มองดูชื่อ ‘หลี่เห้า’ นี้ ในใจของถังเฉาก็ไร้หนทางจะสงบได้อยู่นาน
เป็นทหารมาห้าปี เขาได้รู้จักเพื่อนร่วมรบมากมาย สำหรับเขาแล้วหลี่เห้ากลับเป็นเพื่อนที่พิเศษที่สุด
เขาเป็นพี่ใหญ่ของถังเฉา หลังจากนั้นก็ยืนยันความสัมพันธ์กับเจียงไป๋เสว่
เมื่อสามปีก่อนหายสาบสูญไประหว่างปะทะกันกับ ‘หว่างเหลี่ยง’ จากองค์กรลับ
สองปีแล้ว
สองปีมานี้เขากับเจียงไป๋เสว่ตามหาที่พักของ ‘หว่างเหลี่ยง’ แล้วไหนเลยจะไม่ตามหาที่พักของหลี่เห้า
พวกเขาล้วนเชื่อว่าหลี่เห้าไม่ได้ตาย
ถังเฉาเร่งไปที่บ้านพักของเจียงไป๋เสว่ทันที เป็นคฤหาสน์ติดภูเขาและแม่น้ำที่อยู่เขตชานเมือง
ไม่ได้เจอกันช่วงระยะหนึ่ง ลักษณะนิสัยบนร่างของเจียงไป๋เสว่เยือกเย็นและเงียบเหงายิ่งขึ้น
“ข่าวคืออะไร!”
พอถังเฉาเข้าไปในคฤหาสน์ก็เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
เจียงไป๋เสว่เอาข่าวที่ได้มาบอกกับถังเฉาทันที
“ฉันถามหลี่หงกังจากสนามรบแห่งเมืองเจียงเฉิง ก่อนหน้านี้พักหนึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเขาได้”
พูดจบก็เปิดคอมพิวเตอร์ สำรวจเทปบันทึกภาพที่หลี่หงกังส่งมา เริ่มกดเล่น
บนปากทางถนนที่คึกคัก รถยนต์เล่นไปมา ผู้คนสัญจรกันหนาแน่น
“หยุด!”
ถังเฉาเหลือบมองเวลาอ้างอิงที่อยู่ในเทปบันทึกภาพ ชี้ไปในเขตพื้นที่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ซูมสิบเท่า”
หลังจากที่เจียงไป๋เสว่ซูมสิบเท่า บนหน้าจอก็ปรากฏใบหน้าด้านข้างของผู้ชายคนหนึ่ง
แม้ว่าจะเลือนรางมาก แต่ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ก็จำได้ว่านี่คือหลี่เห้า
“ไม่ผิดแน่ เป็นเขา”
เจียงไป๋เสว่ตื่นเต้น รีบเอ่ยกับถังเฉาว่า “เวลาไม่คอยท่า พวกเรารีบไปเมืองเจียงเฉิง!”
ว่าแล้วก็ออกเดินทาง แต่ถังเฉากลับดึงเอาไว้
“รอก่อน”
ท่าทางของเขาเคร่งขรึมจริงจัง “อาศัยเพียงใบหน้าด้านข้าง ยากที่จะวินิจฉัยได้ว่าเป็นเขา”
“เขาอาจจะเป็นคนที่แปลงโฉมมา อีกอย่างคุณเคยคิดมาก่อนไหมว่าถ้าหากว่าหลี่เห้าไม่ได้ตาย ภายใต้สถานการณ์ที่เขาถูกกำจัดให้ไปจำคุก ทำไมเขาถึงไม่มาหาพวกเราล่ะ?”
คำพูดของถังเฉาทำให้เจียงไป๋เสว่ตะลึงในทันที
ถังเฉาชี้ไปที่หน้าจอแล้วเอ่ยต่อไปว่า “อีกอย่างคุณดูในฉากสิ ในกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดว่าเขามีธุระที่จะต้องทำ แล้วดูในกระเป๋าเสื้อของเขามีของบางอย่างนูนขึ้นมา นั่นคือปืน... เขาทำอะไรที่เมืองเจียงเฉิง เรื่องพวกนี้คุณยังไม่เข้าใจเหรอ?”
เจียงไป๋เสว่เงียบอยู่นาน ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องถังเฉาไม่ละสายตา “คุณหมายความว่ายังไงคะ?”
ถังเฉาค่อย ๆ พ่นลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “สองปีแล้ว อาจจะรอจนถึงตอนที่พวกเราได้เจอกันอีกครั้ง เขาก็ไม่ใช่หลี่เห้าที่พวกเราเคยสนิทสนมกันในอดีตแล้ว”
เจียงไป๋เสว่นิ่งไปนาน สีหน้าเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิตด้วยความรวดเร็ว “คุณกำลังสงสัยเขา?”
“ผมเปล่า”
ถังเฉาเอ่ยเรียบ ๆ ว่า “ผมแค่พยายามใช้แง่มุมมองและวิเคราะห์จากความเป็นจริงไปคาดเดาอย่างสุดความสามารถ นอกจากนี้แล้วผมคือเจ้ามังกร ผลลัพธ์ใดใดผมล้วนต้องพิจารณา รวมถึง... ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด”
เจียงไป๋เสว่มองอย่างนิ่ง ๆ อยู่นาน ทันใดนั้นก็เก็บสายตากลับไป
“คุณไม่ไป ฉันไปเอง”
พูดจบเธอก็วิ่งออกไป
ถังเฉาไม่ได้ไล่ตามไป เพียงแค่มองเงาด้านหลังของเจียงไป๋เสว่แล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ เฮือกหนึ่ง
เธออยากรู้ความจริงมากกว่าตัวของเขาเอง แต่กลับมองข้ามไปจุดหนึ่ง มักจะเป็นเวลานี้เสมอที่ความเป็นจริงเป็นสิ่งที่โหดร้ายที่สุด
ถังเฉาล้วงเอารูปถ่ายสีซีเปียใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
ในรูปภาพมีชายหน้าตาหล่อเหลาสองคนยืนอยู่ ก็คือเขากับหลี่เห้า
และด้านล่างของรูปภาพยังกดทับรูปถ่ายอีกใบหนึ่งไว้
นี่คือสถานที่ถ่ายภาพจริงที่หนึ่งในภาพถ่าย
ในรูปภาพไม่มีอะไรเลย แต่หากมองอย่างละเอียดละก็ สามารถมองเห็นเศษแหวนเหล็กเล็ก ๆ หนึ่งชิ้น
นี่คือภาพที่ถังเฉาถ่ายเอาไว้ในวันนั้นที่ออกจากตระกูลซ่ง
ในตอนนั้นถังเฉาสั่งให้เฟิ่งหวงสังหารหลินโป๋หลาย แต่กลับถูกผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่มีศักยภาพลึกล้ำยากจะหยั่งคนหนึ่งขัดขวางเอาไว้
เขาพาตัวหลินโป๋หลายจากไปจากในมือของเฟิ่งหวง อีกทั้งเฟิ่งหวงจะตามอย่างไรก็ตามไม่ทัน
จากที่เฟิ่งหวง เถี่ยเมี่ยนและหงโฝสามคนระลึกได้ คนคนนั้นยืนกลับหัวอยู่ใต้ชายคาเหมือนกับค้างคาว
จะเป็นค้างคาวที่เขาตามหาอยู่หรือเปล่านะ?
ถังเฉาไม่รู้เลย
แต่สิ่งที่ถังเฉารู้ก็คือมองจากปัจจุบัน ข้างกายของเขายังมีคนแบบนี้อยู่
เพราะว่าคนที่สามารถแย่งชิงตัวประกันไปจากในมือของเฟิ่งหวงได้ ทั้งยังโจมตีราบในครั้งเดียว หาได้ยากในโลกใบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม