เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 583

สรุปบท บทที่ 583 เขารู้วิชาแรงภายใน: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 583 เขารู้วิชาแรงภายใน – ตอนที่ต้องอ่านของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

ตอนนี้ของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 583 เขารู้วิชาแรงภายใน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ฉับพลันนั้น ฉินกวนฉีสีหน้าบึ้งกระด้างขึ้นทันที สายตาที่จ้องมองถังเฉาเปลี่ยนเป็นคมเฉียบ

“ฟังเข้าใจแล้วมั้ย”

พูดจบ สีหน้าถังเฉาเต็มด้วยการยิ้มเยาะ มองหน้าฉินกวนฉีแล้วพูด

“นี่เป็นคำพูดของลูกพี่ลูกน้องผมจริงหรือ ?”

ฉินกวนฉีหรี่ตาพูดว่า: “หรือคุณอ้างลูกพี่ลูกน้องผมแล้วพูดกับผมเอง”

น้ำเสียงฉินกวนฉีแม้นดูยังคงราบเรียบ แต่ในสายตาคนรู้จะเห็นได้ว่า เขาไม่สามารถคงบุคลิกความเป็นสุภาพบุรุษก่อนหน้านี้ได้

ยิ่งกว่านั้นในตาแคบเรียวของฉินกวนฉี แวบผ่านวิญญาณฆ่าที่ซ่อนเร้นอยู่

ถังเฉาหัวเราะ ยกถ้วยน้ำชาจิบไปคำหนึ่ง: “คุณคิดแบบไหนก็คงแบบนั้นแหละ ไหน ๆ สำหรับผมแล้ว ที่สุดมันก็คงครือกัน”

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉินกวนฉีกลับมีรอยยิ้มขึ้นมา เอ่ยชมว่า: “ไม่เป็นที่ต้องละอายเลยที่เป็นถึงลูกเขยตระกูลลิ้มในตระกูลหลวง หากแม้นไม่มีฝีมือบ้าง คงไม่สามารถเป็นได้”

ถังเฉาผงกหัว: “อันนี้ผมเห็นด้วยนะ ลูกเขยตระกูลลิ้มนี่ไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ เลยจริง ๆ มีบางคนคิดอยากจะเป็นยังเป็นไม่ได้เลย”

“……”

และแล้ว ฉินกวนฉีก็ไม่ขอต่อความให้สาวยืดต่อไป

ถ้าหากเป็นเพียงคำด่าทอกันตรง ๆ สำหรับนิสัยฉินกวนฉีเองแล้ว เขาทำได้ระดับใครจะรักใครจะชังไม่สะท้าน

แต่ถ้าก้าวล่วงถึงเรื่องคาในใจของฉินกวนฉีแล้ว ย่อมได้ผลทำให้เขาเดือดโกรธได้

เป็นต้นว่าเรื่องอำนาจอิทธิพล

อีกกระทั่งเรื่องผู้หญิง

หลินชิงเสว่ ก็คือผู้หญิงคนนั้น

แต่ทว่า ฉินกวนฉีไม่ได้ขึ้งโกรธเป็นจริงปานนั้น

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ยิ้มแล้วมองถังเฉา พูดว่า: “คุณถัง เกือบถึงโรงแรมที่พักของคุณแล้ว ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าลูกพี่ลูกน้องผมพูดอะไรกับคุณ”

“นิสัยปล่อยตัวไม่ยึดติดแบบคุณถังนี่ผมชอบมากเลย ผมรู้สึกเราเข้ากันเป็นเพื่อนได้ง่ายนะ”

ฉินกวนฉีพร้อมกับยิ้มอย่างนิ่มนวลบนใบหน้า ยื่นมือข้างหนึ่งไปให้ถังเฉา

ถังเฉาถอนใจลึก ๆ อยู่ในใจ

มิน่าเล่าที่ฉินกวนฉีสามารถสยบทางฝ่ายฉินผู่หยางได้ จนขึ้นมาในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลฉินสมัยหน้าได้

ตอนที่ฉินผู่หยางขายังไม่ด้วน ก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาชนะฉินกวนฉีได้ ตอนนี้ของฉินผู่หยางที่ขาด้วน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

มองเงาไม้ที่ถอยหลังของสองข้างทาง ถังเฉาหัวเราะ: “คุณพูดถูก เวลามันกระชั้นละ แต่ผมก็มีบางเรื่องที่อยากจะขอความกระจ่างจากคุณ”

“หรือไม่งั้น คุณช่วยตอบคำถามผมก่อน”

ฉินกวนฉีขมวดคิ้ว ในดวงตาแวบผ่านความเย็นเยือกเข้ามา

“เรื่องไร้สาระที่ไม่มีความหมายก้อย่าถามนะ”

เขาเอ่ยพูด

ก็ด้วยความอยากรู้ว่าฉินผู่หยางพูดอะไรกับถังเฉา ฉินกวนฉีกลับเลือกที่จะอดกลั้น

แม้แต่ชายฉกรรจ์หุ่นเจดีย์ยักษ์ทีขับรถอยู่ตอนหน้ารถ ก็ยังหันหน้ามองฉินกวนฉีอย่างฉงนแวบหนึ่ง

อย่างเงียบเชียบนุ่มเนียน ชายฉกรรจ์หุ่นเจดีย็ยักษ์ลดความเร็วของรถ ดึงหน่วงเวลาช้าลง

ถังเฉาหัวเราะอย่างเบิกบาน: “รับประกันได้ว่าไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่แม้นว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระก็จะเป็นไรไป ? ก็คุณชายฉินบอกว่าชอบฟังเรื่องไร้สาระไม่ใช่หรือ ?”

ฉินกวนฉีไม่พูดอะไร ให้ชัดเจนได้ว่าเขาไม่ต้องการเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องจำพวกนี้

รอยยิ้มบนหน้าของถังเฉาค่อย ๆ ถูกเก็บขึ้นทีละน้อยทีละน้อย เพ่งมองฉินกวนฉีพูดว่า: “ไม่ทราบว่าคุณชายฉินได้เคยได้ยินชื่อ ‘ฉินเจียนเวย’ นี้หรือไม่ ?”

“……”

พอถังเฉาพูด ‘ฉินเจียนเวย’ ชื่อนี้ออกมา ทันทีนั้น ภายในดวงตาฉินกวนฉีโฉบผ่านแสงเย็นเยือกเข้ามาสายหนึ่ง

“คุณทำไมถึงรู้จักชื่อนี้ ?”

ฉินกวนฉีไม่ได้ตอบคำถามถังเฉา แต่กลับย้อนถามด้วยเสียงเย็นเฉียบ

ถังเฉายิ้มอย่างไร้ร่องรอยของความอบอุ่น: “ผมจะรู้จักชื่อนี้อย่างไรคุณก็อย่าไปสนเลย เพียงให้คุณรู้เรื่องหนึ่งว่า ผมกับคนบ้าเพลงนั่นสนิทกันมาก สนิทกันอย่างมาก ๆ”

“เรื่องที่คุณทำไว้กับคนบ้าเพลง ผมรู้เรื่องหมดแล้ว”

ตามจากคำพูดของถังเฉาเพิ่งจะจบ อุณหภูมิในรถดูเหมือนลดฮวบลงไปถึงจุดเยือกแข็ง

ในขณะนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาได้เหือดหายไปหมด เปลี่ยนมาแทนที่ด้วยความเยือกเย็นเห็นแล้วหนาว

ฉินกวนฉีก็จ้องเขม็งอยู่ที่ตัวถังเฉา

คำพูดนี้ส่งพลังสัญญาณที่ยิ่งใหญ่มาก

“เดี๋ยวก็จะถึงโรงแรมแล้ว ผมว่าคุณรีบบอกมาดีกว่า”

ถังเฉาหัวเราะฮาฮาพูดว่า: “ฉินผู่หยางก็เป็นตัวอย่างอย่างดีให้คุณได้เห็นต่อเนื่องกันถึงสองครั้งแล้วนะ ว่าอย่ากระทบให้คนของผมโกรธ แต่แล้ว คุณทำไมไม่รู้ฟัง ?”

เผชิญหน้ากับการกดดันบังคับขนาดนี้ ฉินกวนฉีกลับหัวเราะออกมา

“จริง ๆแล้ว ไอ้ลูกพี่ลูกน้องไม่เอาไหนของผมนั่น มันได้ทำเป็นตัวอย่างให้ผมอย่างดีแล้ว แต่ว่า ตัวอย่างที่เขาทำ เรียกว่าเป็นตัวอย่างไม่ได้”

ฉินกวนฉีหัวเราะพลางพูดว่า: “พรสวรรค์อยู่ด้านซ้าย คนบ้าอยู่ด้านขวา ไอ้นี่มันคนบ้าอย่างหัวจรดท้ายเลยแท้ ๆ”

“แล้วคุณจะเลือกอยู่ตรงกลางระหว่างพรสวรรค์กับคนบ้าดีไหม ให้เป็น.........คนตาย”

ถังเฉายิ้มจืด ๆ

เศษแก้วในมือได้ขยับคืบหน้าไปอีกนิด

และแล้ว คอของฉินกวนฉีเกิดเป็นแนวเส้นเล็ก ๆมีเลือดซึมซิบ ๆ

เลือดสด ๆ เริ่มไหลลงมาช้า ๆ

“คุณชาย!”

ชายฉกรรจ์หุ่นเจดีย๋ยักษ์ร้องเอะอะ สีหน้าตื่นตระกนก

แต่ทว่า ฉินกวนฉีกลับมีสติสีหน้าราบเรียบอย่างปกติ แถมยิ้มเรียบ ๆ

เขาเอามือปาดเลือดสด ๆ นั้น ใส่เข้าไปในปากตัวเองลิ้มชิมดู

“นี่มันรสชาติของเลือดเลยนะ.....”

ฉินกวนฉีเหมือนกับว่าสะท้อนใจ พูดบ่นเองพึมพำ

ถังเฉากำลังคิดจะลงมือ ทันใดนั้น ดูเหมือนมีปรากฏการเหนี่ยวนำบางอย่าง สีหน้าพลันเปลี่ยน

เขารีบปล่อยมือออกด้วยสัญชาตญาณ

ส้วบ!

ฉินกวนฉีลงมือปานสายฟ้าแลบ ฟาดไปหนึ่งฝ่ามือใส่ถังเฉา

บรึม!

พลังอากาศที่หนักหน่วงระเบิดขึ้น นั่นมันคือแรงภายใน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม