ผู้เฒ่าเป็นพ่อบ้านของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที ในใจจมดิ่ง
หลินชิงเสว่เองก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน คว้ามือของถังเฉาไปจับไว้แน่น “ฉันไปเป็นเพื่อนคุณค่ะ!”
พ่อบ้านผู้เฒ่ากลับยิ้มเล็กน้อย “คุณหนูใหญ่ครับ นายท่านพูดเอาไว้แล้วว่าจะพบแค่คุณถังคนเดียวครับ”
หลินชิงเสว่คิ้วกระตุก คิดจะพูดอะไรออกมา ถังเฉากลับส่ายศีรษะให้กับเธอน้อย ๆ ส่งสายตาให้เธอสบายใจ “ไม่มีอะไรหรอกครับ”
พูดจบก็เดินก้าวยาว ๆ ตามพ่อบ้านผู้เฒ่าเข้าไปในคฤหาสน์
หลินชิงเสว่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้ากังวลใจ คิ้วขมวดแน่น ความโหดร้ายของความเป็นจริง ไม่อาจไม่ให้เธอคิดไปในทางที่เลวร้าย
หลินจ้าวหยูนกลับกอดแขนของเธอเอาไว้เบา ๆ เอ่ยอย่างเบาใจว่า “พี่คะ พี่อย่าคิดมากอีกเลยค่ะ” พี่ก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแดดดี๊รักพี่มากแค่ไหน ไม่แน่นะว่าครั้งนี้ที่แดดดี๊เรียกพี่เขยไป ก็คือเห็นด้วยกับพวกพี่ทั้งสองคนแล้ว?”
หลินชิงเสว่ลังเลใจอยู่สักพัก ถามออกไปประโยคหนึ่งอย่างหยั่งเชิงว่า “จริงเหรอ?”
พี่คะ พี่ต้องคิดไปในทางที่ดีนะคะ ยิ้มเยอะ ๆ ชีวิตเป็นทุกข์ขนาดนั้น พี่จะทำหน้าทุกข์ทรมานแบบนั้นไปให้ใครดูกัน?”
หลินชิงเสว่เองก็โดนหลินจ้าวหยูนหยอกให้ยิ้มออกมา “เธอประชดฉันงั้นเหรอ!”
สองพี่น้องตีกันจนกลับเข้าไปในห้อง ลั่วเยนอวิ๋นกลับมีสีหน้าเคร่งขรึม จากที่เธอรู้จักผู้ชายคนนั้น การพบกันครั้งนี้อาจจะไม่เรียบง่ายขนาดนั้น
......
อีกด้านหนึ่ง ภายใต้การนำของพ่อบ้าน ถังเฉาก็มาถึงห้องหนังสือห้องหนึ่ง
“นายท่านอยู่ในนี้ครับ”
ยิ้มน้อย ๆ ทีหนึ่งแล้วผู้เฒ่าก็จากไป
ถังเฉายืนอยู่หน้าประตูห้องหนังสือคนเดียว ไม่กล้าเคาะประตูอยู่นาน
แม้ว่าเขาจะเป็นเซี่ยกั๋วหลงจู่ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับประตูบานนี้เขาก็ลังเลอยู่นาน
พบหัวหน้าครอบครัว เป็นจุดหนึ่งในช่วงชีวิตที่ทุกคนล้วนต้องพบเจอ ทิ้งความประทับใจที่ดีให้กับว่าที่พ่อตาแม่ยาย ยิ่งเป็นหนึ่งในความสำคัญในความสำคัญ
เพราะว่าระหว่างหลินชิงเสว่ เขา และพ่อตา ได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะไม่สามารถนั่งคุยกันด้วยความสงบเยือกเย็นได้
ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทางฐานะ หรือว่าจะท้องก่อนแต่ง ล้วนเพียงพอจะให้หลินรั่วหวีกีดกันเขา
ถังเฉาหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ค่อย ๆ สงบความตึงเครียดที่อยู่ในใจ เคาะประตู
“ประตูไม่ได้ล็อก”
ในห้องส่งเสียงเรียบ ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของหลินรั่วหวีออกมา
ดังนั้นถังเฉาจึงผลักประตูเข้าไป หลินรั่วหวีนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้พระราชสำนักราวกับรอให้ถังเฉาเข้ามาอยู่ พอเข้ามาแล้วก็จ้องมองเขาอย่างคมกริบ
เผชิญหน้ากับสายตาของหลินรั่วหวี ถังเฉาหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งเฮือก เค้นรอยยิ้มออกมาอย่างมีมารยาท “อาหลิน”
ทว่า เผชิญหน้ากับความหวังดีของถังเฉา หลินรั่วหวีกลับทำเป็นไม่ได้ยิน ยกเปลือกตาขึ้นมา มองขึ้นลงพิจารณาเขา “ที่จริงแล้วสำหรับผม การพบกันครั้งแรกของเราช้ากว่าที่ผมคาดการณ์เอาไว้อยู่บ้าง”
ได้ยินอย่างนั้น หัวใจของถังเฉาก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเล็กน้อย
เขาฟังความหมายที่อยู่ในคำพูดของพ่อตาออก
ก่อนหน้านี้ในตอนที่หลินชิงเสว่ประสบเคราะห์ร้ายถูกนักฆ่ามืออาชีพลอบสังหาร หลินรั่วหวีที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็จะไปเมืองหมิงจู แต่ว่ากลับถูกลั่วเยนอวิ๋นขัดขวางเอาไว้
พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วถังเฉาเองก็เม้มริมฝีปากแน่น สีหน้าเรียบเฉยขึ้นหลายส่วน “ตอนนี้ยังไม่สายครับ”
หลินรั่วหวีกลับส่ายศีรษะ ยิ้มอย่างเรียบเฉย “คุณเข้าใจความหมายของผมผิดแล้ว พวกเราควรจะเจอกันตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว”
“...”
ดังนั้น สายตาของถังเฉาจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นล้ำลึก เอ่ยถามเสียงเย็น
“ห้าปีก่อน คุณก็รู้แล้วว่าหลินชิงเสว่ประสบกับเรื่องน่าเศร้า ทำไมถึงยังปล่อยให้ตระกูลวางแผนลอบฆ่าลูกที่อยู่ในท้องเธอด้วย?”
สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บบนร่างของถังเฉาที่ปะทุขึ้นมา หลินรั่วหวีกลับเพิกเฉย เอ่ยเสียงเรียบว่า “เรื่องบางเรื่อง ผมที่เป็นผู้นำของตระกูล จะต้องคำนึงถึงเกียรติของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู”
ประโยคนี้ทำให้ความปรารถนาที่จะสังหารของถังเฉาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในที่สุดตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจอะไรแล้ว
ห้าปีก่อน หลินชิงเสว่ตั้งท้องถังเสี่ยวลี้ ไม่ได้ประสบเคราะห์ร้ายเพียงแค่อุบัติเหตุรถยนต์เพียงครั้งเดียว เพียงเพื่อที่จะให้เธอแท้งลูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม