บทที่ 596
แม้ซูต้าหลิวจะกล้าหาญน้อย แต่กล้าหาญน้อยก็มีข้อดีของมัน นั่นก็คือเวลาทำเรื่องอะไรจะรอบคอบมาก อีกทั้ง คนเช่นนี้ ไม่ทำให้คนเกิดความระแวงมากที่สุด
ตอนนี้ซูต้าหลิวค่อนข้างรู้ข้อบกพร่องของตัวเองดี แถมทำเรื่องอะไรก็ไม่เลว ดังนั้นไป๋ยี่เฟยจึงค่อนข้างวางใจในตัวเขา
แต่เห็นท่าทางของซูต้าหลิว ก็คิดถึงกัปตันเรือที่จากไปขึ้นมา จึงอดถอนหายใจไม่ได้ กล่าวกับซูต้าหลิวว่า “ต้าหลิว ต่อไปอย่าถ่อมตัวแบบนี้ ทำเหมือนกับคนอื่นๆ ก็ได้”
“ครับๆๆ” ซูต้าหลิวพยักหน้าเออออ ท่าทางนอบน้อม
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจอีกครั้ง
......
หากไป๋ยี่เฟยจำไม่ผิดล่ะก็ ชูริเวอร์รีสอร์ทก็เป็นทรัพย์สินของเย่ซื่อกรุ๊ปเช่นกัน ตอนนี้ประกาศขายพร้อมกับโหวจวี๋กรุ๊ป นี่แสดงให้เห็นถึงปัญหาอย่างหนึ่งไม่ใช่หรือ?
เย่ฮวนก็เล็งที่ดินผืนนั้นในเมืองหัวซ่างเช่นกัน
เมื่อก่อนเย่ฮวนเคยเล่าชีวิตที่น่าเวทนาของเขาให้กับไป๋ยี่เฟยฟัง ดังนั้นเย่ฮวนจึงต้องการที่ดินผืนนี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการแก้แค้นเขา
ไป๋ยี่เฟยคิด หากไม่ใช่เพราะหลี่เสว่ เป็นเพียงแค่เรื่องผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว บางทีเขาอาจจะยกที่ดินผืนนี้ให้เย่ฮวน
แต่ช่วยไม่ได้ เขาอยากอยู่ใกล้หลี่เสว่มากขึ้นอีกนิดนี่นา
......
หนึ่งวันหนึ่งคืนให้หลัง เรือครูซก็มาถึงฝั่ง
ในที่สุดก็ถึงแผ่นดินเสียที นำพาความรู้สึกสบายใจมาสู่ทุกคน
แต่ว่า หลังเรือเกยฝั่ง พวกเขาก็พบคนสองคนยืนอยู่บนฝั่ง ขวางตรงจุดที่วางไม้กระดานสำหรับลงเรือพอดี
สองคนนี้ดูธรรมดามาก และไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คน
แต่ หลังจากเห็นการแต่งตัวของพวกเขาขัดขึ้น ไป๋ยี่เฟยก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ในบรรดาคนทั้งสอง คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มสวมชุดคาวบอยดูธรรมดามาก หน้าตาของผู้ชายคนนี้ประณีตงดงาม ราวกับตุ๊กตากระเบื้อง
ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนสวมชุดนักบวชเต๋า ทรงผมหวีเป็นมวย
หลังเห็นเขา ไป๋ยี่เฟยก็แน่ใจในฐานะของเขาอย่างไม่มีข้อกังขา เต้าจ่าง!
“เต้าจ่าง!”
ไป๋หู่กับสวีลั่งก็จำได้เช่นกัน พวกเขาเข้ามาคุ้มกันอยู่ด้านหลังไป๋ยี่เฟยทันที
เวลานี้ เต้าจ่างเงยหน้า มองมาทางนี้
หลังเห็นเต้าจ่าง แผ่นหลังไป๋ยี่เฟยก็เหยียดตรง เต็มไปด้วยความระแวดระวัง
อันที่จริง ไป๋ยี่เฟยยังรู้สึกเกรงนิดหน่อยด้วย
จะพูดอย่างไรดีล่ะ?
เพราะกังฟูของตัวเองนับเป็นการเรียนลัด ไม่ได้ใช้เวลาสั่งสมในการฝึก ดังนั้นหลังเห็นคู่มือ ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นยอดฝีมือขั้นไหน
แต่หลังจากเห็นเต้าจ่าง ไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกได้แล้ว
เต้าจ่างเพียงเหลือบตามามองอย่างเฉยเมย สายตานั้นไม่มีรอยกระเพื่อมใดๆ แต่กลับทำให้คนรู้สึกกลัว
เต้าจ่าง ถามด้วยความสงบนิ่งว่า “โย่วขุยกับจั่วเถิงตายแล้ว?”
น้ำเสียงเรียบเฉยมาก ไม่มีขึ้นลงใดๆ กลับทำให้คนเครียดขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ
ไป๋ยี่เฟยฝืนข่มระลอกคลื่นภายในใจไว้ ตอบว่า “ไม่รู้จัก ไม่รู้”
สิ้นคำ สายตาที่ไร้การเก็บงำใดๆ ของเต้าจ่างก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตนเองถูกตรึงไว้ ราวกับว่าอากาศรอบๆ ตัวกำลังจับตัวเป็นน้ำแข็ง
จากนั้น ไป๋ยี่เฟยก็เห็นเต้าจ่างยิ้มน้อยๆ
รอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มที่นำพาการเหยียดหยามและดูถูกมาด้วย
ไป๋ยี่เฟยกลืนน้ำลายโดยสัญชาตญาณ จากนั้นก็ได้ยินเต้าจ่างถามว่า “เธอคือไป๋ยี่เฟย?”
ไป๋ยี่เฟยได้ยิน ก็สูดหายใจเข้าลึก เขารู้ ฉีฉีเคยบอกว่า โย่วขุยกับจั่วเถิงต่างเป็นลูกศิษย์ของเต้าจ่าง และไป๋ยี่เฟยก็รู้ว่า พวกเขาตายอยู่บนเกาะไปแล้ว
ดังนั้น ตอนนี้ที่เต้าจ่างมาหาที่นี่ มาเพื่อแก้แค้น?
เพียงแต่ชั่วขณะต่อมา คำพูดของเต้าจ่างทำให้ไป๋ยี่เฟยถอนหายใจอย่างโล่งอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่