บทที่631
ในตอนที่หยางเฉียวเงยหน้าขึ้นมามองสวีลั่ง เธอก็พบว่าเขายังคงหลับตาอยู่แต่บนหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อยว่าแล้วเธอก็เอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดเหงื่อให้สวีลั่ง
หลังเช็ดเหงื่อเสร็จ หยางเฉียวก็กุมมือของสวีลั่งเอาไว้ แล้วพูดเบาๆ ว่า “พี่ลั่งคะ พี่จะต้องหายดี ฉันรอพี่อยู่นะคะ”
คำพูดของหยางเฉียวทำให้สวีลั่งหวั่นไหว
เขาเริ่มไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองสงสัยแล้ว
เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหยางเฉียวจะเป็นหนอนบ่อนไส้ แต่เขาก็เห็นมันมากับตา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากจะไปเผชิญหน้ากับเรื่องอะไรเลย
ตั้งแต่ครั้งแรกที่หยางเฉียวพูดกับตัวเองว่า ‘ฉันรอพี่อยู่นะ’ เป็นต้นมา สวีลั่งก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว
หลังจากนั้น พอได้ยินกัปตันเรือพูดมาอย่างนั้น ชีวิตที่มีคนคอยเป็นห่วงแบบนี้ เหมือนเขาจะเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว
อย่างที่กัปตันบอก เมื่อมีคนคอยเป็นห่วงเป็นใย เหตุผลที่จะมีชีวิตต่อมันก็ง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น
คลื่นลมทางนี้กำลังสงบ ตัดภาพมายังเมืองหัวซ่างที่พายุกำลังเข้า เลือดสาดอบย่างกับห่าฝน
บาร์แห่งหนึ่งในเมืองหัวซ่าง
มีคนมากมายนอนอยู่บนพื้น บางคนตายแล้ว บางคนก็กำลังโอดครวญอยู่
คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่ถูกคนชุดดำจัดการทั้งสิ้น
หวังโหวที่ใส่แค่กางเกง เสื้อยังไม่ทันได้ใส่ ได้วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวคนๆ หนึ่งแบบนี้
เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้
หวังโหวหยิบมือถือออกมาโทรหาลูกน้องของตัวเอง “ตอนนี้พวกแกเป็นยังไงบ้าง?”
“ลูกพี่ครับ ตอนนี้สถานบันเทิงทั้งหมดของเราถูกจัดการไปหมดแล้วครับ พวกนั้นมันโหดเกินไป มันมากันแค่สามสิบกว่าคน แต่ทุกคนนั้นร้ายกาจมาก พวกมันคนเดียวก็สามารถฆ่าพวกเราได้เจ็บแปดคนแบบสบายๆ เลยครับ”
“ลูกพี่รีบหนีไปเถอะครับ รีบ……”
“อ้า!”
คนในสายยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ครวญครางออกมาซะก่อน
จากนั้น ก็ได้มีเสียงของคนแปลกหน้าดังขึ้นจากในสาย
“หวังโหวใช่มั้ย?”
ตอนนี้หวังโหวกำลังหลับอยู่ในซอยมืดๆ ซอยหนึ่ง เขาหลบอยู่เพียงลำพัง พอได้ยินเสียงของคนทางนั้น เขาก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ “แกเป็นใคร?”
“ทั้งๆ ที่เมืองเทียนเป่ยกับเมืองหัวซ่างไม่ได้มีอะไรข้องเกี่ยวกันเลย แต่แกกลับมาหาเรื่องถึงที่ ทีนี้จะมาโทษเราไม่ได้แล้วนะ” คนทางนั่นพูดออกมาอย่างใจเย็นมาก
หวังโหวสะตุงอย่างแรง “พวกแกเป็นคนของไป๋ยี่เฟยเหรอ?”
คนทางนั่นไม่ได้ตอบ เขาพูดแค่ว่า “แกรีบหนีไปเถอะ”
หวังโหวไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนั้น “ว่าไงนะ?”
อีกด้านหนึ่งของมือถือ เฉินอ้าวเจียวขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ในช่วงที่ฟ้ายังมืดอยู่รีบหนีไปซะ จะให้ความหวังกับแกสักหน่อย แต่ว่านะ ยังไงแกก็หนีไม่รอดหรอก”
พูดจบ เฉินอ้าวเจียวก็วางสายทันที โยนมาถือไป แล้วกระทืบด้วยเท้าจนแหลก
ตอนนี้เขากำลังอยู่ในร้านKTVที่ธรรมดาร้านหนึ่ง ปกติแล้วร้านKTVร้านนี้คนจะเยอะมาก แต่วันนี้เหมือนจะไม่มีคนเลย แถมสภาพรอบๆ ยังเละตุ้มเปะ คนยังนอนเต็มพื้นอีก
คนที่รับผิดชอบตรวจในห้องวีไอพีได้เดินออกมาจากห้อง แล้วมารวมกันที่ห้องโถง จากนั้นก็บอกกับเฉินอ้านเจียวว่า “ไม่พบตัวหวังโหวเลยครับ”
เฉินอ้าวเจียวพยักหน้า แล้วพูดออกมาอย่างใจเย็นว่า “เมื่อกี้ฉันได้คุยกับมันทางโทรศัพท์แล้ว มันอยู่ที่ร้านk2 ตอนที่พวกตาเก้าไปถึง มันได้หนีไปแล้ว”
ชายชุดดำขมวดคิ้ว “ถ้ามันไปซ่อนตัว แล้วปลอมตัวขึ้นมาละก็เราก็จะหามันไม่เจอแล้วนะครับ?”
เฉินอ้าวเจียวขำออกมา “ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดเรื่องนี้กับไป๋ยี่เฟยไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยบอกว่าเราไม่ใช่นักเลง และไม่ใช่ทางการ ดังนั้นเราจึงมีความได้เปรียบที่ทั้งสองฝ่ายไม่มี”
“ตอนนี้หวังโหวมันหนีไปเพียงลำพัง ไม่มีอะไรติดตัวไปเลยสักนิด แล้วมันจะหนีไปไหนได้?”
“ดังนั้น มันจะต้องติดต่อกับลูกน้องของมันแน่นอน ถึงตอนนั้นเราก็เอาเงินฟาดหัว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกลูกน้องของมันจะไม่เห็นแกเงินเลยสักคน”
“มันหนีไม่รอดหรอก!”
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่