เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 554

บรรยากาศของห้องทำงานนี้เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันทีเพราะประโยคนี้ของเย่เซ่าเตี๋ย

ไม่ว่าจะเป็นถังเฉา หลินชิงเสว่ หรือลั่วเยนอวิ๋นกับถังหลิน ล้วนแต่มองไปที่เย่เซ่าเตี๋ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

พวกเขาล้วนแต่คิดไม่ถึงว่า เย่เซ่าเตี๋ยจะก่อกบฏต่อเย่หรูอี้ตรง ๆ อย่างไม่ไว้หน้าขนาดนี้ ทั้งยังประกาศศักดา เธอไม่มีคุณสมบัติ?

แต่สายตาของเย่หรูอี้ก็มือครึ้มขึ้นอย่างเข้มข้น เย็นยะเยือกหาที่เปรียบไม่ได้

แม้ว่าจะจะต้องเผชิญหน้ากับถังหลินที่เธอเกลียด เธอก็ยังไม่มีท่าทีเช่นนี้ปรากฏออกมา

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าในใจของเธอนั้น เย่เซ่าเตี๋ยนั้นน่ารังเกียจมากแค่ไหน

“ฉันจะมีคุณสมบัติหรือไม่ ก็ยังไม่ถึงตาเธอจะมาวิจารณ์”

เธอเอ่ยอย่างเย็นชา

“นั่นมันก็ไม่แน่นะ”

เย่เซ่าเตี๋ยเองก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นว่า “เธอเพิ่งจะกลับมาตระกูลเย่ได้ไม่นาน คุณปู่ไม่ไว้วางใจเธอมากเลยนะ สั่งให้ฉันมาดูแลเธอ ตอนนี้ฉันถามเธอว่าเธอรับสมัครยอดฝีมือมาได้แล้วเหรอ ไม่เกินไปหรอกมั้ง?”

เย่อี้หรูไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สายตาที่มองไปยังเย่เซ่าเตี๋ยมืดครึ้มและหนาวเหน็บยิ่งขึ้น

ถังเฉามองดูฉากนี้ก็รู้แล้วว่าถึงแม้ว่าเย่หรูอี้จะกลับตระกูลเย่แล้ว แต่คนของตระกูลเย่ก็ไม่ได้ให้การต้อนรับเธอเท่าไหร่

การดูแลนั้นดูน่าฟัง แท้จริงแล้วคือการแทรกแซงทุกด้าน

ถ้าหากว่าเย่หรูอี้ไม่ได้รับสมัครยอดฝีมือมาเข้าร่วมประชุมแดนเหนือได้ เช่นนั้นตระกูลเย่ก็จะถูกคัดตกรอบในทันที

“ไม่รบกวนหรอก ฉันตามหาคนที่เหมาะสมเจอแล้วล่ะ”

เย่หรูอี้เก็บออร่าที่อยู่บนร่างไป เอ่ยอย่างเย็นชา “ยิ่งไปกว่านั้น คนที่จัดงานปรึกษาหารือครั้งนี้ก็คือฉัน เธอต่างหากถึงจะเป็นคนที่ไม่มีคุณบัติคนนั้นน่ะ!”

“อย่างนั้นเหรอ? แล้วยอดฝีมือที่เธอรับสมัครมาล่ะ อยู่ที่ไหนกัน?”

เย่เซ่าเตี๋ยที่เผชิญหน้ากับการเหน็บแนมของเย่หรูอี้กลับไม่โมโหเลย รอยยิ้มบนใบหน้ากลับลึกล้ำยิ่งขึ้น

ก่อนจะมา เธอก็ไปสอบถามมาแล้ว เย่หรูอี้ร่วมมือกับตระกูลถัง ตระกูลลั่ว มาโจมตีตระกูลฉินที่มีความเป็นไปได้สูงสุดที่จะเป็นแชมป์ เรียกให้มาปรึกษาหารือกันครั้งนี้

ในความเป็นจริงกลับให้ผู้แข็งแกร่งที่เป็นตัวแทนของแต่ละตระกูลขึ้นต่อสู้ออกปากก็จบแล้ว

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันของตระกูลไหนแข็งแกร่งกว่า ใครที่มีอำนาจใจการพูดมากกว่ากัน

ผู้แข็งแกร่งเป็นที่เคารพ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

แต่ว่าเย่หรูอี้กลับมองไม่เห็นว่าด้านหลังของเย่หรูอี้มีผู้แข็งแกร่งอะไรจะตามมา

เธอชี้ขาดภาพรวมแล้วว่าจนถึงตอนนี้แล้ว เย่หรูอี้ก็ไม่ได้รับสมัครยอดฝีมือมาแม้แต่คนเดียว!

เย่หรูอี้กวาดตามองเธออย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง “ฉันบอกว่ารับสมัครมาแล้วก็คือรับสมัครมาแล้ว ต้องผ่านการเห็นด้วยจากเธอด้วยเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็เรียกเขาออกมาสิ!”

เย่เซ่าเตี๋ยเดินหน้าบีบบังคับเย่หรูอี้ไปอีกก้าว

ยิ่งเย่หรูอี้ขายผ้าเอาหน้ารอดอย่าคลุมเครือแบบนี้ เธอก็ยิ่งชี้ชัดข้อสันนิษฐานในใจ

“ใช่ ผมคิดว่าคุณเย่พูดจามีเหตุผล”

ทันใดนั้นถังหลินก็ออกปากเอ่ยว่า “หรูอี้ เรื่องที่คุณโชคร้ายมาผมได้ยินมาหมดแล้ว วันแรกที่มาเมืองเจียงเฉิงก็ทะเลาะกับสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงจนแยกกันด้วยความรู้สึกที่ไม่ดี รับสมัครคนมาไม่ได้ นี่มันไม่ได้ขายหน้าเสียหน่อย ผมช่วยคุณได้นะ”

ตอนที่พูดคำนี้บนใบหน้าของถังหลินมีความหยิ่งผยองอยู่

ถึงแม้ว่าเย่หรูอี้จะเป็นคู่หมั้นของเขา แต่เนื่องจากท่าทีเย็นชาที่เธอมีต่อตน ถังหลินจึงตัดสินใจร่วมมือกับเย่เซ่าเตี๋ย กดดันเย่หรูอี้ดี ๆ สักหน่อย

“สามีของฉันก็คือผู้เข้าแข่งขันที่เป็นตัวแทนตระกูลเย่ไปต่อสู้”

ทันใดนั้นน้ำเสียงเย็นยะเยือกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

สายตาของทุกคนรวมกันอยู่บนร่างของหลินชิงเสว่ในชั่วพริบตา

แม้แต่ตัวของเย่หรูอี้เองก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก

เธอไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าหลินชิงเสว่จะพูดเพื่อเธอ

เย่เซ่าเตี๋ยมองหลินชิงเสว่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร บนใบหน้าของเธอถึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อหลินชิงเสว่ เย่เซ่าเตี๋ยมองไปยังเย่หรูอี้ “ที่เธอพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ?”

เดิมทีเย่หรูอี้คิดอยากจะประกาศเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ว่าหลินชิงเสว่ได้ประกาศแทนเธอไปแล้ว ทำได้เพียงพยักหน้า

“ใช่”

“ฮ่า ๆ ๆ...”

ทันใดนั้นเย่เซ่าเตี๋ยก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

แม้แต่ถังหลินก็ยังหัวเราะตาม

“เย่หรูอี้ เธอไม่ต้องหาคนที่ไม่มีความสามารถมาทำเป็นว่ามีความสามารถที่นี่เอาตามใจเพื่อที่จะรักษาหน้าของตัวเองหรอกมั้ง?”

บนใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน มองเย่หรูอี้แล้วเอ่ยว่า

“เขาเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลหลิน มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเย่ของเธอ?

ถังเฉาก็คล้อยตามไปด้วย

เรื่องที่ถังเฉาตอบรับคำเชิญของเย่หรูอี้ นอกจากถังหลินและเย่เซ่าเตี๋ยแล้ว คนอื่น ๆ ต่างรู้กันหมด ดังนั้นจึงไม่ได้แปลกใจมากเกินไป

“แต่ผมเป็นตัวแทนตระกูลเย่ไปต่อสู้จริง ๆ”

ถังเฉาส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ ยกน้ำชาด้านหน้าขึ้นมาดื่ม

เห็นถังเฉาตอบรับ รอยยิ้มบนใบหน้าของถังหลินกับเย่เซ่าเตี๋ยก็หายไปในทันที มองเขาราวกับมองเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น

จ้องมองอยู่นาน สุดท้ายเย่เซ่าเตี๋ยก็โบกไม้โบกมือ “นี่มันเป็นไปไม่ได้ พวกเธอสมรู้ร่วมคิดกันมาก่อนแล้วแน่ ๆ”

“ใช่ ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกเชิญมาได้อย่างไร?”

ถังหลินเองก็ไม่เชื่อ

ถังเฉาไม่ได้อธิบายต่อเรื่องนี้ เพียงแค่มองเย่หรูอี้กับหลินชิงเสว่ทีหนึ่งอย่างจนปัญญา

พูดความจริงออกมาแล้ว แต่คนอื่นไม่เชื่อเองนี่!

“เย่หรูอี้ เธออย่าลืมนะว่าเธอกำลังแบกรับอะไรอยู่ เธอเคยสาบานต่อหน้าทุกคนในตระกูลเย่ว่าจะเป็นตัวแทนตระกูลเย่ชิงแชมป์ประชุมแดนเหนือมาให้ได้ ตอนนี้เธอกลับหาไม่ได้แม้แต่ยอดฝีมือเพียงคนเดียว จะให้ฉันเชื่อเธอได้อย่างไร?”

เย่เซ่าเตี๋ยมองเย่หรูอี้ด้วยสายตาเยียบเย็น

ด้วยความรวดเร็ว เธอเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีก “แต่ว่าไม่เป็นไร ฉันหายอดฝีมือมาได้ก็พอแล้ว”

เพิ่งจะสิ้นเสียง เย่เซ่าเตี๋ยก็ตบมือ “เข้ามาสิ”

ประตูของห้องทำงานเปิดออก คนวัยกลางคนสวมชุดของราชวงศ์ถังทั้งตัวเดินเข้ามา

บุคลิกสง่าผ่าเผย อยู่นิ่ง ๆ ก็น่ายำเกรง คาดไม่ถึงเลยว่าจะสวมชุดนักบวชเต๋าของสมาคมการต่อสู้อยู่บนร่าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม