หมัดนี้ซัดออกมาสุดเหี้ยมอย่างยากหาที่เปรียบได้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่ถังเฉาได้พบมาหลังจากกลับจากเมืองหลงเฉี่ยนแห่งแดนเหนือ ซึ่งก็พอจัดได้ให้อยู่ในห้าอันดับต้น
พื้นที่ภายในรถคับแคบ อีกทั้งถังเฉากับฉินกวนฉีก็นั่งหันหน้าชนกัน ฉะนั้น ระยะห่างของทั้งสองคนมีเพียงไม่กี่ฟุต
ฉินกวนฉีปล่อยหมัดไปอย่างกะทันหัน พุ่งตรงใส่หน้าของถังเฉา เป็นคนทั่วไปคงไม่มีทางหลบได้
ยิ่งไปกว่านั้นฉินกวนฉีก็คงมองเห็นแล้วว่าถังเฉาไม่มีทางหลบพ้นหมัดนี้แน่ ฉะนั้นในขณะที่ปล่อยหมัดออกไป ที่มุมปากเต็มไปด้วยรอยยิ้มกระหยิ่ม ดั่งเหมือนว่าได้มองเห็นภาพที่ถังเฉาโดนหมัดเข้าเต็มหน้าสลบเหมือดไปแล้ว
แต่ทว่า ถังเฉามีปฏิกิริยาตอบโต้ได้รวดเร็วมาก ย้อนให้เริ่มตั้งแต่ฉินกวนฉีกำลังปล่อยพุ่งหมัดออกมา ก็ได้ขยับตัวแล้ว
เขาแหงนตัวไปข้างหลังก่อน แนบติดแน่นกับหมอนไหมแท้ที่พนักพิงเบาะนั่งหลัง
หมัดที่ตามพุ่งตามเข้ามา ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วบนจอรับภาพในตาของถังเฉา
ในชั่วขณะที่กำลังจะกระทบถูก ถังเฉาเอี้ยวหัวไปเล็กน้อย
และแล้วหมัดของฉินกวนฉีก็ซัดเข้าไปกับความว่างเปล่า
แรงเฉื่อยที่หนักหน่วงพาหมัดนี้ทุ่มทิ้งไปข้างหลัง
ปุ!
ไม่มีเสียงหนักหน่วงของการกระทบกระแทก ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีเสียงโอดโอยพาสยองขวัญ
เพราะว่าหมัดของฉินกวนฉีนั้นทุ่มทิ้งใส่ลงไปกับที่นั่งเบาะหลัง
แขนทั้งแขนจมหายไปในพนักพิงหลังเบาะผ้าไหมแท้ พอขยับถอนมือออกนั้นเอง ปุยนุ่นเป็นขยุ้ม ๆ ทะลักออกมา ปลิวฟุ้งกระจายว่อนภายในรถ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในช่วงพริบตาเดียว สั้น ๆ แค่ชั่วพริบตา อันเป็นภาพรวมของรายละเอียดการห้ำหั่นกันของสองชายหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นถังเฉา หรือฉินกวนฉี ล้วนหากมีพลาดไม่ระวัง ก็จะต้องบาดเจ็บจากฝ่ายตรงข้าม
ครืดดด..!
ความเงียบภายในรถ ถูกเสียงการหยุดรถกระทันหันทำลาย
ก็เพราะการเหยียบเบรกของชายฉกรรจ์หุ่นเจดีย์ยักษ์ที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถ พารถจอดเข้าข้างทาง
ด้วยสีหน้าตื่นกลัวเขามองหน้าถังเฉาและฉินกวนฉี
กระบวนท่าที่ปล่อยออกมาของทั้งสอง เขย่าขวัญสะท้านลึกลงไปสุดขั้วหัวใจ
ตัวเขาเองก็พอคุยได้ว่าเป็นยอดฝีมือของผู้ฝึกวิชาแรงภายในแล้ว แต่เทียบกับถังเฉาเขาเก่งกาจกว่าอีกมาก และดูความต่างของฝีมือทั้งสองคนนั้น เทียบระยะห่างกันก็เพียงแค่เส้นขีด
แต่ทว่า ฉินกวนฉีกลับยิ่งทำให้ชายฉกรรจ์หุ่นเจดีย์ยักษ์ต้องตกใจยิ่งกว่า
มิน่าเล่า ถูกคนเอาเศษแก้วคมจี้คอหอยไว้ยังสงบนิ่งแบบคลื่นไม่กระฉอก ก็เพราะโดยตัวเอง ก็เป็นยอดฝีมืออยู่แล้วนี่เอง !ยอดฝีมือแล้วทำไมถึงยังต้องใช้บอดี้การ์ด ?
ถ้าหากจะพูดว่าคุ้มครองป้องกัน คงน่าจะฉินกวนฉีคุ้มครองป้องกันเขา
ตัวเขาเองนี่แหละจึงใช่คนที่อ่อนที่สุด
ฮูว์ ๆ ๆ......
ลมโชยราตรีรอบด้าน เป่าจนคนที่อยู่ผมเผ้าปลิวยุ่ง
ถังเฉายืดตัวขึ้นนั่งตรง มองไปที่ฉินกวนฉีด้วยแววตาเริ่มจากตื่นงง ค่อย ๆ ฉายให้เห็นแสงใยของความตื่นเต้นดีใจ
“แรงภายใน คุณใช้แรงภายในเป็น”
ถังเฉาจ้องเขม็งที่ฉินกวนฉี พูดอย่างตื่นเต้นดีใจ
ฉินกวนฉียิ้มเรียบ ๆ ไม่มีออกอารมณ์กระเพื่อมไหวใด ๆ
เอวของเขายืดตรงเป็นด้ามหอกทวน ไม่เคยงอคด
“เป็นเรื่องปกติมาก”
เขาหัวเราะหุ ๆ พูดว่า “ผู้พิทักษ์แดนตะวันตกผู้อาวุโสมู่ตงเฟิง กับท่านผู้เฒ่าตระกูลฉินของเราเป็นเกลอเก่ากัน ท่านได้นำมาซึ่งวัฒนธรรมแห่งวรยุทธ มวลชนในตระกูลฉินของเราล้วนชื่นชอบในการยุทธ ดุจปลาไนทะยานข้ามประตูมังกร ผมก็แค่เพียงหนึ่งในปลาไนเหล่านั้น บังเอิญโชคได้อำนวยให้มากหน่อย จึงกระโดดข้ามไปได้”
ถังเฉาเข้าใจได้แจ่มชัดในคำอุปมาที่เปรียบเทียบหมายถึงอะไร
ปลาไนทะยานข้ามประตูมังกร ไปทะยานหาอะไร ?
นั้นคือสุดยอดของวิชาแรงภายใน!
พวกที่ไม่ได้ฝึกถึงขั้นแรงภายใน ทั้งชั่วชีวิตก็เป็นได้แค่แค่นั้นเอง
หากแต่ผู้ที่ทะยานข้ามประตูมังกรแล้ว ก็จะเข้าสู่นภาฟ้าที่ยิ่งใหญ่ ทะเลกว้างให้พอใจปลาทะยาน นภาฟ้าสูงให้แล้วแต่นกจะบินถลา
ชงักหยุดนิดหนึ่ง ฉินกวนฉีสาดสายตามองไปที่ถังเฉาอีกแล้วพูดยิ้ม ๆ: “ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะลงมือกับผมจริง ๆ ยังไม่เคยมีใครสามารถกดดันให้ผมโชว์ไพ่ใบสุดท้ายของผมใบนี้เลย คุณเป็นคนแรก และก็หวังว่าเป็นคนสุดท้ายด้วย”
ถังเฉาถอนหายใจเบา ๆ อีกครั้ง
ฉินกวนฉี พูดได้ว่าในบรรดาเหล่าทายาทตระกูลยักษ์ที่เป็นศัตรูกับเขา ตอแยยากที่สุด มีบทบาทที่น่ากลัวที่สุด
ปัญญาหาไร้คู่เทียบ ความอดกลั้นสูงการแสดงออกแต่น้อย อีกวิชาแรงภายใน ทั้งฐาณะตระกูลเลื่องลือ รูปโฉมสำอางค์ชวนหลงใหล
พระเจ้าผู้สร้างโลกดูเหมือนเอาจุดเด่นต่าง ๆ เท่าที่มีใส่ไว้ที่คนคนนี้หมด
ยกประเด็นอื่นออกไม่พูดถึง ทุกสิ่งส่วนนำมาเปรียบเทียบ กวาดมองไปทั่วทั้งเยี่ยนจิง ก็คงมีแต่ฉินกวนฉี และหลินชิงเสว่ จึงจัดได้ว่าเป็นคู่สมตระกูลเหมาะที่แท้จริง
ฉินผู่หยาง ห่างไกลไม่มีทางเทียบ
“ฉินผู่หยางหนอฉินผู่หยาง แกนี่ช่างสรรหาดึงมาซึ่งคู่ต่อสู้ที่เหมาะกับข้าจริง ๆ”
ถังเฉาแอบนึกอยู่ในใจ
สายตาจ้องเขม็งที่ฉินกวนฉี ส่วนลึกในตาดูเหมือนฉายแสงบางอย่างที่แตกต่าง
แววตาถังเฉาที่มองฉินกวนฉี เป็นการมองที่ไม่เคยมองกับทายาทตระกูลยักษ์อื่น ๆ เลย
ไม่ได้หวาดกลัว ไม่ใช่หวั่นเกรง
แต่กลับเป็น.........ชื่นชมใคร่ยินดี
ถังเฉาชื่นชมใคร่ยินดีมานานแล้ว ในที่สุดก็ได้ปรากฏมีผู้เหมาะสมที่จะเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร
ฉินกวนฉี คุณสมบัติเพียงพอ
“คุณช่างทำให้ผมได้ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่งจริง ๆ”
ถังเฉาหัวเราะพลางพูดว่า “หากว่าคุณไม่ได้ทำร้ายคนบ้าดนตรี หากว่าคุณไม่ได้เกิดในตระกูลฉิน และหากว่าห้าปีที่แล้วผมไม่ได้ไปฟาดหักขาฉินผู่หยาง เราคงจะได้เป็นเพื่อนคู่หูที่ดีมาก ๆ เลยนะ”
“คุณก็เหมือนกัน”
ฉินกวนฉียิ้มตอบ “ถ้าหากคุณไม่รู้จักกับฉินเจียนเวย ถ้าหากคุณไม่ได้ฟาดขาของลูกพี่ลูกน้องผมหัก ถ้าหากว่า คุณไม่ใช่สามีของหลินชิงเสว่ มันก็เป็นอย่างที่คุณพูดจริง ๆ แหละ”
“เสียดายเพียงเพราะตัวคำว่าหากว่า”
ถังเฉาพูดอย่างสะท้อนใจ
ฉินกวนฉีหัวเราะ “ลูกพี่ลูกน้องผมคนนี้ ก็ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมันอะไร รู้ทั้งรู้ว่าพวกคุณเป็นตระกูลศัตรูคู่อริ ยังกลับคิดไปขอร่วมมือกับคุณ มันยังมีอะไรน่ากลัวกว่านี้อีกไหม ?”
ถังเฉาพูดด้วยมาดจริงจัง “คุณก็ทายถูกแล้วนี่ ทำไมยังต้องมาถามผมอีก ?”
ฉินกวนฉีไม่พูดต่ออะไรอีก เพียงแต่ค่อย ๆ ผ่อนคลายสภาพของตัวเอง
“ถึงที่พักของคุณแล้ว”
ถังเฉามองลอดออกไปข้างนอก จากที่นี่ไปถึงโรงแรมยังห่างอยู่ระยะหนึ่ง แต่เดินไปก็คงไม่เกินกำลังขาสักสิบนาที
ถังเฉาก็ไม่มีต้องเกรงใจ เปิดประตูรถเตรียมก้าวจากไป
ฉินกวนฉีพูดขึ้นอีกว่า “คำถามที่คุณถามผม ผมคิดว่าคงได้ตอบคุณไปแล้วนะครับ”
ถังเฉาหยุดชงักตัวที่กำลังขยับ หันกลับมองเขาอย่างใช้ความคิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม