ถังเฉาขับรถนิ่มๆ หลินฉ่ายเวยนั่งที่นั่งข้างๆ สายตายังคงแดงเรื่อ แต่อารมณ์ไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เธอมองถังเฉาที่สีหน้านิ่งเฉย มีหลายครั้งอยากเปิดปากพูด แต่พอคำพูดมาถึงริมฝีปาก ก็พูดไม่ออกอีก
“คุณมีอะไรอยากจะคุยกับผมไหม?”
ทันใดนั้น สายตาถังเฉาหันมาถามราบเรียบ
“ฉัน---“
หลินฉ่ายเวยสีหน้าเลิกลั่ก และโพล่งออกมาในทันใด
“ฉันก็แค่สงสัยว่า คุณหาฉันเจอได้ยังไง?”
ถังเฉาหัวเราะบอก “พ่อโทรหาผม บอกว่าคุณทะเลาะกับที่บ้าน แล้ววิ่งออกมา ให้ผมมาหาคุณ”
“อ้อ”
หลินฉ่ายเวยดูผิดหวังเล็กน้อย เธอนึกว่าถังเฉาตั้งใจมาหาเธอซะอีก---เหมือนกับครั้งก่อนในผับนั่น
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไรอีก หลินฉ่ายเวยก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่บีบมือแน่น ท่าทางตื่นเต้นมาก
บรรยากาศแบบนี้คงอยู่ไปจนใกล้จะถึงบ้านหลิน หลินฉ่ายเวยถึงทนไม่ได้ถามออกมาว่า “ถังเฉา คุณยังจำคำพูดที่ฉันพูดกับคุณตอนเด็กได้ไหม?”
“พูดว่าอะไร?” ถังเฉายังคงจับพวงมาลัยอยู่
“ก็คือ....”
หลินฉ่ายเวยหน้าแดง กัดปาก พูดมันออกมาทันที
“ฉันบอกว่า ชีวิตนี้จะแต่งกับคุณเท่านั้น!”
ถังเฉายิ้มแผ่ว “ทำไมคุณยังพูดแบบนี้อีกล่ะ ผมแต่งงานแล้วนะ”
“แต่ว่า ฉันไม่ได้ขอให้คุณแต่งกับฉันนี่!”
หลินฉ่ายเวยหันมามองถังเฉา กัดฟันพูดว่า “ฉันแค่----อยากกลับไปอดีตกับคุณ!”
ถังเฉาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ระหว่างนั้นหันมองหลินฉ่ายเวยพูดต่อ “ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจจริงๆว่าอะไรคือความรัก”
หลินฉ่ายเวยมองถังเฉาตาเป็นประกาย เห็นเขาพูดเสียงราบเรียบ “ตอนนี้คุณแค่อยู่ในช่วงอารมณ์เศร้าเพราะโดนหักหลัง แล้วผมก็มาดึงคุณขึ้นจากหุบเหวพอดี คุณรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณผมเท่านั้นเอง”
“พวกเราไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว บุญคุณความแค้นในอดีตอย่าเก็บมันมาใส่ใจอีกเลย”
หลินฉ่ายเวยตาแดงอีกครั้ง รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดที่ใจ---ไม่รู้ทำไม ความเจ็บปวดครั้งนี้หนักหนากว่าตอนที่รู้ว่าเหวินเหวยเฉินทรยศเธอซะอีก หัวใจเธอเหมือนหัวหอมที่กำลังโดนมีดค่อยๆหั่น
เธอเองที่ผลักไสผู้ชายที่เคยดีกับเธอมากคนหนึ่งออกไปกับมือ
และคนๆนี้เดิมเป็นคนที่ควรจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดชีวิต
เธอกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้เสียงร้องไห้ตัวเองออกมา เธอเสียใจจริงๆ
รถแล่นมาจนถึงหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลินฉ่ายเวยจู่ๆก็พูดขึ้น “คุณยังจำที่นี่ได้ไหม?”
ถังเฉามองหนึ่งทีด้วยสายตาราบเรียบ “จำได้ ตอนเด็กหิวแล้ว พวกเราแวะมากินบะหมี่ที่นี่ด้วยกัน”
“ไม่เอาหัวหอม เพิ่มเส้น ตอนเด็กไม่มีเงิน พวกเราเลยกินบะหมี่ชามเดียวหารกัน”
หลินฉ่ายเวยพยายามให้ตัวเองยิ้มออกมา มองถังเฉาพลางว่า “จะไปกินอีกครั้งกันได้ไหม? ครั้งสุดท้าย”
เขาลังเลเล็กน้อย สุดท้ายถังเฉาพยักหน้า “ได้”
รถจอดลงที่ข้างทาง ถังเฉากับหลินฉ่ายเวยเดินเข้าไปในร้านด้วยกัน
ร้านเล็กมาก แถมยังไม่ได้สะอาดมาก ไม่มีลูกค้าซักคนเลย
“เถ้าแก่ บะหมี่ชามหนึ่ง ไม่เอาหัวหอม เพิ่มเส้น”
หลินฉ่ายเวยหยิบแบงค์ร้อยใบใหม่เอี่ยมออกมา “ไม่ต้องทอนหรอกค่ะ”
พูดจบ ก็เดินมานั่งตรงข้ามถังเฉาด้วยสีหน้าประหม่า
ไม่นาน บะหมี่มาเสิร์ฟแล้ว
หลินฉ่ายเวยหยิบตะเกียบออกมาสองคู่ กำลังจะยื่นให้ถังเฉา ถังเฉายิ้มน้อยๆบอก “ผมมองดูคุณกิน”
หลินฉ่ายเวยชะงักมือค้างกลางอากาศ จากนั้นก็ดึงกลับมาแบบแกนๆ เริ่มกินคนเดียว
ซื้ดซ้าดซื้ดซ้าด—
ในร้านบะหมี่ไม่มีเสียงพูดคุยอะไร มีเพียงเสียงหลินฉ่ายเวยรีบกินบะหมี่
เธอกินเร็วมาก กินอย่างตะกรุมตะกราม เหมือนไม่ได้กินข้าวมายี่สิบวัน
ถังเฉานั่งอยู่ตรงข้าม มองดูหลินฉ่ายเวยที่นั่งกินบะหมี่อยู่อย่างสงบเงียบ
หน้าแดงหูแดง สองตาแดง
เธอเริ่มกินเร็วขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาก็ไหลลงไปในน้ำซุป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม