ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ นิยาย บท 624

สรุปบท บทที่ 624: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

สรุปเนื้อหา บทที่ 624 – ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ โดย เหมยปาเหย

บท บทที่ 624 ของ ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เหมยปาเหย อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 624

ไป๋ยี่เฟยเงยหน้าพินิจพิเคราะห์ผู้หญิงคนนี้ อายุสามสิบกว่าปี รูปร่างอวบอัดเล็กน้อย หน้าตาธรรมดา กลิ่นหอมกดดันคน แต่เห็นแล้วทำให้คนมีความรู้สึกที่ตามสบายมาก โสเภณีมากอย่างหนึ่ง

จากนั้นไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆว่า “ผมมาหาไอ้หัวล้านหลิว”

รอยยิ้มของผู้หญิงแข็งทื่อทันที จากนั้นรักษารอยยิ้มต่ออีก “คุณผู้ชาย ที่นี่พวกเราไม่เคยได้ยินว่ามีไอ้หัวล้านหลิวมาก่อน อีกทั้งวันนี้ที่นี่ถูกแขกวีไอพีเหมาหมดแล้วจริงๆ นี่เป็นบุคคลยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ก็คือเป็นบุคคลที่กระทืบเท้าเฉยๆก็สามารถทำให้เมืองเทียนเป่ยสั่นแล้วสั่นอีกอย่างนั้น”

“ดังนั้น คุณผู้ชายคนนี้ ขอโทษจริงๆ ท่าน......”

ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ฟังคำพูดของเธอจบ เพียงแค่จ้องมองไปยังข้างในหนึ่งที ทั้งมองไปยังผู้หญิงคนนี้อีก พูดเบาๆว่า “คุณแน่ใจว่าคนที่เหมานี้กล้ามาหรือ?”

รอยยิ้มผู้หญิงหายไป พินิจพิเคราะห์ไป๋ยี่เฟยอย่างละเอียดอีกหนึ่งรอบ เห็นเขาสวมใส่ธรรมดามาก ในใจหัวเราะเย็นชา บนใบหน้าราบเรียบ “คุณผู้ชาย เมื่อกี้ฉันเคยพูดไปแล้ว นี่เป็นบุคคลยิ่งใหญ่คนหนึ่งสามารถทำให้เมืองเทียนเป่ย......”

ไป๋ยี่เฟยตัดคำพูดของเธออีกครั้ง “ดังนั้นล่ะ คุณแน่ใจว่าเขากล้ามาหรือ?”

ทั้งสองครั้งล้วนเป็นคำถามนี้ ทำให้ผู้หญิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ในเวลาเดียวกันนี้ ทำให้เธอใจวุ่นวายโดยไม่รู้สาเหตุเล็กน้อย

เวลานี้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนไม่ได้พูด อยู่ดีๆเงียบสนิทลงมา

ผู้หญิงไม่รู้ว่าไป๋ยี่เฟยนี้ตกลงว่าเป็นคนอะไร แต่ว่าเห็นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ธรรมดาขนาดนี้ ไม่ใช่เป็นบุคคลยิ่งใหญ่อะไรก็ใช่แล้ว

เวลานี้ เสียงดังก้องดังกังวานส่งมาจากข้างหลังไป๋ยี่เฟยหนึ่งที “ใครโอหังขนาดนี้หรือ?”

ไป๋ยี่เฟยและคนอื่นๆต่างคนต่างมองไปยังข้างหลัง ข้างหลังมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา คนที่เดินอยู่ข้างหน้าที่สุดเป็นคนอ้วนน้อยๆคนหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนที่อ้วนลงพุง อยู่ข้างหลังของเขายังมีชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าจริงจังอย่างมากคนหนึ่ง

คนวัยกลางคนนั้นสวมใส่เสื้อกันลม ถูกล้อมรอบด้วยคนมากมายเดินไปยังข้างหน้า คนนั้นน่าจะเป็นผู้นำของคนกลุ่มนี้

ชายอ้วนเดินไปยังข้างหน้าของไป๋ยี่เฟย กวาดผ่านไป๋ยี่เฟยหนึ่งที เหยียดหยามหัวเราะเย็นชา จากนั้นเขาเดินผ่านไป๋ยี่เฟย ถามผู้หญิงคนนั้นว่า “ผู้จัดการหลิว เรื่องการเหมาสถานที่ของเฮียเซิงเราคุณน่าจะรู้มั้ง?”

ผู้หญิงคนนี้ก็คือผู้จัดการหลิว เธอยิ้มตอบกลับว่า “นี่แน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นการทำงานที่ประมาทของเรา ยังเชิญพวกเถ้าแก่อย่าถือสา”

ชายอ้วนหัวเราะเย็นชาอีกเสียงหนึ่ง จ้องมองไป๋ยี่เฟยเหยียดหยาม พูดว่า “ได้ยินหรือยัง? สถานที่พวกเราเหมาแล้ว!”

“ไอ้หนุ่มคนโอ้อวดอวดดี ก็คือฐานะเดิมไม่ค่อยดี บอกให้คุณรู้เถอะ! เฮียเซิงของพวกเรากับไอ้หัวล้านหลิวเฮียหลิวสนิทสนมกันมาก”

พูดคำนี้จบ เขา ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง เดินขึ้นไปยังข้างบน “ผู้จัดการหลิว รีบจัดการขยะเหล่านี้ออกไป อย่าเปรอะเปื้อนตาของเฮียเซิงเรา”

คนกลุ่มนั้นที่อยู่ข้างหลังเห็นสภาพนี้ก็เลยตามขึ้นไปด้วย

ชายวัยกลางคนที่นำหน้าคนนั้นตอนที่เดินถึงข้างหน้าของไป๋ยี่เฟย เขาตั้งใจจ้องมองเขาหนึ่งที จากนั้นขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

ไป๋ยี่เฟยเห็นสภาพนี้ถามประโยคหนึ่งอย่างเบาๆว่า “คุ้นตามากใช่หรือไม่?”

ผู้ชายได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยคุ้นตามากเล็กน้อยจริงๆ แต่ว่าเขาไม่ได้ใส่ใจมากเกินไป เดินผ่านข้างกายของไป๋ยี่เฟย

ผู้จัดการหลิว ยักย้ายส่ายสะโพกของตนเอง ไปถึงข้างหน้าของไป๋ยี่เฟย เสียงต่ำพูดว่า “น้องชาย รีบไปเถอะ! อย่าก่อเรื่องอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ คุณจะเจอบทเรียนที่น่าดูเลย”

“คนนี้เป็นประธานกรรมการของหัวเจียงกรุ๊ปนะ เฮียเซิง คุณยุ่งไม่ไหว” คำพูดของผู้จัดการหลิวกลับน่าฟังมาก แต่กลับไม่มีรอยยิ้ม

ไป๋ยี่เฟยหันหน้าไปถามหลงหลิงหลิง “หัวเจียงกรุ๊ปทำอะไรหรือ?”

หลงหลิงหลิงตอบกลับว่า “กรุ๊ปเล็กๆที่ไม่สามารถเข้าสู่สังคมชั้นสูง”

ไป๋ยี่เฟยถามอีกว่า “ใหญ่ขนาดไหนหรือ?”

“ใหญ่ไม่เท่าบริษัทฝูรุ่ยจิวเวลรี่ของนายหญิง”

คนของฝั่งตรงข้ามเยอะมาก ประมาณมียี่สิบสามสิบคน ทั้งเป็นผู้นำทั้งเป็นบอดี้การ์ด เห็นแล้วมีอานุภาพมาก แต่ว่าติดตามไป๋ยี่เฟยนานแล้ว มีเหตุการณ์อะไรที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนล่ะ?

ในเวลานี้เธอกับไป๋ยี่เฟยล้วนไม่ใส่ใจคนที่อยู่รอบข้าง พูดคุยตามอารมณ์อยู่ แต่คำพูดนี้ทำให้ผู้จัดการหลิวที่อยู่ข้างๆตกใจ ย่อมไม่ได้คาดเดาว่าสถานะของไป๋ยี่เฟยมีความร้ายกาจขนาดไหน แต่รู้สึกว่าไป๋ยี่เฟยแกล้งทำท่าทำทางอยู่

“ฉันว่าน้องชายคนนี้ คุณจะแกล้งทำท่าทำทาง อย่ามาอยู่สถานที่นี้เลย นั่นจะเป็นบุคคลยิ่งใหญ่จริงๆนะ พวกคุณล่วงเกินไม่ไหว อีกทั้งสถานบันเทิงของพวกเราก็ไม่ใช่เป็นสถานที่ที่จะให้พวกคุณก่อเรื่องตามอารมณ์ได้เช่นกัน”

ผู้จัดการหลิวใบหน้าเครียดตึงแล้ว เสียงเย็นชาพูดว่า “ไม่มีอะไร รีบไสหัวออกไปเถอะ! มิฉะนั้นอย่าโทษฉัน......” เพียงแค่คำพูดของเธอยังไม่ได้พูดจบ ไป๋ยี่เฟยยกเท้าขึ้นไปข้างบนแล้ว

ผู้จัดการหลิวตื่นตะลึงทันที เห็นไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจอะไรเลย โมโหทันทีพูดว่า “ยามรักษาความปลอดภัย ยามรักษาความปลอดภัย รีบขวางพวกเขาไว้ให้ฉัน! โยนพวกเขาออกไปให้ฉันทันที!”

จินตนาการเป็นสิ่งงดงาม แต่สภาพความจริงกลับโหดเหี้ยมทารุณ

ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคน เพิ่งจะขึ้นไปข้างหน้าก็โดนไป๋หู่ดึงคอเสื้อไว้ โยนไปข้างๆอย่างเบาๆ ดั่งทิ้งขยะลงบนพื้น

ผู้จัดการหลิวเห็นสภาพตื่นตกใจอย่างมาก ร้องเรียกขึ้นมาทันที “คนรีบเข้ามา! มีคนก่อเรื่อง! คนรีบเข้ามา!”

ไอ้หน้าแผลมีดติดตามอยู่ข้างกายของไอ้หัวล้านหลิว คนเหล่านี้ไม่เคยเห็นไป๋ยี่เฟย แต่เขาเคยเห็นมาก่อน อีกทั้งไม่เพียงแค่ครั้งเดียว

ในปีนี้ ไป๋ยี่เฟยเพิ่งจะเป็นประธานกรรมการของโหวจวี๋กรุ๊ป จนถึงเป็นประธานกรรมการคริสทัลกรุ๊ป ถึงตอนนี้บูรณาการทั้งสองกรุ๊ปอีก แข็งแกร่งกลายเป็นประธานกรรมการเฟยเสว่กรุ๊ป นี่เป็นพี่ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนเป่ยนะ

ไม่ต้องพูดถึงตัวเขาเอง ถึงแม้ว่าเป็นไอ้หัวล้านหลิวมาแล้ว นั่นก็ต้องเรียกไป๋ยี่เฟยว่าเถ้าแก่คำหนึ่งล่ะชายอ้วน

ไอ้หน้าแผลมีดขึ้นไปก็เตะหนึ่งที “แม่มึงเอ่ยมึงยังถามหรือ?”

ผู้จัดการหลิวเห็นสภาพขึ้นไปหลายก้าว รีบโบกมือพูดว่า “ไอ้หน้าแผลมีดเข้าใจผิดแล้ว เข้าใจผิดแล้ว เป็นคนนี้ที่ไม่รู้เรื่องแกล้งทำท่าทำทางกำลังก่อเรื่องอยู่”

“ไม่รู้เรื่องหรือ? แกล้งทำท่าทำทางหรือ?” ไอ้หน้าแผลมีดตื่นตะลึงจ้องมองผู้จัดการหลิว

ผู้จัดการหลิวพยักหน้าทันที “ใช่ค่ะ เป็นไอ้หนุ่มคนนี้แกล้งทำท่าทำทางกับฉัน ขี้โม้อยู่ที่นั่น พูด.....พูดว่าหัวเจียงกรุ๊ปของเฮียเซิงเป็นกรุ๊ปเล็กๆที่ไม่สามารถเข้าสู่สังคมชั้นสูง พูดเหมือนว่าตัวเขาดั่งเถ้าแก่ของกรุ๊ปใหญ่อย่างนั้น”

ไอ้หน้าแผลมีดฟังคำพูดของผู้จัดการหลิวจบ โมโหจนเกือบจะตบหนึ่งทีไป เห็นแก่ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที กลั้นอารมณ์ของตนเองไว้พูดว่า “เมื่อกี้คุณอาฆาตแค้นกับเขายังไงหรือ? ล่วงเกินคุณหรือยังล่ะ?”

ผู้จัดการหลิวอึ้งชะงักไปหนึ่งที ไม่รู้สาเหตุ “อ่า? หมายความว่าอะไรหรือ?”

ไอ้หน้าแผลมีดจะโมโหจนหัวเราะแล้ว “ยังจะถามผมว่าหมายความว่าอะไรหรือ? ผู้จัดการหลิวคุณบอกกับผมสิ ประธานกรรมการของเฟยเสว่กรุ๊ป นับได้ว่าเป็นเถ้าแก่ของกรุ๊ปใหญ่หรือไม่ล่ะ?”

ผู้จัดการหลิวพยักหน้าต่อๆกัน “นับได้อยู่แล้ว ไป๋ยี่เฟยประธานกรรมการเฟยเสว่กรุ๊ป จะเป็นเถ้าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเราในเมืองเทียนเป่ย”

“ดังนั้น อยู่ต่อหน้าเถ้าแก่ไป๋ หัวเจียงกรุ๊ปจะไม่ใช่กรุ๊ปเล็กๆที่ไม่สามารถเข้าสู่สังคมชั้นสูงหรือ?” ไอ้หน้าแผลมีดถาม

ผู้จัดการหลิวพยักหน้าอีกครั้ง เห็นด้วยพูดว่า “ย่อมเป็นเช่นนั้นล่ะ!”

ถึงแม้ว่าบนใบหน้าเห็นด้วยมาก แต่ในใจเธอสงสัยงงงวยมาก อยู่ดีๆทำไมพูดถึงเรื่องนี้ ยังพูดถึงเฟยเสว่กรุ๊ปอีกด้วย หรือว่าคนนี้ที่อยู่ต่อหน้า......

ยังไม่ทันที่จะรอเธอให้คิดจนเข้าใจ ไอ้หน้าแผลมีดเดินไปยังข้างหน้าไป๋ยี่เฟยแล้ว เคารพนบนอบพูดว่า “เถ้าแก่ไป๋ ขอโทษจริงๆ ลูกน้องไม่รู้เรื่อง ยังต้องขอท่านให้อภัย”

ผู้จัดการหลิวกับชายอ้วนเห็นภาพนี้ตะลึงตาค้างในทันที

“อะไรนะ?”

คนที่อยู่ต่อหน้านี้คาดไม่ถึงจะเป็นประธานกรรมการของเฟยเสว่กรุ๊ปหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่