เสียงนี้ เป็นเสียงที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั้งหมด
ผู้หญิงคนหนึ่งสวมแว่นตาท่าทางมีการศึกษาสูง เดินเข้ามาด้วยอารมณ์เดือดดาล
รูปร่างไม่สูงมากนัก แต่นับได้ว่ามีท่าท่างกระฉับกระเฉง รูปร่างหน้าตางดงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กลับแสดงจุดยืน ขัดขวางเรื่องทั้งหมดอยู่คนเดียว
แต่ว่า สิ่งที่ถังเฉาประหลาดใจไม่ใช่สิ่งนี้ แต่เป็นสถานะของผู้หญิงคนนี้
หูจิ้งซู ตระกูลหูนั่นเอง
เธอก็อยู่ที่นี่
หูจิ้งซูมาถึง ถังเฉาก็ไม่จำเป็นต้องออกหน้าแล้ว
แต่เพราะเรื่องนี้ ความคิดเห็นในใจของเขาที่มีต่อหูจิ้งซูเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“คุณเป็นใคร?”
เด็กเหล่านั้น ไม่มีทีท่าหวาดกลัวหูจิ้งซูแม้แต่น้อย เด็กคนที่เป็นหัวโจก ยังกลับชี้หน้าด่าหูจิ้งซูเสียด้วยซ้ำ
หูจิ้งซู แสดงสีหน้าสงบนิ่ง: “พวกหนูเป็นลูกใคร คนตั้งมากมาย กล้ารังแกเด็กผู้หญิงตัวคนเดียว ทำเกินไปหน่อยแล้ว!”
“พวกเราเป็นลูกของใคร......”
บรรดาเด็กทุกคน ต่างก็หัวเราะ
แต่ว่า เสียงหัวเราะนั้น เป็นน้ำเสียงที่เหยียดหยามมาก
เด็กคนที่เป็นหัวโจกชี้ไปที่เพื่อนด้วยกันพูดว่า: “บอกเขาสิ พวกเรามาจากตระกูลไหน”
หลังจากนั้น มีเด็กอายุน้อยคนหนึ่ง เดินมายืนตรงด้านหน้าหูจิ้งซูพูดว่า: “ฟังให้ดี ๆ พวกเรามาจากเยี่ยนจิง เป็นลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ฉันชื่อหลินจื่อหานมาจากตระกูลหลิน!”
“เขาชื่อฉินซวน มาจากตระกูลฉิน และเขามาจากตระกูลถัง!”
หลินจื่อหานชี้ไปทางเด็กคนที่เป็นหัวหน้าโจกอายุมากสุด
เฮ้ย!
“ลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหรอ?”
ได้ยินคำพูด สีหน้าหูจิ้งซูเปลี่ยนไปในทันที ถอยหลังกลับโดยไม่รู้สึกตัว
คนที่ยืนมุงดูอยู่รอบ ๆ ยิ่งตกใจสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“มิน่าล่ะ ดูท่าทีเย่อหยิ่ง ถือตัว ที่แท้ก็เป็น ลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตู......”
“นับว่าเป็นโชคร้ายของเด็กหญิงคนนั้น ยั่วโมโหคนอื่นก็พอทำเนา ดันไปยั่วโมโหลูกหลานของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเสียนี่......”
“พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่นี่ แสดงว่าผู้ปกครองของพวกเขาก็ต้องอยู่ไม่ไกล”
“รีบไปกันเถอะ อย่ายุ่งเรื่องของพวกเขาจะดีกว่า”
เมื่อรู้ถึงสถานะของเด็กเหล่านี้ว่าเป็นลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตู คนที่มุงดูส่วนใหญ่ ไม่กล้าที่จะเข้าไปห้าม มิหนำซ้ำ แค่มองก็ไม่กล้ามอง หันหลังและเดินจากไป
พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูพูดคำเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขา บ้านแตกสาแหรกขาดได้แล้ว
ถังเฉาสะกิดชายวัยกลางคน คนหนึ่ง สอบถามว่า: “คุณลุง รบกวนถามหน่อย เมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรเหรอ?”
เขาอยากจะรู้ ทำไมถังเสี่ยวลี้ ถึงได้ทะเลาะกับลูกหลานของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู และเกือบจะโดนตบตี
ในแววตาของชายวัยกลางคน สงวนท่าทีพูดว่า: “ฉันก็ไม่ค่อยชัดเจน ประมาณว่าเด็กที่ชื่อฉินซวนคนนั้นกับเด็กตระกูลหลินคนนั้น กำลังสนทนาเรื่องราวในครอบครัวของพวกเขา อะไรนะ น้าสาวคนเล็กของเขาที่ได้ตัดขาดกับตระกูลไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ไปอยู่กับคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง และยังมีลูกต่ำ ๆ ด้วยกันอีกหนึ่งคน......”
“เด็กหญิงคนนั้นได้ยินเข้า จึงโต้แย้งเป็นวักเป็นเวร ผลสุดท้ายก็ถูกพวกเขาล้อมไว้”
พูดมาถึงตรงนี้ ชายวัยกลางคนพูดย้ำอีกว่า: “คุณน่ะ อย่าไปแส่หาเรื่องเลย รีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเถอะ ผู้ปกครองของเด็ก ๆเหล่านั้น อยู่ละแวกนี้ ทุกคนล้วนมาจากตระกูลหลวงของเมืองเยี่ยนจิง!”
“ขอบคุณมาก”
ถังเฉา ยิ้มและกล่าวขอบคุณ ขณะที่หันหลังกลับในวินาทีนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนมาขึงขังทันที
กล้าตบตีลูกสาวของเขา รนหาที่ตาย
อีกด้านหนึ่ง บรรดาเด็กทุกคนได้เผยสถานะของตนเอง ต่างก็มองหูจิ้งซู ด้วยสายตาเหยียดหยาม
“เด็กคนนี้ก็คือลูกของน้าเล็กคนเพศยากับไอ้คนไร้ประโยชน์ พวกเราต้องการสั่งสอนสักครั้ง ให้รู้ว่าใครเป็นใคร ทางที่ดีคุณก็อย่ามายุ่งเลย!”
ฉินซวนเด็กคนที่เป็นหัวโจก กับเด็กคนอื่น แม้จะไม่พูดอะไร แต่ยังคงหัวเราะเยาะมองไปทางหูจิ้งซู
หูจิ้งซู ใบหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล: “แม้พวกเธอจะเป็นลูกหลานของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แต่ก็ไม่สามารถรังแกเด็กผู้หญิง ยิ่งกว่านั้น เธอก็ยังเป็น......”
หูจิ้งซูพูดไม่ออก จึงหันหลังกลับไปมองถังเสี่ยวลี้
เธอแอบสืบข้อมูลและประวัติของหลินชิงเสว่ รู้อยู่แล้วว่าถังเสี่ยวลี้ เป็นลูกสาวของรุ่นพี่หลินชิงเสว่
หูจิ้งซูเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มมันสมองคนสำคัญของตระกูลหู ภายใต้อารมณ์ฉุนเฉียวในตอนนี้แน่นอนว่าต้องดูมีอำนาจ
ลูกหลานตระกูลหลวงในเยี่ยนตูเหล่านี้ เป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ จึงตกใจกับท่าทางที่มีอำนาจของหูจิ้งซู
สีหน้าเปลี่ยนในทันที
“คุณ กล้าที่จะแส่หาเรื่องเหรอ......?”
“คุณรอเดี๋ยวก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม