตอนอยู่บนเรือ มันใช้เงินห้าพันล้านซื้อบัตรเลื่อนขั้นที่ไม่มีประโยชน์ไปหนึ่งใบ? ถ้าแกเก่งจริงทำไมไม่ลองใช้เงินห้าพันล้านให้ข้าดูหน่อยล่ะ?”
“จำคำพูดของข้าไว้เลยนะ ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยเป็นประธานกรรมการของคริสตัลกรุ๊ป ส่วนเมียของมันก็เป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจแห่งเมืองเป่ยไห่ อยู่ห่างๆ พวกนั้นเอาไว้เลย?”
“ถ้าอยากตายก็ไม่ต้องดึงข้าไปเอี่ยวด้วย!”
หวังเจียถูกหลิ่วจาวเฟิงต่อว่าจนไม่เหลือชิ้นดี ทำเอาเขางงไปเลย
ไป๋ยี่เฟยใช้เงินห้าพันล้านซื้อบัตรเลื่อนขั้นหนึ่งใบเหรอ?
ไป๋ยี่เฟยเป็นประธานกรรมการของคริสตัลกรุ๊ป?
ภรรยาของเขาเป็นประธานของสหพันธ์ธุรกิจแห่งเมืองเป่ยไห่?
ข้อมูลอันแล้วอันเล่าทำเอาหวังเจียตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
แถมหลิ่วจาวเฟิงยังโกรธด้วย แม้แต่ในโทรศัพท์ยังได้ยินเสียงหายใจที่หนักหน่วงของเขาเลย ตอนนี้หวังเจียกำลังรู้สึกกลัวจนหางจุกตูดแล้ว
ผ่านไปสักพัก หวังเจียค่อยตั้งสติได้ เหงื่อไหลเป็นทาง เกิดอะไรขึ้นบนเรื่องกันแน่? ทำไมอยู่ๆ ก็เรื่องมันถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้?
“แล้ว……ประธาน เราควรทำยังไงต่อไปดีครับ?” หวังเจียกลืนน้ำลาย
พอหลิ่วจาวเฟิงได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก เขาตะคอกกลับมาว่า “ฉันต้องสนด้วยเหรอว่าแกควรทำยังไง?”
“ไม่สิ แกรีบไสหัวไปเลยนะ เดี๋ยวนี้เลย แกถูกไล่ออกแล้ว ต่อไปฉันไม่ต้องการแกอีก!”
“ตูดตูด……”
“ตุ๊บ!”
มือถือของ หวังเจียหลุดออกจากมือ ตกลงไปกระแทกพื้นทันที
ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียว ริมฝีปากสั่นรัว
พอเห้อคุนได้เห็นอย่างนั้นก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น ฝืนลุกขึ้นด้วยร่างกายที่เจ็บปวด จากนั้นก็เดินไปหายหวังเจีย “ผู้จัดการหวัง ประธานหลิ่วว่าไงบ้างครับ? คุณ……”
“แกหุบปากไปเลย!” จู่ๆ หวังเจียก็คำรามใส่เห้อคุน “เพราะแกแท้ๆ! ถ้าแกไม่โง่แบบนั้น ข้าก็คงไม่ต้องถูกไล่ออกแบบนี้!”
“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
การจัดงานเลี้ยงนี่ไม่ใช่แค่เหนื่อยธรรมดานะเนี่ย
………
ในห้องพักของโรงแรม ไป๋ยี่เฟยเมาจนไม่รู้เรื่องแล้ว เขาไม่รู้แล้วว่าคนที่อยู่ในห้องกับเขาตอนนี้ไม่ใช่หลี่เสว่ แต่เป็นหลิวเสี่ยวอิง
เนื่องจากหลี่เสว่ออกไปรับโทรศัพท์ เนื่องจากหลิวเสี่ยวอิงรู้ว่าไป๋ยี่เฟยดื่มหนักไปหน่อย เธอจึงเข้ามาดูเขาหน่อย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าตอนนี้หลี่เสว่ไม่อยู่
ด้วยความที่หลี่เสว่ไม่อยู่ หลิวเสี่ยวอิงจึงได้มองไป๋ยี่เฟยอย่างไม่รู้ตัว และคิดไปต่างๆ นาๆ
บอกตามตรง หลังจากที่ถูกไป๋ยี่เฟยปฏิเสธไปอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ใช่ว่าหลิวเสี่ยวอิงจะไม่เคยที่จะพยายามลืมเขานะการที่เราชอบคนๆ หนึ่งไปแล้ว พอบอกให้ลืมแล้วมันก็ใช่ว่าจะสามารถลืมได้ทันทีซะที่ไหน?
หลิวเสี่ยวอิงยังไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ เธอจึงถือโอกาสที่ไม่มีใครแบบนี้ จ้องมองไป๋ยี่เฟยให้หนำใจ
ไม่นาน หลิวเสี่ยวอิงก็นั่งลงข้างๆ เตียง เข้าไปมองเขาใกล้ๆ
“นี่ไป๋ยี่เฟย ถ้าฉันมาเจอคุณก่อน คุณจะรักฉันมั้ยคะ?” หลิวเสี่ยวอิงกระซิบเบาๆ
พูดจบ หลิวเสี่ยวอิงก็เขาใกล้ไป๋ยี่เฟยอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าเธอกำลังจะจูบเขา
ในตอนนั้นเอง หลี่เสว่ที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว ก็ได้เปิดประตูเข้ามา และเห็นภาพนี้เข้าพอดี
ทั้งสองชะงักไป
พอหลิวเสี่ยวอิงตั้งสติได้ เธอก็รีบลุกขึ้น ร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก “เสว่เอ๋อ เธออย่าเข้าใจผิดนะ ฉัน……”
หลี่เสว่ยืนอยู่กับที่ ยังรู้สึกอึ้งอยู่ภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ในชั่วขณะหนึ่ง หัวสมองของหลี่เสว่นั้นว่างเปล่า
“เสว่เอ๋อ ฉันแค่เข้ามาดูเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยนะ” หลิวเสี่ยวอิงยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง เพราะสุดท้ายแล้ว แม้แต่ตัวเธอยังรู้สึกไม่เชื่อใจตัวเองเลย
ไม่ว่ายังไง เหตุการณ์เมื่อกี้มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
ในที่สุดหลี่เสว่ก็ตั้งสติได้ มือของเธอกำแน่นอยู่ที่ราวประตู มองไปยังไป๋ยี่เฟยที่นอนไม่ได้สติบนเตียง แล้วในหัวก็เกิดความคิดที่แสนบ้าบิ่นขึ้นมา
“เสี่ยวอิง เธอรักเขามากใช่มั้ย?” มันเหมือนจะเป็นคำถาม แต่จริงๆ แล้วมันคือการยืนยัน
หลิวเสี่ยวอิงอึ้งไป ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของยังไงดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่