ภายในบ้านพัก ญาธิดากำลังพิงตัวอยู่ในอ้อมแขนของภวินท์ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา
ภวินท์สังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอในทันที จึงกระซิบถามเบา ๆ “เป็นอะไรไป”
ญาธิดาส่ายหน้าก่อนที่ภาพของลูกทั้งสองคนจะปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ “ไม่มีอะไร แค่จู่ ๆ ก็คิดถึงลูกสองคนขึ้นมา”
“ฉันไปโทรหาอีธานกัลเอลล่าก่อนนะ”
ญาธิดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรหาเอลล่าก่อน
“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
ญาธิดาขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะกดโทรหาอีธาน
“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงเข้าปกคลุมหัวใจของญาธิดาทันที เธอหันไปมองหน้าภวินท์ “วิน ฉันอยากไปดูอีธานที่บริษัท”
ภวินท์พยักหน้า หลังจากพาญาธิดามาถึงบริษัท กลับมีคนบอกกับพวกเขาว่าอีธานกับเอลล่าออกไปจากบริษัทด้วยกัน
ญาธิดาคว้าแขนของภวินท์ด้วยความประหม่า “วิน หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกเขาหรือเปล่า”
ภวินท์โอบเธอไว้ในอ้อมแขนพลางพูดปลอบด้วยเสียงแผ่วเบา “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”
“แต่ฉันไม่สบายใจ” ญาธิดากัดริมฝีปากพูด
ในฐานะคนเป็นแม่ หัวใจของเธอกับลูก ๆ นั้นเชื่อมถึงกัน ตอนนี้เธอกลับรู้สึกตื่นกลัวแปลก ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“วิน พวกเราไปตามหาพวกเขาด้วยกันดีไหม”
ภวินท์พยักหน้าแล้วรีบพาญาธิดาออกไปจากบริษัท
ญาธิดาเพิ่งจะเข้ามานั่งในรถ จู่ ๆ เธอก็ได้รับข้อความมือถือหนึ่งฉบับ
“ญาธิดา ต่อหน้าฉันเธอหยิ่งทะนงตัวเองนักไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนี้ฉันจะทำให้เธอได้ลิ้มรสชาติของการสูญเสียบ้าง”
ญาธิดาสายตาตึงเครียด อยากจะกดโทรออกแต่เธอกลับพบว่าอีกฝ่ายใช้เบอร์โทรปลอม
เด็กทั้งสองคนติดต่อไม่ได้ แถมตอนนี้ยังได้รับข้อความแบบนี้ ยิ่งทำให้ญาธิดารู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปอีก
“วิน เร็วเข้า รีบไปตามหาลูก ๆ เร็ว”
“ญาธิดาอย่าเพิ่งใจร้อน พวกเราไปหาจรณ์กันก่อนดีกว่า”
ทั้งสองคนขับรถมาถึงที่ozone
หลังจากรู้ว่าเด็กทั้งสองคนหายตัวไป จรณ์ก็รีบเจาะเข้าไปในกล้องวงจรปิดทั้งหมดของเมือง J ทันที ในที่สุดก็พบภาพที่ประตูหน้าบาร์แห่งหนึ่งและพบว่าพายุพาเด็กทั้งสองคนออกไป
ญาธิดายังคงไม่สบายใจ แถมยังตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม
สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่าคนที่ส่งข้อความมาหาเมื่อครู่นี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับพายุก็เป็นได้
เธอกังวลว่าพายุจะทำอะไรไม่ดีกับลูก ๆ ของเธอ
ญาธิดารีบลากภวินท์ขับรถไปยังตำแหน่งล่าสุดที่พวกเขาค้นหาพบทันที
ก่อนจะไปญาธิดายื่นโทรศัพท์ของเธอให้จรณ์ เพื่อให้เขาสืบหาว่าใครเป็นคนส่งข้อความฉบับนี้มาให้เธอ
ญาธิดากับภวินท์รีบบึ่งรถมาถึงที่โรงงานรกร้างแห่งหนึ่งในแถบชานเมือง ญาธิดากับภวินท์ก้าวเข้าไปอย่างระมัดระวัง แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงคนพูดขึ้นมา
“รีบลงมือสิ เดี๋ยวญาธิดาก็ตามมาหรอก”
ญาธิดาขมวดคิ้วและรู้สึกว่าคุ้นเคยกับน้ำเสียงนี้ คล้ายกับได้ยินที่ไหนมาก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิ” เสียงของพายุดังมาแว่ว ๆ
ญาธิดารู้สึกตึงเครียด เธอมองเด็กน้อยสองคนผ่านภาพสะท้อนบนเศษแก้วเล็ก ๆ ทั้งสองคนถูกมัดไว้ด้วยเชือก ส่วนเด็กผู้หญิงยังคงนอนสลบอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...