ดอกหญ้าสีคราม นิยาย บท 44

ดอกหญ้ารู้ดีว่าคนพวกนั้นไม่ยอมถอดใจแน่ นึกถึงที่อยู่ของสองพี่น้อง พวกเขาก็ไม่รู้ ในเมืองใหญ่นี้ พวกเขาอยากจะตามหาสองพี่น้องก็หาได้ยาก หลังจากโกรธแล้ว ก็ไม่ใส่ใจอีก เพื่อไม่ให้ส่งผลต่ออารมณ์ที่จะไปทานข้าวเย็นที่บ้านพี่สาว

บทสนทนาของปู่หลาน สีครามได้ยิน ก็เก็บไว้ในใจ

เขาให้ไซมอนช่วยสืบข้อมูลของทุกคนในตระกูลสหพันษาแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะรู้

สองสามีภรรยามาถึงชั้นล่างของบ้านน้ำทิพย์ เห็นน้ำทิพย์ลงมาทิ้งขยะพอดี

“พี่”

พอเห็นพี่สาว ดอกหญ้าก็ดีใจมาก เดินไปหาพี่ก่อน

“หญ้า มากันแล้วเหรอ”

สภาพอ่อนล้าของน้ำทิพย์ตอนที่เห็นสองสามีภรรยา ก็หายไป เห็นสีครามถือถุงใบใหญ่ลงมาจากรถ เธอก็บ่นพวกเขาสองสามีภรรยา:“ไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย เรียกพวกเธอมาทานข้าวบ้าน ยังจะซื้อของมาเยอะแยะ สิ้นเปลืองเปล่าๆ”

“พี่ ก็แค่ผลไม้เองครับ”

สีครามเรียกว่าพี่ได้คล่องหูมาก น้ำทิพย์ชอบน้องเขยมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นคนซื่อตรง ถึงจะไม่ค่อยพูด แต่ก็ใส่ใจน้องสาวดี

ถ้าดอกหญ้ารู้ว่าพี่สาววิจารณ์สีครามแบบนี้ในใจ เธอจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“พี่เขยยังไม่กลับมาเหรอ?”

ดอกหญ้าคล้องแขนของพี่สาวอย่างสนิทสนม“โตะล่ะ?”

“พี่เขยแกยังอยู่ระหว่างทางกลับมา น่าจะใกล้ถึงแล้ว โตะอยู่ข้างบน พ่อแม่สามีกับลูกสาวคนโตอยู่หมด มีพวกเขาดูโตะอยู่ ฉันเลยลงมาทิ้งขยะได้”

ได้ยินว่าบ้านสามีของพี่สาวมา ดอกหญ้าก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่พูดอะไร

บางเรื่อง สองคนพี่น้องคุยกันเองดีกว่า อย่าพูดต่อหน้าสีคราม

คนตระกูลขีปณาวีก็รู้เรื่องที่ดอกหญ้าแต่งงาน พี่สาวของประจวบมา ก็พูดกับน้ำทิพย์ว่าจะส่งลูกชายลูกสาวเธอทั้งสามคนเข้าเรียนในเมือง ให้ลูกทั้งสามคนของเธออยู่ที่บ้านของน้ำทิพย์ ให้น้ำทิพย์ดูแล บอกว่า น้ำทิพย์อยู่บ้านดูลูกอยู่แล้ว ดูลูกคนเดียวอยู่ งั้นก็ดูไปอีกสาม

ที่จริงแล้ว พี่กานจญ์มีแผนนี้มานาน แต่เพราะห้องในบ้านน้องชายไม่พอ ลูกสาวของเธอปีนี้สิบเอ็ดขวบ ปีหน้าเข้ามัธยมต้นแล้ว ลูกชายคนโตสิบขวบแล้ว ให้สองพี่น้องนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว

ลูกชายคนเล็กอายุสามขวบ ยังเด็ก ยังต้องนอนกับผู้ใหญ่

ตอนนี้ดอกหญ้าแต่งงานย้ายออกไปแล้ว ห้องก็ว่าง เป็นของลูกสองคนของเธอได้พอดี

เมื่อก่อนเธอก็เคยบ่นต่อหน้าน้องชายอยู่หลายหน ว่าเคยเห็นแต่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเลี้ยงดูพ่อแม่ ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเลี้ยงน้องสาว ในคำพูดมีแต่ความรังเกียจที่ดอกหญ้าอยู่ห้องของน้องชาย เอาไปห้องหนึ่ง ทำให้ลูกๆ ของเธอไม่มีที่อยู่

ประจวบเข้าข้างครอบครัวของตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่ถูกชะตากับดอกหญ้า มักจะทะเลาะกับภรรยา บีบให้ดอกหญ้าย้ายออกไปจากบ้านของพี่สาวสำเร็จ

น้ำทิพย์เรียกสองสามีภรรยาขึ้นไปข้างบน พอออกมาจากลิฟต์ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชายเธอ

“โตะร้องไห้แล้ว”

ดอกหญ้าร้อนใจยิ่งกว่าพี่สาว น้ำทิพย์หยิบกุญแจออกมาเปิดประตู พูดไปว่า:“เด็กสองคนนั้นแย่งของเล่นกันแน่เลย ถึงร้องไห้”

พี่สาวเขาพาลูกคนที่สามมาด้วย อายุมากกว่าคัตโตะหนึ่งปี เด็กทั้งสองคนเล่นด้วยกัน ก็จะแย่งของ ทะเลาะกันตลอด

น้ำทิพย์เปิดประตูเข้าไป คัตโตะก็วิ่งเข้ามาพร้อมของเล่นสุดรัก ขอให้น้ำทิพย์อุ้ม

น้ำทิพย์ให้สองสามีภรรยาเข้ามา พี่กานจญ์อุ้มลูกชายคนเล็กของตัวเองขึ้นมา เด็กชายน่าจะถูกตามใจจนเสียคน ยังร้องไห้งอแงจะเอาของเล่นของคัตโตะ

พ่อแม่ของประจวบเห็นดอกหญ้าสองสามีภรรยาซื้อของมาเยอะแบบนี้ ก็ยิ้มอย่างพอใจ เมื่อก่อนพวกเขาไม่ชอบดอกหญ้า ตอนนี้ดอกหญ้าแต่งงานแล้ว ย้ายออกไป ได้ยินว่าผู้ชายที่แต่งด้วยซื้อบ้านที่คอนโดสีแสงโดยชำระเงินเต็มจำนวน และยังเป็นผู้บริหารในบริษัทขนาดใหญ่อีกด้วย ทัศนคติที่มีต่อดอกหญ้าจึงเปลี่ยนไปเป็นคนละอย่าง

ทุกคนนั่งลง

ของที่สีครามซื้อมาวางอยู่บนโต๊ะน้ำชา

พี่กานจญ์มองเห็นว่ามีของเล่นใหม่ ก็รีบไปเปิดถุง หยิบของเล่นชิ้นใหม่ออกมาจากในนั้น แล้วให้ลูกชาย พร้อมพูดว่า:“ลูกรัก เลิกร้องไห้ได้แล้ว พวกเราเล่นของเล่นใหม่ ไม่ต้องแย่งของเล่นเก่าๆ ของโตะ”

สีครามมองพี่กานจญ์ด้วยสายตาหม่นหมอง ใบหน้าหล่อเหลาดูบึ้งตึง ความเยือกเย็นและจริงจังนั้นแผ่ออกมา แล้วบรรยากาศในห้องก็แข็งตัวขึ้นมาทันที

เป็นพ่อเมษฐ์ที่สะกิดภรรยา ให้ภรรยาเตือนลูกสาว อย่าทำตัวเกินไป ของเล่นใหม่พวกนี้น้าของโตะซื้อมาให้โตะเล่นชัดๆ ลูกสาวตัวเองทำแบบนี้ ขายขี้หน้ามาก

ครอบครัวสามีของพี่กานจญ์นั้นนามสกุลชุติสินวรรณ คุณป้องก็รู้สึกขายหน้า รีบลุกขึ้นหยิบของเล่นใหม่ในมือลูกชายกลับไป วางไว้บนโต๊ะน้ำชา อุ้มลูกชายมา แล้วโอ๋:“ลูกอย่าดื้อสิ เดี๋ยวพ่อพาไปซื้อของเล่นใหม่”

พี่กานจญ์ยังคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

จู่ๆ สีครามก็พูดขึ้นมาว่า:“ให้เขาเล่นเถอะ ผมซื้อของเล่นใหม่มาให้โตะตั้งเยอะ โตะไม่ได้ขาดอะไร”

เขาสังเกตเห็นว่าลูกชายคนเล็กของตระกูลชุติสินวรรณมือสกปรก อีกฝ่ายสัมผัสของเล่นใหม่ของคัตโตะ และมันสกปรก จึงใจกว้างเอาของเล่นนั้นให้อีกฝ่ายเล่น

เขาสื่อให้ดอกหญ้าเอาของเล่นชิ้นใหม่นั้นไปให้ลูกของตระกูลชุติสินวรรณ

ดอกหญ้าไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียดเพราะของเล่น ถึงตอนนั้นคนที่ลำบากจะเป็นพี่สาวเธอเอง จึงรีบหยิบของเล่นนั้นยื่นให้ลูกชายคนเล็กนั้นไป ตอนที่เด็กได้รับของเล่น ดอกหญ้าสังเกตเห็นมือของเด็กสกปรก ก็เข้าใจทันทีว่าทำไมสีครามถึงใจกว้าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดอกหญ้าสีคราม