คำพูดของหลินโป๋หลาย ซ่งหมิงเวยฟังแล้วรู้สึกมึนงง
แต่เขามั่นใจได้ว่าผู้ชายคนนี้ เป็นผู้ชายที่ไปหาพี่สาวเขาในคืนนั้น บอกว่าจะแต่งงานกับพี่สาวตัวเอง ถ้าเป็นคนกำลังจีบพี่สาวตัวเองอยู่ แล้วทำไมถึงเอาปืนจ่อที่หัวของพี่สาวล่ะ?
ซ่งอี้หรูเหมือนเข้าใจอะไรแล้ว และยิ้มออกมากะทันหัน
เสียงหัวเราะจากเสียงต่ำไปสูง สุกท้ายก็เงยหน้าหัวเราะกันอย่างครื้นเครง
เขาเหมือนได้ยินมุกตลกที่ตลกที่สุดในโลก
ซ่งหมิงเวย รู้สึกวิตกกังวลแทนพี่สาว ตอนนี้พวกเขาเป็นคนที่กำลังถูกปืนสิบกว่ากระบอกจ่อหัวอยู่ แต่พี่สาวไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย แถมยังหัวเราะเสียงดังออกมา ถ้าเกิดทำให้เขาโกรธแล้วปืนเขาเกิดปืนลั่นขึ้นมาจะทำอย่างไง?
แน่นอนว่า เรื่องที่ซ่งหมินเวยไม่อยากเข้าใจที่สุดก็คิด เขาเป็นคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แม้แต่พวกเขาคุยอะไรกันซ่งหมินเวยยังไม่เข้าใจเลย ทำไมถึงต้องเอาเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย?
หลินโป๋หลายจ้องมองซ่งอี้หรูด้วยสีหน้าดุและพูดว่า: “มีอะไรน่าขำหรือ?”
“ฉันขำนายหลินโป๋หลายที่โง่เง่าเต่าตุ่นไง นายไม่ได้เข้าใจอะไรในตัวฉันเลย ยังอยากที่จะขอฉันแต่งงาน?!”
รอยยิ้มของซ่งอี้หรูหยุดชะงัก ถึงจะมีปืนหลายกระบอกจ่อเธออยู่ แต่เธอก็ไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด และใช้สายตาที่ดูถูกมองไปที่หลินโป๋หลายและพูดว่า: “ในสายตานาย ถังเฉาและหลินชิงเสว่ที่ประสบอุบัติเหตุ นายคิดว่าฉันเป็นคนวางแผนหรือ?”
สีหน้าของหลินโป๋หลายดูไม่ธรรมชาติ และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น: “ฉันไม่ได้บอกว่าเธอเป็นคนทำ แต่ฉันแค่มาตักเตือนเธอ”
“ฉันซ่งอี้หรูกล้าทำกล้ารับ อะไรที่ฉันทำฉันก็จะยอมรับ แต่อะไรที่ฉันไม่ได้ทำ อย่าหวังเลยว่าจะมาใส่ร้ายฉันได้!”
ซ่งอี้หรูยืนขึ้นไปที่เก้าอี้ ยืนอยู่บนเก้าอี้และชี้ไปที่ปืนที่จ่อมาที่ตัวเธอพร้อมมองหลินโป๋หลาย และพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและน่ากลัว
“ในสมองของฉันมีวิธีที่จะจัดการกับคนอยู่เป็นร้อยเป็นพันวิธี แต่ฉันไม่ลือกวิธีฆ่าคนเพราะเป็นวิธีที่ต่ำที่สุด และเป็นการกระทำที่ไร้ความสามารถที่สุด นายยังสงสัยว่าฉันเป็นทำหรือ?”
“อี้หรู เธอฟังฉันอธิบายก่อน”
หลินโป๋หลายแสดงได้ไม่ถึงสามวินาที สีหน้าที่เฉยชาของเขาได้หายไป แทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เบิกบาน: “น้องสาวของฉันประสบอุบัติเหตุเกือบเอาชีวิตไม่รอด ฉันที่เป็นพี่ชายก็นิ่งเฉยไม่ได้สิ ถ้าน้องชายของเธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด เธอก็จะรู้สึกเหมือนกันแน่นอน”
ซ่งหมินเวยอึ้งทันที และมองผู้ชายคนนี้ที่เมื่อกี้ยังมีสีหน้าที่ลี้ลับอยู่ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสีหน้าที่รู้สึกผิด เรื่องผ่านไปด้วยดีอยู่แล้ว จะเอาฉันเข้าไปเกี่ยวข้องอีกทำไม?
แต่ไหนๆ ก็พูดออกมาแล้ว เขามองซ่งอี้หรูด้วยความคาดหวัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเธอจะมาช่วยเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขหรือไม่
แต่ว่าซ่งอี้หรูแค่มองเขาด้วยสายตาที่จืดชืดและพูดว่า: “ฉันต่างกับนาย และหมินเวยก็ต่างจากน้องสาวของนายด้วย เขาโตแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว”
“.......”
ทันใดนั้นซ่งหมินเวยได้ยินเสียงสิ่งของแตก เหมือนมีอะไรตกแตก
นั้นคือหัวใจของเขาเอง
หลินโป๋หลายแสดงสีหน้าที่แข็งทื่อ และรีบให้ลูกน้องของตัวเองเก็บปืน และไปขอโทษ: “อี้หรู ฉันวู่วามเกิดไป อภัยให้ฉันนะ เธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ได้มั้ย?”
ซ่งอี้หรูเงียบและไม่ได้ตอบ เธอมองหลินโป๋หลายด้วยสีหน้าที่เหมือนคนโง่เขลา
หลินโป๋หลายคนนี้ จีบเธอมาแล้วเจ็ดแปดปี การกระทำของเขาก็เป็นธรรมชาติกับคนอื่น แต่กับเธอ เขามาตามตื้อตลอดเวลา คอยเกาะติดเธอเหวี่ยงอย่างไงก็เหวี่ยงไม่ออกจากชีวิต
วันนี้เขาพึ่งเคยแสดงอาการโกรธต่อซ่งอี้หรู แต่ไม่เกินสามวินาทีก็กลับสู่สีหน้าเดิมแล้ว
ซ่งหมินเวยยิ่งเป็นคนที่ยกย่องซ่งอี้หรูอย่างเลื่อมใสเต็มที่ เพียงแค่พี่สาวโกรธนิดหน่อย จากเสือเขาก็จะกลายเป็นแมว วิชาการควบคุมคนนี้ เขาก็อยากเรียนรู้เหมือนกัน
“อี้หรู ตามความคิดเธอ ใครเป็นคนก่อเหตุในครั้งนี้?”
หลินโป๋หลายหรี่ตา และถามอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันไม่รู้”
ซ่งอี้หรูส่ายหัวและพูดว่า: “แต่ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะใช้ความคุ้นเคยหาคำตอบเรื่องนี้หมินจูเล็กมาก ความจำกัดเยอะเกิดไป”
เงียบสักพัก ซ่งอี้หรูมองหลินโป๋หลายอย่างลึกซึ้งและพูดว่า: “ฉันเชื่อในประโยคที่ว่า ก่อเหตุโดยไม่มีแรงจูงใจในการฆ่าคน จะทำให้สืบคดีได้ยาก”
“หมายความว่าอะไร?” แววตาของหลินโป๋หลายเต็มไปด้วยความมึนงง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม