บทที่ 49 คนตระกูลจ้าวมา
ห้องรับแขกตระกูลหลิน เงียบอย่างป่าช้า
ทุกคนต่างมีใบหน้าที่ซีดเซียวไปหมด แม้กระทั่งพวกที่ขี้กลัว กำลังตัวสั่นอยู่ จิตใจไม่นิ่ง
หนี้สินสามสิบห้าล้าน ต้องใช้คืนภายในหนึ่งอาทิตย์ จะใช้คืนได้ยังไงกัน?
แต่ว่าหากไม่ใช้คืน ไม่เพียงแต่บริษัทที่ต้องถูกบังคับโอนย้ายแล้ว รวมทั้งใบรับรองโฉนดที่ดินบ้าน รถยนต์ก็จะถูกจำนอง ละยังเสี่ยงต่อกันนั่งในคุก
คนที่อยู่ในนี้จะยืนหยัดต่อความตกตะลึงการนั่งคุกได้ยังไง?ถูกข่มจนกลัวไปหมดละ!
หลินเจิ้นสงก็ดูแก่ขึ้นสิบปีในทันที ถอนหายใจแผ่วเบา:“ไปดูว่าในบัญชีบริษัทยังเหลือเงินเท่าไหร่ ไปถอนออกมาให้หมด นอกจากนี้ ลองไปยืมกับญาติๆและเพื่อนๆดู หาได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น”
นี่มันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงแม้จะไม่ยอม ก็ต้องด้านโทรศัพท์ไปยืมเงิน
บนหนังสือของศาลก็เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้ว หากภายในหนึ่งอาทิตย์ไม่ทำการชดใช้ ทุกคนต้องเข้าคุก นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะ
จากนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร แค่เอ่ยถึงเงิน ก็ถูกตัดสายทิ้ง
หัวใจทุกคนถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ทำให้เกิดความผิดหวังขึ้น
“ต้องโทษไอ้ไร้ประโยชน์นั่น……”
หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนเกลียดจนขบเคี้ยวฟัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ถ้ารู้แต่แรกก็ไม่รีบไล่ไอ้ไร้ประโยชน์นั้นออกไปหรอก ตอนนี้ดีเลย เขาหนีไปแล้ว คนที่ช่วยเช็ดขี้กลับกลายเป็นพวกเขา
“ไม่ได้ ฉันไม่มีเงิน!”
โจวซูหัวทนไม่ไหว บ่นกล่าวว่า: “นี่เป็นหนี้สินของไอ้คนเฮงซวยนั้นแท้ๆ นับภาษาอะไรที่จะมาให้พวกเราใช้คืน นี่เป็นการรังแกคนหรือเปล่า?”
“แล้วคุณทำยังไงได้?หนังสือจากศาลก็ส่งมอบลงมาแล้ว หากไม่ทำตามคงยาก!” หลินจ้องเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี
ทุกคนกำลังใช้สมองครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไงอยู่นั้น เวลานี้ มีรถตู้สามคันได้จอดอยู่ที่หน้าบ้านตระกูลหลิน ประตูรถเปิดออก มีนักเลงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าบุกเข้ามากลุ่มหนึ่ง
พวกเขามีรอยสักบนตัว ในมือถืออาวุธ เดินเข้าในลานใหญ่ของตระกูลหลินอย่างไม่ปรานี
ทุกคนในบ้านตระกูลหลินตกใจหมด ถามด้วยเสียงรุนแรงว่า:“พวกคุณเป็นใครกัน?มาทำอะไรที่บ้านพวกเรา?”
“ฮึฮึ ทุบตีคนรักของกู ยังจะมาถามว่ากูเป็นใครอีก ตระกูลหลินพวกคุณน่าเกรงขามมาก?”
เสียงหัวเราะที่น่ากลัวลอยมา
ไอ้นักเลงพวกนั้นก็ได้หลีกทางให้เป็นทาง หนึ่งคนที่คลุมด้วยเสื้อขนมิงค์ ชายร่างสูงที่มีซิการ์ในปากเดินเข้ามาอย่างโอ่อ่าเย่อหยิ่ง
หลินจ้องชี้ไปที่เขาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้ กล่าวแบบไร้เสียง:“คุณ……คุณคือ จ้าวลิ่ว?”
จ้าวลิ่วได้ยินนั้น รีบเดินไปตรงหน้าหลินจ้อง ไม่พูดไม่กล่าวก็ตบไปที่หน้าของหลินจ้อง:“แม่งเอ๊ย จ้าวลิ่วเป็นชื่อที่มึงสามารถเรียกได้งั้นเหรอ?”
เกี่ยวกับชื่อจ้าวลิ่วนี้แล้ว เป็นจุดเจ็บปวดสำหรับเขามาโดยตลอด พ่อแม่ของเขาเป็นชาวนา ไม่มีความรู้อะไร ดังนั้นก็ตั้งชื่อไม่เป็น
ในบ้านมีลูกทั้งหมดหกคน เขาเป็นคนสุดท้อง ดังนั้นจึงให้ชื่อว่าจ้าวลิ่ว
ก่อนที่ยังไม่มีอะไรนั้น ทุกคนต่างเรียกเขาเสี่ยวลิ่ว ลิ่วจื่อ ตอนนี้มั่งมีแล้ว ก็ไม่มีคนกล้าเรียกแบบนี้อีก ทุกคนต่างเรียกพี่ลิ่ว ท่านลิ่ว ตอนนี้ไอ้แก่คนหนึ่งในตระกูลหลินกล้าเรียกเขาว่าจ้าวลิ่ว เขาจะไม่โกรธได้ไงล่ะ
หลินจ้องอายุมากแล้ว ถูกจ้าวลิ่วตบไป ก็ล้มลงอยู่กับพื้นทันที
แต่ว่า ไม่มีใครไปพยุงเขา ทุกคนเกิดการหวาดกลัวกับแรงอาฆาตที่ออกมาจากตัวจ้าวลิ่ว
ดวงตาที่ดุร้ายของจ้าวลิ่วได้มองไปรอบๆที่เกิดเหตุ น้ำเสียงที่เย็นชา: “ในเมื่อรู้ว่าฉันคือจ้าวลิ่ว ยังกล้ามาลงมือกับผู้หญิงของฉัน ทุบตีให้หมดเลย!”
ไอ้นักเลงที่อยู่ข้างหลังก็ลุกทันที ทุบไปที่ข้าวของเครื่องใช้ของตระกูลหลินจนกระจัดกระจายหมด
“อ๊าก----”
ทำให้ผู้หญิงทุกคนในตระกูลหลินตกใจกลัวจนกรี๊ดออกมา สีหน้าซีดเซียว
บูมบามบูมบาม----
ทุกที่เต็มไปด้วยเสียงทุบตีของ พวกนักเลงก็ฉลาดไม่น้อย เลือกทุบแต่ของแพงๆ ของวัตถุโบราณ ภาพวาด สิ่งของที่เปราะบาง ถูกทุบไปหมดแล้ว
ดูจนโจวเหม่ยหยูนรู้สึกเจ็บปวด
“เครื่องลายครามสีขาวเงินของฉัน……”
“นั่นกำไรหยกมุกของฉัน”
“อย่านะ นั่นเป็นแก้วไวน์โบราณที่เฉียนหลงเคยใช้มาก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม