บทที่589
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้หมอบลง เขาแค่ยกร่างกายของจ้าวเทียนขึ้นมา ใช้เป็นที่กันบัง
“ปั้งปั้งปั้ง!”
เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คนบนสปีดโบ๊ทยิ่งไม่โดนเขาเลย จึงหันไปยิ่งใส่คนอื่นๆ บนเรือ แต่น่าเสียดายที่กราบสูงเกินเมตร พอหลบลงไปแล้วก็ไม่มีทางที่จะยิงโดนเลย
แถบสปีดโบ๊ทแล้วก็ยิ่งไม่สามารถติดอาวุธหนักอะไรได้ด้วย ดังนั้นก็ไม่มีทางเลือก
หลังจากระดมยิงไปชุดใหญ่ บนเรือก็มีรูเพิ่มขึ้นมาไม่กี่รูเท่านั้น
ในตอนนั้นเอง ก็ได้มีชายสี่คนปรากฏตัวขึ้น โดยถือปืนกลเบาไว้ในมือ แล้วระดมยิงไปยังสปีดโบ๊ทพวกนั้น
“ปั้งปั้งปั้ง……”
พวกเขาที่อยู่สูงกว่า การยิงใส่สปีดโบ๊ทพวกนั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายเหลือเกิน
ไม่นาน คนบนสปีดโบ๊ทก็ได้ตายลงจนหมด
ส่วนสปีดโบ๊ทที่ยังรอดมาได้ก็เพราะตามหลังอยู่ไกลเกินไป พอเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่กล้าเข้ามาสู้ด้วย ได้แต่หันหัวเรือกลับ แล้วหนีไปเลย
สองนาทีหลังจากนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ได้ลุกขึ้น แล้วโยนร่างของจ้าวเทียนลงทะเลไป
คนอื่นๆ ก็ค่อยๆลุกตามขึ้นมา
ไป๋ยี่เฟยโยนดาบให้สาวอ้วนไปจากนั้นก็นั่งลงกับพื้น
“พี่!”
เมื่อทุกคนเห็นอย่างนั้นก็รีบกรูกันเข้ามา หลิวเสี่ยวอิงนั่งลงมาถาม “เป็นอะไรไปคะ?”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินอย่างนั้น และเห็นว่าทุกคนเป็นห่วงเขาขนาดนี้ เขาก็ต้องรู้สึกเขินขึ้นมาทันที “คือว่า……ฉันไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว……”
……
ห้องอาหารที่อยู่ภายในเรือ ไป๋ยี่เฟยได้กินอาหารที่อยู่บนโต๊ะไปมากมาย
ไป๋ยี่เฟยกินอย่างรีบร้อน ราวกับได้กินอาหารที่มันเลิศรสมากๆ แต่ไม่เลย อาหารพวกนี้เป็นแค่อาหารธรรมดา ถ้าเป็นเวลาปกติไป๋ยี่เฟยไม่มีทางรู้สึกว่าพวกมันจะน่ากินอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ เขาหิวมากจริงๆ
พอกินอิ่มแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็พบว่า มีคนมากมายกำลังล้อมวงดูเขากินข้าวอยู่ จากนั้นเขาก็หน้าแดงขึ้นมา “ไปๆไป มีอะไรก็รีบไปทำไป!”
พอได้ยินอย่างนั้น ทุกคนก็พากันหัวเราะออกมา จากนั้นก็แยกย้ายกันไป
แต่แล้ว ไป๋ยี่เฟยก็สังเกตเห็นหยางเฉียวที่กำลังหวาดกลัวอยู่ เขาจึงได้เรียกเธอเอาไว้ “หยางเฉียว”
หยางเฉียวสะดุ้ง จากนั้นก็หันมามองไป๋ยี่เฟยอย่างเกร็งๆ
ไป๋ยี่เฟยพูดกับหยางเฉียวว่า “มา มานั่งคุยกันหน่อย”
หยางเฉียวเม้มปาก ลังเลไปแปบหนึ่งก่อนจะนั่งลงตรงข้ามไป๋ยี่เฟย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาว่า “พี่ไป๋……พี่ช่างร้ายกาจจริงๆ”
ไป๋ยี่เฟยตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจความหมาย แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มไปว่า “เธอหมายถึงเรื่องที่ฉันฆ่า จ้าวเทียนไปนะเหรอ?”
หยางเฉียวพยักหน้า
บนหลันเต่า ในเขตที่สามประชาชนทั่วไปไม่มีใครที่ไม่เกลียดจ้าวเทียนเลย เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าต่อต้าน และสู้ไม่ไหวด้วย
และเหตุผลส่วนหนึ่งที่คนอยากจะไปจากหลันเต่า ส่วนหนึ่งก็เพราะตระกูล จ้าวนี่แหละ
หยางเฉียวพยักหน้าแล้วเหมือนจะนึกอะไรออก เธอจึงถามไปว่า “ไม่สิ อีกอย่าง พี่อายุยังน้อยกลับมีคนมากมายแบบนี้ติดตามพี่ พี่นี่ช่างเก่งกาจเหลือเกิน”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็ส่ายหน้า จากนั้นก็ยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เธอคิดมากไปแล้ว ฉันก็แค่มีพ่อที่เก่งมากๆ เท่านั้น”
พอพูดถึงไป๋หยุนเผิง ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกสับสนขึ้นมาทันที
ฉีฉีบอกว่า เขาเป็นคนที่ถูกเลือก เป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกใช้เป็นหมาก พ่อของเขาก็ใช้งานเขาเหมือนเป็นแค่หมากไม่ใช่รึไง?
ไป๋ยี่เฟยขำอยู่ในใจ แล้วถอนหายใจออกมา ทิ้งเรื่องพวกนั้นไว้ก่อน จากนั้นก็หันมายิ้มให้หยางเฉียว “พวกเธออยู่บนหลันเต่ามาตั้งแต่เด็ก คงจะไม่คุ้นเคยกับโลกภายนอกแน่ๆ แล้วเธอคิดจะทำยังไงต่อ?”
พอได้ยินอย่างนั้น หยางเฉียวก็เงียบไป
ความนับถือในแววตาของเธอ ถูกแทนที่ด้วยความสิ้นหวัง จากนั้นเธอก็ส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ……”
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้แปลกใจกับคำตอบนั้นเลย
พวกเธอไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลันกันพ่อตั้งแต่เด็ก แล้วโตขึ้นมาในเมืองหลัน ตอนนี้ต้องกลับไปในประเทศ ก็คงต้องสับสนเป็นเรื่องธรรมดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่