EP.94 CRAZY LOVE คลั่งรัก ♥
ตอน แอบมีเมีย?
"อ้าว จะไปไหมเนี่ยหรือจะรอรับศพพี่สาวเอ็งกลับบ้านทีเดียวเลย"
สาวร่างท้วม ๆ คนเดิมหันมาถามน้ำขิงเมื่อเห็นว่าเธอยังคงเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่ยอมเดินตามไป
"เอ่อ...ฉันโทรแจ้งตำรวจดูก่อนนะ"
เธอพูดพร้อมกับโทรไปเพื่อแจ้งตำรวจทันที
"จะโทรแจ้งทำไม พี่สาวเอ็งโดนกระทืบอยู่นะ!"
ยัยนั่นพูดกับเธออย่างใส่อารมณ์แปลก ๆ
"ก็เพราะโดนทำร้ายไง ฉันถึงต้องแจ้งตำรวจก่อน"
น้ำขิงเอ่ยตอบอย่างเริ่มรู้สึกถึงท่าทีแปลก ๆ ของหญิงคนดังกล่าว
จริง ๆ ก็พอจะคุ้นหน้าอยู่บ้าง เพราะเธอคนนี้เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับเธอนั่นแหละ
"ไม่ต้องแจ้งหรอก รีบไปดีกว่า"
เธอยังคงรบเร้าให้น้ำขิงเดินตามตัวเองไปอย่างไร้ซึ่งเหตุผล
น้ำขิงเลือกที่จะรีบกดโทรหาตำรวจทันที เพราะเธอเริ่มรู้สึกว่ามันแปลก ๆ
ตู๊ด ตู๊ด ~
(คุยโทรศัพท์กับตำรวจ)
"ฮัลโหลสวัสดีค่ะ คือว่าดิฉันอยากจะขอแจ้งความ (ฟุ่บ)"
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดได้จบประโยคดี ผู้หญิงมารยาทเสียคนเดิมก็กระชากโทรศัพท์ของเธอไปตัดสายทันที
"ทำบ้าอะไรของเธออะ?"
น้ำขิงชักสีหน้ากลับไปอย่างไม่พอใจและดึงโทรศัพท์คืนมาทันที
"โทรแจ้งตำรวจแบบนี้ เอ็งไม่ห่วงพี่สาวรึไง?"
ยัยนั่นทำทีเป็นหวังดี
"ไป รีบไปช่วยอีน้ำหวานที่บ้านเสี่ยกันเถอะ"
เธอพูดอย่างเร่งรีบ พร้อมกับกระชากแขนให้น้ำขิงเดินตามไปทันทีแกมบังคับ
"นี่ทำอะไรของเธออะ...ฉันไม่ไปแล้ว!!"
น้ำขิงสะบัดแขนทิ้งทันที เธอผิดสังเกตมาตั้งแต่แรก แต่ก็พยายามจะไม่กระโตกกระตากมากนัก
"แต่มึงต้องไป!"
ยัยอ้วนคนเดิมออกแรงกระชากเธอจนตัวปลิวให้เดินไปตามทางเปลี่ยว ๆ
"ปล่อยนะ ปล่อย!"
น้ำขิงยังคงพยายามจะสู้แรงของเธอ แต่ด้วยความที่เธอตัวเล็กกว่ามาก ๆ จึงไม่สามารถจะขัดขืนได้ไหวจริง ๆ
เมื่อเห็นว่าไม่มีทางขัดขืนได้น้ำขิงรีบใช้จังหวะที่ถูกลากไปนั้น กดโทรหาฟาเรนทันที โทรทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะรับสายได้ไหม
@สนามแข่งรถ
"ช่วงนี้งานยุ่งมากขนาดไม่มีเวลามากินเหล้ากับพวกกูเลยเหรอวะ?"
คลินต์เอ่ยถามขณะที่ฟาเรนกำลังเดินตรวจความเรียบร้อยในสนามแข่ง
"เออดิ กูแม่งยุ่งฉิบหาย"
ฟาเรนเอ่ยตอบและหลบตา ถึงแม้ว่าหน้าตาจะโทรมไปบ้าง แต่เขาก็ยินดีที่จะเหนื่อยเทียวไปเทียวมาแบบนี้
เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้นอนกอดเมียทุกวัน ถึงแม้จะได้กอดเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม
"แต่กูไปหามึงที่คอนโดไม่เจอเลยนะ"
คลินต์ถามอย่างจ้องจับพิรุธเพื่อนรักตัวเอง
"เอ่อ...กูไป ๆ กลับ ๆ บ้านอะ"
ฟาเรนตอบขณะที่เดินวัดความยาวของแต่ละขอบเลนถนน ซึ่งก็ได้คลินต์ที่มาช่วยเป็นลูกมือทำงานด้วยอีกคน
เพราะเขาน่าจะเหงามาก หลังจากที่เรียนจบแล้ว เนื่องจากธุรกิจของที่บ้านคลินต์ก็ไม่ได้ตรงสายกับสิ่งที่เขาเรียนมาจริง ๆ
เรียนจบวิศวกรรม แต่ต้องมานั่งบริหารโรงแรม จึงทำให้การทำงานมันน่าเบื่อสำหรับเขาเอามาก ๆ
"ไอ้เหี้ยวินด์น่ะแม่งตั้งแต่กลับมาไม่มาเจอเพื่อนเจอฝูงเลย"
"เอาแต่เมีย ๆ ๆ"
คลินต์บ่นขึ้นอย่างหงุดหงิดพลางกระดกเบียร์ต่ออย่างเซ็ง ๆ และเดินตามฟาเรนที่แสร้งเดินก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ ไม่ตอบโต้ใด ๆ
"ไอ้ไทม์กับกูเที่ยวกันสองคนจนโคตรกร่อยเลยนะเว้ย"
คลินต์พูดต่ออย่างเซ็ง ๆ แต่เหมือนว่าเพื่อนรักอดีตนักท่องราตรีอย่างฟาเรนไฮต์เงียบกริบ เขาจึงตัดสินใจกระดกเบียร์จนหมดกระป๋องและ
"คืนนี้...ไปดื่มกับพวกกูหน่อยดิวะ"
คลินต์เอ่ยชวนตรง ๆ
เพราะตั้งแต่เรียนจบมา เพื่อนของเขาก็น้อยลงทุกที ๆ จากสี่คนเหลือแค่สองคน ซึ่งฟาเรนเองก็นับวันยิ่งห่าง ๆ ไป จนคลินต์ต้องมาตามเองถึงที่แบบวันนี้
"ไว้ก่อนได้ปะ ช่วงนี้กูยุ่งมาก...ปัญหาหลาย ๆ อย่างยังไม่เคลียร์เลย"
ฟาเรนตอบไปอย่างเข้าใจดีว่า คลินต์เองก็คงแปลกใจที่เขาเปลี่ยน ๆ ไปเยอะมาก
"งานมึงก็มีแค่ที่สนามแข่งไม่ใช่เหรอ พี่เฟรนด์ก็ยังเข้ามาช่วยงานปกตินี่"
คลินต์ชักสีหน้าเล็กน้อย เพราะปกติฟาเรนแทบไม่เคยปฏิเสธเรื่องกินเหล้าเลยสักครั้ง
"มึงคงไม่ได้แอบไปมีเมียหรอกนะไอ้เวร!"
คลินต์ถามกลับมาอย่างตรงประเด็น เพราะท่าทีฟาเรนดูแปลกไปมาก ๆ จนเพื่อนสนิทอย่างเขาพอจะดูรู้
"ไปติดเด็กที่ไหนมาอีกอะ?"
คลินต์ลองถามไปมั่ว ๆ เพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจเรื่องน้ำขิง
เนื่องจากไม่ได้เจอเธอมานานพอสมควร และคิดว่าเพื่อนตัวเองน่าจะเปลี่ยนคนใหม่ไปแล้ว เพราะโดยปกติคนอย่างฟาเรนขี้เบื่อจะตายไป
"ไม่มีเด็กที่ไหนทั้งนั้นแหละ!"
ฟาเรนเสียงแข็งตอบไปอย่างชัดเจน เพราะเมียเขาไม่ใช่เด็กที่ไหน แต่เป็นอดีตคู่กัด คู่ขา คู่นอนคนเก่า แถมยังเป็นเพื่อนสนิทของแฟนเพื่อนรักตัวเองอีกต่างหาก
"มึงเคยพูดเองนะ...ว่าจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมาจูงจมูกมึงเดิน!"
คลินต์จ้องหน้าฟาเรนและถามอย่างจ้องจับผิดจริง ๆ
"ทำไมตอนนี้บนหัวมึง มีเขาเหมือนควายเลยวะ"
คลินต์จุดไฟแช็กสูบบุหรี่และหัวเราะเยาะใส่ฟาเรนทันที
"มึงสิไอ้ควาย!" จอมโหดแกล้งโมโหเพื่อกลบเกลื่อนไป
"เอาดี ๆ! มึงมีเมียใช่ไหม?"
คลินต์พ่นควันบุหรี่พร้อมกับใช้บุหรี่ชี้มาที่หน้าของฟาเรนนิ่ง ๆ
"….."
ฟาเรนลังเลที่จะเล่าเรื่องทั้งหมด
และที่เขายังไม่กล้าพูดเรื่องน้ำขิง อย่างแรกเลยก็คือเขาต้องโดนคลินต์ล้อหรือไม่ก็โกรธมากแน่ ๆ
เพราะตอนที่วินด์เซอร์คบกับไอรีน ฟาเรนก็ว่าเพื่อนเอาไว้เยอะ ว่ากลัวเมียบ้าง ผู้หญิงทำให้เสียเพื่อนบ้าง ต่าง ๆ นานา
พอมาเจอกับตัวเองมันเลยพูดไม่ออกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มอธิบายกับเพื่อนยังไง
ครืดด ครืดดด~
(เสียงโทรศัพท์ฟาเรนดังขึ้น)
-น้ำขิง-
ฟาเรนก้มมองเบอร์ของเมียตัวเองอย่างแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปีเมียเขาแทบไม่เคยโทรมาหาเลยจริง ๆ มีแต่เขาที่โทรไปหาเธออยู่ตลอด
(รับสาย)
"ฮัลโหล~"
ยังไม่ทันที่ฟาเรนจะพูดอะไรไปมากกว่านั้น
(นี่เธอบังคับฉันไปบ้านเสี่ยบุญโชคทำไม?)
เสียงของขิงดังออกมาจากโทรศัพท์ ซึ่งมันดูช่างเป็นบทสนทนาที่แปลก ๆ ไป
"ฮะ?"
ฟาเรนขมวดคิ้วและตั้งใจฟังอย่างพยายามจะจับใจความสำคัญให้ได้
(บ้านไม้ทรงไทยใหญ่ ๆ ของเสี่ยแก่นั่นอยู่ห่างจากไร่ส้มฉันสองซอย เลี้ยวซ้ายก็เจอเลยงั้นเหรอ?)
เสียงของน้ำขิงพูดขึ้นมาลอย ๆ รอบข้างมีแต่เสียงตะกุกตะกักแปลก ๆ
"ขิง?"
ฟาเรนเอ่ยเรียกชื่อของเธออย่างเริ่มรู้สึกผิดสังเกต และเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีเอาซะเลยจริง ๆ
(พี่สาวฉันโดนซ้อมปางตายอยู่ที่บ้านมัน แล้วทำไมไม่ให้ฉันโทรหาตำรวจ?)
น้ำขิงยังคงพูดกับใครอีกคนด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อย
(เอ๊ะ อีน้ำขิงมึงหุบปากสักทีได้ไหม!!)
(มึงพูดเหี้ยมาตลอดทางรีบเดินมาเร็ว ๆ สิโว้ย!)
มีเสียงแหลม ๆ ของใครอีกคนพูดแทรกขึ้นมาในตอนนั้นด้วย
"ปล่อยนะ ปล่อย!"
น้ำขิงร้องก่อนจะพยายามสะบัดมือจนเสียงในโทรศัพท์มันตะกุกตะกักจนฟังอะไรไม่ชัดเลย
"บ้านไอ้เสี่ยบุญโชค ๆ"
น้ำขิงพูดแบบเดิมซ้ำ ๆ เหมือนต้องการบอกให้อีกฝ่ายรู้
ฟาเรนกดปิดปุ่มไมค์ของโทรศัพท์ตัวเองทันที
"โทรหาไอ้ไทม์!!" ฟาเรนตะโกนบอกกับคลินต์ที่เพิ่งจะเปิดเบียร์กระป๋องที่สอง
"ฮะ?" คลินต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
"โทรหาไอ้ไทม์ บอกมันว่ากูต้องการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวตอนนี้ พร้อมคนขับเครื่องบิน!"
ฟาเรนตะโกนกลับไปจนคลินต์สะดุ้งเบียร์แทบหลุดมือ
"เออ ๆ ได้" คลินต์ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาไทม์ทันที
ฟาเรนทิ้งงานทุกอย่างตอนนี้และรีบวิ่งไปที่รถ ซึ่งคลินต์ที่ยังดูงง ๆ แต่ก็รีบวิ่งตามขึ้นไปด้วยทันที
-บนรถ-
ฟาเรนขับรถตรงไปที่สนามบินทันทีอย่างรีบเร่งมากถึงมากที่สุด
"ขิงอย่าเพิ่งวางสายฉันขอร้อง"
เขาพูด ยังคงกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น และยังคงปิดไมค์ฝั่งตัวเองเอาไว้ เสียงของน้ำขิงขาด ๆ หาย ๆ อยู่สักพักก่อนที่โทรศัพท์จะตัดไปในที่สุด
"โธ่เว้ย!!!"
ฟาเรนทุบเข้าที่พวงมาลัยรถอย่างเครียดและเป็นกังวลมาก ๆ
"….."
คลินต์หันมองไปทางเพื่อนรักตัวเองอย่างกังวลใจไม่แพ้กัน
เพราะเขาไม่รู้ว่าฟาเรนกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่ แต่รู้แล้วว่าสาเหตุมาจากน้ำขิงคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือมีคลินต์อยู่แทบจะทุกสถานการณ์เลวร้าย
หลังจากที่ขับรถมาจอดที่สนามบิน ไทม์โซนก็เป็นคนช่วยติดต่อประสานงาน ปล่อยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของทางบริษัท ให้ไปตามเส้นทางที่ฟาเรนเป็นคนกำหนดไว้ทันทีอย่างรีบเร่ง
"มีเรื่องเหี้ยอะไรเร่งด่วนวะ?" ไทม์โซนถามอย่างงง ๆ
"ค่าใช้จ่ายบอกมานะ กูรีบ"
ฟาเรนพูดทิ้งท้ายแค่นั้นก่อนจะก้าวขึ้นเครื่องไปอย่างไม่ตอบคำถามใด ๆ
"กูไปด้วยแล้วกัน...เผื่อมีอะไรจะได้ช่วย"
คลินต์รีบวิ่งตามขึ้นเครื่องไปด้วยอีกคน
แต่คลินต์ไม่ได้ขึ้นไปคนเดียว เพราะเขาลากไทม์โซนขึ้นเครื่องมาด้วยแบบงง ๆ
ทั้งสองไม่กล้าถามอะไรฟาเรนเลย เพราะเขาเอาแต่นั่งกำหมัดแน่นทุบ ๆ ที่หัวตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลจนเห็นได้ชัด
-ทางด้านน้ำขิง-
@บ้านทรงไทยหลังใหญ่ที่สุดในย่านนี้
"ไหนพี่สาวของฉันล่ะ?"
น้ำขิงมองไปรอบ ๆ และถามขึ้น เพราะในบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่แห่งนี้ ไม่มีใครโดนซ้อมหรือบาดเจ็บใด ๆ เลย
"เดี๋ยวเธอก็ได้เจอกับนังตัวดีนั่นเร็ว ๆ นี้แหละ"
เสียงของคนแก่รุ่นพ่อพูดขึ้นดังมาจากด้านบนของบ้าน
"เสี่ยบุญโชค"
น้ำขิงเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเธอ
คนที่พี่สาวของเธอถูกบังคับให้แต่งงานด้วยอย่างไม่เต็มใจ
"ไม่เจอกันนาน โตขึ้นเยอะเลยนะน้ำขิง"
"มาให้อดีตพี่เขยดูหน้าใกล้ ๆ ซิ"
ตาเสี่ยบุญโชคกวักมือเรียกให้เธอขึ้นไปหาถึงด้านบนบ้าน
"ปล่อยนะ"
น้ำขิงพยายามจะสะบัดแขนยัยอ้วนข้าง ๆ เพื่อจะวิ่งหนีอย่างสุดแรง
เสี่ยบุญโชคตะโกนลั่น
"นี่ไอ้แก่ ถ้าอยากเอาก็เอาอีน้ำขิงไปสิโว้ย!!"
ยัยน้ำฝนรีบพูดแทรกขึ้นมาทันทีและมองเสี่ยด้วยท่าทีรังเกียจเอามากจริงๆ
"อีเด็กนี่ มันเรียกใครไอ้แก่วะ?"
เสี่ยบุญโชคหันขวับและคว้าหน้าของน้ำฝนกระชากเข้ามาประชิดตัวทันที
"ปากดีจริง ๆ เลยนะว่าที่เมียของพี่"
เสี่ยมองน้ำฝน ก่อนจะจับเด็กสาวรุ่นลูกเข้ามาประกบจูบอย่างดูดดื่ม ซึ่งภาพที่เห็นมันชวนพะอืดพะอมซะมากกว่า
"แอวะ ๆ" ยัยน้ำฝนทำท่าจะอ้วกขึ้นมาทันที
"ตกเป็นเมียเสี่ยเมื่อไหร่ อย่าติดใจก็แล้วกัน"
ตาเสี่ยดึงน้ำฝนเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อหน้าต่อตาแม่เลี้ยงและน้ำขิงที่ยืนตัวเกร็ง ๆ อย่างเริ่มรู้สึกกลัวปนสะอิดสะเอียนมาก ๆ
"ปล่อยนะ ปล่อยลูกฉัน"
และทันทีที่แม่เลี้ยงของเธอจะวิ่งเข้ามาช่วย ก็ถูกลูกน้องของตาเสี่ยบุญโชคลากตัวออกไปทันที
"อี๋ ๆ ปล่อยนะ ๆ" น้ำฝนร้องออกมาลั่นอย่างรังเกียจ
"ปากดีมากนักก็จับทำเมียก่อนเลยแล้วกัน"
เสี่ยบุญโชคหัวเราะลั่นหลังจากจับจูบจับฟัดอยู่พักใหญ่
"เอาตัวอีเด็กปากดีคนนี้ไปมัดไว้ที่เตียงกู!"
เสี่ยบุญโชคออกคำสั่งกับทางลูกน้องตัวเองและชี้ไปทางน้ำฝน
ทันทีที่พูดจบลูกน้องผู้ชายก็มาลากตัวน้ำฝนออกไปทันที
"ทำไมไม่ไปเอาอีขิง!! ไม่นะ ไม่!!!!"
น้ำฝนสะบัดดิ้น ๆ สุดตัวแต่ก็สู้แรงลูกน้องตาเสี่ยนี่ไม่ได้
"ไปเอาอีขิงสิ อย่ามายุ่งกับกูไอ้แก่ ไอ้น่าเกลียด ไอ้ลามก กูขยะแขยงมึง!!"
ยิ่งเธอโวยวายก็เหมือนกับยิ่งทำให้ตาแก่นั้นอยากกำราบเธอมากขึ้น
"เอาอีกคนไปขังไว้ห้องรับรอง"
เสี่ยเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจน้ำขิง แต่ลูบเป้ากางเกงอย่างทุเรศ ๆ มองไปทางน้ำฝนแทน
"เดี๋ยวเสี่ยขอกินน้ำฝนก่อนแล้วจะมาซดน้ำขิงต่อนะจ๊ะ"
มันพูดพร้อมกับเดินนำหน้าลูกน้องอีกสองคนที่หามตัวน้ำฝนเขาไปบำเรอมันถึงในห้อง
"มานี่!"
ส่วนคนตัวเล็กที่เอาแต่เงียบ ๆ ก็ถูกอีกสองคนลากไปไว้ห้องรับรองข้าง ๆ ทันที
ที่เธอไม่พูด ไม่ด่าหรือท้าทาย
เพราะเธอรู้ดีว่าผู้ชายที่มันบ้าอำนาจอย่างเขา มันชอบเอาชนะอยู่แล้ว
เรื่องนี้คงต้องขอบคุณฟาเรนที่ทำให้รู้ว่า ถ้าน้ำเชี่ยวไม่ควรเอาเรือไปขวาง อย่างน้อย ๆ เธอก็ถ่วงเวลาเอาตัวรอดไปได้อีกสักพัก
จะเรียกว่าเธอยังโชคดีอยู่บ้างก็ได้
@ห้องรับรอง
เสียงร้องโหยหวนทรมานของน้ำฝนจากห้องข้าง ๆ ยิ่งทำให้เธอทั้งสงสารและกลัวไปด้วยในเวลาเดียวกัน
"ปล่อยนะ อี๋ ๆ ทุเรศที่สุด"
"ขยะแขยงไอ้แก่ อี๋!!"
เสียงโวยวายดังขึ้นเป็นพัก ๆ และดูสั่น ๆ แบบฟังออกว่ายัยฝนโดนกระทำอะไรอยู่
ทำเอาน้ำขิงเองก็จิตตกไปตาม ๆ กัน
"หลวมชิบหาย จะขยะแขยงอะไร!!"
ตาแก่ตวาดลั่นอย่างหงุดหงิด เพราะน้ำฝนเองก็เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า แทบจะล่อทั้งตำบลอยู่แล้วมั้ง
น้ำขิงเลิกสนใจเสียงร้องของห้องข้าง ๆ เธอรีบตั้งสติคิดหาหนทางรอด เพราะตอนนี้อย่าว่าแต่ไปช่วยน้ำฝนเลย
ตัวเธอเองจะรอดถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ได้เลย
"ถ้ากระโดดลงไปมีแต่ตายกับขาหักแน่ ๆ"
น้ำขิงมองความสูงและรู้ทันทีว่าไม่รอดแน่ ๆ ถ้ากระโดดไปจากทางนี้ แต่เธอเหลือบไปเห็นมุ้งลวดที่ขาดแบบนิด ๆ หน่อย ๆ
"ทำไงดี ๆ"
น้ำขิงนั่งน้ำตาคลออย่างคิดไม่ตกเลย
เพราะห้องนี้ไม่มีทางหนีออกทางอื่นเลย และ
"เอาวะ"
น้ำขิงตัดสินใจมองหาอะไรที่แหลม ๆ มากพอที่เธอจะลองใช้มันเพื่อเอาตัวรอด
เธอใช้ปลายมุ้งลวดแหลม ๆ นั้นปาดเข้าที่ปลายนิ้วจนมีเลือดออก และเอาไปป้ายที่กางเกงของเธอ
น้ำขิงกดให้เลือดจากปลายนิ้วออกมาเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนเธอได้แผลเกือบจะทุกนิ้วแต่ก็ยอม
คราบเลือดเลอะเทอะที่กางเกงของเธอจนเริ่มเห็นได้ชัดขึ้น เธอป้ายเลือดลงที่กางเกงและเรียวขาอ่อนแบบแกล้ง ๆ เพื่อจะได้หลอกกับตาเสี่ยนั้นว่าเธอมีประจำเดือน จะได้ถ่วงเวลาเอาตัวรอดไปได้ก่อน
ตับ ตับ ตับ
เสียงร่างกายของชายแก่ปะทะกับร่างวัยสาวอย่างน้ำฝน น้องสาวต่างมารดาที่น้ำขิงเองก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่
"อ่าส์ โอ้ววว ซี้ด อ่าส์!!"
เสียงครางทุเรศ ๆ ดังออกมาจากห้องข้าง ๆ เสียงดังสนั่น
"อะ อ่าส์!"
มีเพียงเสียงของตาแก่ที่ดังขึ้นมาอีกครั้งและอีกครั้ง
ตับ ตับ ตับ
เสียงมีอะไรกันข้างห้องดังขึ้น ๆ อย่างต่อเนื่องเกือบห้านาทีก่อนจะเงียบไปพักใหญ่
น้ำขิงก็ยังคงเติมคราบเลือดให้ตัวเองดูสมจริงต่อไปเรื่อย ๆ จนตัวเธอเองก็เริ่มจะรู้สึกปวดหัว ๆ เพราะเสียเลือด
ผ่านไปนานหลายชั่วโมง จู่ ๆ
แอด ~
(เสียงประตูเปิดออกมา)
"ถึงตาของเธอแล้ว"
เสียงลูกน้องเดินเข้ามาลากตัวของน้ำขิงเพื่อไปบำเรอตาเสี่ยบุญโชคนั้น
พอเดินเข้าไปถึงก็เจอสภาพอันเปลือยเปล่าของน้ำฝน ที่ถูกเสี่ยบุญโชคข่มขืนอย่างทารุณ
และที่สำคัญคือลูกน้องใครเข้าออกก็มองเธอได้อย่างเต็มตา เพราะความโรคจิตของตาเสี่ยนี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: CRAZY LOVE คลั่งรัก | SM25
สนับสนุนแอปแบบนี้ ระวัง โดน hackข้อมูลโทรศัพท์ ปละเงินในบัญชีนะคะ เพราะเว็บเถื่อนค่ะ!!! มีคนโดนแล้ว ดังนั้นหาอ่านที่ถูกลิขสิทธิ์นะคะ โปรดระวังๆๆๆ แอปนี้เถื่อนค่ะ มันจะแฮชข้อมูลไป!!!! ระวังๆๆๆ อ่านฟรีได้เสียเงินหมดบัญชีนะ...
ใครสนับสนุนช่องทางนี้ โปรดรู้ไว้ด้วยว่าเว็บนี้ กำลังละเมิดลิขสิทธิ์นักเขียน และเผยแพร่อย่างผิดกฏหมาย เป็นแอปต่างประเทศที่เข้ามาละเมิดคนไทยด้วยกัน ถ้าท่านที่อ่านเจอข้อความนี้ โปรดไม่ส่งต่อและสนับสนุน ท่านสามารถหานิยายสนุก และอ่านฟรี อย่างถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ www.tunwalai.com เนื้อหาครบถ้วน มีภาพประกอบ และมีเรื่องราวต่อจากฟาเรนและเพื่อน ๆ อีกหลายเรื่องค่ะ สนใจสอบถามเพิ่มเติม เพจ : อยู่ในตะเกียงแก้ว...
สงสัยอีกอย่างคือไทม์โซนหายไปไหนช่วงงานแต่งฟาเรน ทำไมทุกคนดูเป็นห่วงไทม์...
1...
มันยังขาดอะไรไปนิดหน่อยคะ แต่โดยรวมดีคะ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านนะคะ...