เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 616

สรุปบท บทที่ 616 ความโกรธที่แผดเผา: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

สรุปตอน บทที่ 616 ความโกรธที่แผดเผา – จากเรื่อง เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน

ตอน บทที่ 616 ความโกรธที่แผดเผา ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดยนักเขียน เป๋ต้งสู่เพี่ยน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด เร็วจนผู้ชมทั่วสนามไม่ทันได้สังเกต

รอให้พวกเขารู้ตัวอีกที ก็เห็นว่าเย่เทียนหลงได้นอนราบลงบนขอบสังเวียนเรียบร้อยแล้ว

อีกแค่นิดเดียว เขาก็คงตกไปข้างล่างนั่น

ตามกฎของการประชุมแดนเหนือ หากลงจากสังเวียน หรือนับถอยหลังสิบวินาทีแล้วไม่ลุกขึ้นมา ก็ถือว่าแพ้

เท้าข้างหนึ่งของเย่เทียนหลง ได้เหยียบไปทางหน้าผาที่สูงชันนั่นแล้ว

แต่ว่า นี่มันก็น่าตกใจพอสมควร

ผู้ชมทั้งหมดยังไม่ทันได้สังเกตว่าหงเทียนเฉินได้ลงมือด้วยวิธีใด เย่เทียนหลงถึงได้มีสภาพเหมือนว่าวที่เชือกขาดนะหลุดลอยออกไปแบบนั้น

เมื่อกลับมาดูทางหงเทียนเฉิน แม้แต่เท้าของเขาก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้มีท่าทีจริงจัง เย่เทียนหลงก็บาดเจ็บจนมีสภาพไม่ไหวแบบนี้ไปแล้ว

" สมกับที่เป็นมือวางอันดับสองของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงจริงๆ นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! "

" คนคนนั้น เป็นหัวหน้าสมาคมของสมาคมการต่อสู้หมิงจูใช่ไหม? หัวหน้าสมาคมของสมาคมต่อสู้อ่อนปวกเปียกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? "

" ฮ่าฮ่า ถ้าเอาคนประเภทนี้มาเป็นหัวหน้าสมาคมได้งั้น ฉันก็คงต้องลองไปสมัครสักตั้งล่ะ! "

.......

ความแข็งแกร่งของหงเทียนเฉิน เกินกว่าที่ใครจะจินตนาการ จนทำให้เกิดเสียงฮือฮาสนั่นจากผู้ชม

ทุกคนต่างรอคอยการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้ตกตะลึงในความแข็งแกร่งที่หงเทียนเฉินมี แต่กำลังขบขันอยู่กับความอ่อนปวกเปียกของเย่เทียนหลง แถมยังพลอยกร่นด่าสมาคมการต่อสู้หมิงจูไปด้วย จนทำให้สีหน้าของสมาชิกสมาคมการต่อสู้หมิงจูดูแทบไม่ได้

แม้แต่หลินชิงเสว่ พวกเขาเองก็มีสีหน้านิ่งเฉย

" ฮ่าฮ่าๆ มันน่าขายหน้าจริงๆ นะเนี่ย สกิลแค่นี้ยังจะกล้ามาร่วมการประชุมแดนเหนืออีก! "

" แม้แต่หมัดของประธานหงน้องนายยังรับไว้ไม่ไหวเลย! "

" คนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องให้คุณหงต้องลงแรง พวกเราก็สะใจแล้ว! "

สมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงทางนี้ส่งเสียงหัวเราะอย่างสบายอารมณ์ แต่หลินชิงเสว่ที่อยู่ฝั่งสมาคมการต่อสู้หมิงจูนี้ กลับไม่ได้รู้สึกราคายหูแต่อย่างใด

" เทียนหลง...... ยืนขึ้นมาสิ! "

ทางตระกูลเย่นั้น เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหลงล้มลง สีหน้าของเย่หรูอี้ก็เปลี่ยนไปจนแทบจะดูไม่ได้

เธอกำมือแน่นๆ จนเล็บฝังลึกเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเอง

ตอนนี้จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ จึงทำได้เพียงให้กำลังใจเย่เทียนหลงเท่านั้น

" ฮ่าฮ่าๆ เย่หรูอี้ นี่เธอยังหวังให้คนของเธอลุกขึ้นมายังงั้นเหรอ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก "

เย่เซ่าเตี๋ยที่อยู่ข้างๆ ขำออกมายกใหญ่ ใบหน้าแสดงอารมณ์เยาะเย้ย

เมื่อเห็นว่าคนที่เย่หรูอี้หามานั้นถูกคนที่ลอนเชิญมาโจมตีจนพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย ในใจหล่อนก็สบายอารมณ์อย่างหาอะไรเทียบไม่ได้

" คนที่เธอหามา ก็เป็นแค่ขยะ เดนมนุษย์ คนที่จะนำพาให้ตระกูลเย่เจิดจรัสและรุ่งโรจน์ก็คือฉัน เธอมันก็แค่หมาข้างถนนเท่านั้นแหละ! "

ภายใต้อารมณ์ที่คุกรุ่นนั่น ใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยแสดงความบ้าข้างบางอย่างออกมา ดูดุร้ายอย่างเห็นได้ชัด

เพี๊ยะ!

จากนั้นวินาทีต่อมา เสียงหัวเราะก็หายไปทันที ใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยถูกกระทบเข้าแรงๆ อย่างจัง ผุดขึ้นเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้าที่ชัดเจน

นี่มันเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้คาดคิด จนทำให้เย่เซ่าเตี๋ยตะลึงงัน แม้แต่เย่หรูอี้ก็ยังตกใจจนต้องหยุดอยู่กับที่ ยืนช็อกอยู่ข้างๆ

พวกเธอมองเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่เปี่ยมไปด้วยความโมโหโกรธา

" พวกเราแพ้ได้ แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกพี่ชายของฉัน! "

ดวงตาทั้งสองข้างของจ้าวเย็นหรานแดงฉาน และมองไปที่เย่เซ่าเตี๋ยด้วยสายตาโกรธเคือง น้ำเสียงที่พูดเต็มไปด้วยความโมโห

เย่เซ่าเตี๋ยก็โกรธเช่นกัน ก่อนจะชี้นิ้วไปที่หน้าของจ้าวเย็นหรานแล้วด่าขึ้นมา " อีผู้หญิงสาระเลวนี้มาจากไหน ถึงได้กล้ามาตบฉัน ฉันเป็นถึงคุณหญิงในราชนิกุลในเยี่ยนตู ตระกูลพวกแกจบเห่แล้ว! "

เย่หรูอี้ไม่คิดเลยว่าจ้าวเย็นหรานแต่ใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ เย่เซ่าเตี๋ยเธอยังไม่กล้าตบเลย แต่จ้าวเย็นหรานดันกล้าตบซะยังงั้น

จ้าวเย็นหรานไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวเลยสักนิด เย่หรูอี้มากันท่าทั้งสองไว้ได้ทันเวลา ก่อนจะมองเย่เซ่าเตี๋ยเมื่อสายตาเย็นชา : " เธอเป็นน้องสาวของฉันที่อยู่เมืองหมิงจู ฉันขอปกป้องเธอเอง "

มาพูดคำนั้นออกไป จ้าวเย็นหรานก็มองไปยังเย่หรูอี้ด้วยอารมณ์ที่คาดไม่ถึง น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา

ถ้านึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเย่หรูอี้จะกล้าพูดคำนี้

เธอรู้สึกว่าตัวเองติดค้างเย่หรูอี้มาโดยตลอด เพราะพ่อของเธอจ้าวเหล่าลิ่ว ทำให้แม่ของเย่หรูอี้ต้องด่างพร้อย ถ้าดูตามความเป็นจริง เย่หรูอี้ควรจะมองจ้าวเย็นหรานสิถึงจะถูก

แต่เย่หรูอี้ไม่ได้ทำเช่นนั้น แถมยังช่วยเธอไว้อีก

เวลานี้ เย่อู๋เหินก็ก้าวเท้าออกมาข้างหน้า แล้วพูดว่า : " คุณหญิง การประชุมแดนเหนือมันสำคัญมากรอให้จบงานนี้แล้วค่อยเช็กบิลก็ยังไม่สายนะครับ "

เย่เซ่าเตี๋ยไปสงบสติอารมณ์ลงมา ก่อนจะมองไปที่จ้าวเย็นหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก " อีผู้หญิงสาระเลว แกจำไว้ให้ดีนะ การประชุมแดนเหนือสิ้นสุดเมื่อไหร่ ฉันจะฉีกหน้าแกให้แหลกไปเลย! "

จากนั้นไม่นาน ใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยก็เผยรอยยิ้มที่ดูดุร้ายจนน่าขนลุกออกมา

" พวกเธอรอดูเถอะ คุณหงจะไม่ทำให้เย่เทียนหลงอยู่ดีแน่! "

.........

บนสังเวียนนั้น เย่เทียนหลงนอนหอบหืดๆ อยู่บนสังเวียน มุมปากยังคงมีรอยเลือด เห็นอย่างชัดเจนว่าได้รับบาดเจ็บ

เวลานี้ หงเทียนเฉินเดินเข้ามา มองจากจุดที่ยืนลงไปที่เขา : " ฉันให้โอกาสนาย ยอมแพ้ด้วยตัวเองซะ แล้วก็หัดคานเหมือนหมา คานลงจากสังเวียนไป แล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย หรือไม่ฉันจะทำให้นายมีชีวิตอยู่ทรมานยิ่งตายเสียอีกอีก! "

เมื่อคำพูดพวกนี้หลุดออกมา สายตาของถังเฉาที่ยืนอยู่ข้างล่างสังเวียนก็เย็นชาขึ้นมาแว๊บหนึ่ง

ถึงไหมคำพูดนี้จะเป็นคำพูดที่หงเทียนเฉินพูดกับเย่เทียนหลง ด้วยเสียงเบาๆ แต่ถังเฉากลับได้ยินอย่างชัดเจน

" ว่าไง ฉันเมตตานายพอหรือยัง "

หงเทียนเฉินพูดจบ ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก ขณะที่มองเย่เทียนหลงก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา และรอให้เขาลุกมาคานเหมือนหมา

" สิบ เก้า แปด...... "

อีกฝั่งหนึ่ง ผู้ตัดสินกำลังนับถอยหลัง

" สาม สอง หนึ่ง..... "

ในขณะที่กำลังนับถอยหลังถึงเลข ' หนึ่ง ' เย่เทียนหลงก็ลุกขึ้นมายืนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

เฮ้ย!

วินาทีที่เย่เทียนหลงลุกขึ้นมานั้น ผู้ชมรอบทิศใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง ทั่วทุกที่เต็มไปด้วยเสียงดังอื้ออึง

แม้แต่หงเทียนเฉินก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย และมองไปที่เย่เทียนหลงด้วยความตกใจ

ยังไม่เคยมีใคร ที่โดนหนึ่งหมัดของเขาแล้วสามารถลุกขึ้นมาได้

" ต่อเถอะ "

เย่เทียนหลงพูดขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหลงลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง เย่หรูอี้ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกยาว

หงเทียนเฉินหรี่ตามอง สำรวจเขา : " นี่นายกำลังปฏิเสธคำแนะนำของฉันงั้นเหรอ? "

เย่เทียนหลงยิ้มออกมา " ยังไงฉันก็ต้องชนะนาย "

ถังเฉาเคยพูดว่า ก้าวเดินของเขาช้าเกินไป ดังนั้นความสำเร็จของการต่อสู้ในชีวิตนี้จึงถูกลิขิตไว้ไม่สูงนัก

แต่ว่า ' ความสำเร็จของการต่อสู้ในชีวิตที่ถูกลิขิตไว้ไม่สูงนัก ' นี้ เป็นเพียงมาตรฐานที่ถังเฉามองไว้เท่านั้น

ในสายตาของเธอ การยอมแพ้คงดีกว่าแขนหักอยู่แล้ว

กรรมการส่ายหน้าปฏิเสธ : " เขายังมีการรับรู้อยู่ ต้องให้เขาลุกขึ้นมาเอง "

เมื่อได้ยินประโยคนี้แล้ว สีหน้าของจ้าวเย็นหรานก็ยิ่งเปลี่ยนเข้าไปใหญ่ ไม่ได้ดูคุณเครื่องมันก่อนหน้านี้แล้ว แต่เป็นสีหน้าของการขอร้องวิงวอนแทน

ตาแดงก่ำของเธอมองไปที่หงเทียนเฉินแล้วพูดว่า : " ฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าทำร้ายพี่ชายของฉันเลย พวกเรายอมแพ้แล้ว! "

หงเทียนเฉินยิ้มออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว : " ถ้างั้นฉันก็คงช่วยเธอไม่ได้ "

ตุ้บ!

วินาทีถัดมา หงเทียนเฉินก็กระโดดขึ้น ทั้งตัวของเขาลอยขึ้นไปสูงมาก

จากการสังเกตคร่าวๆ ห่างจากพื้นก็คงประมาณเจ็ดแปดเมตรได้

ผู้ชมที่นั่งกับที่มองค้าง แค่กระโดดเฉยๆ ก็ปาเข้าไปเจ็ดแปดเมตรแล้ว นี่เขาเป็นคนจริงเหรอ?

นี่มันนักสู้จงซือที่แท้จริงสินะ

ถังเฉาหรี่ตามอง ดูฉากตรงหน้า

ตัวเขาอยู่ไกลจากเย่เทียนหลงมาก ถึงจะอยากช่วย แต่ก็คงไม่ทัน

ร่างกายของหงเทียนเฉินเมื่อไปถึงจุดสูงสุดของกลางอากาศแล้ว ก็จะตกลงมาด้วยความเร็ว

ในขณะที่ร่วงลงมา หงเทียนเฉินก็งอเข่าไปด้วย และเล็งไปที่แขนของเย่เทียนหลง

" อย่านะ! "

น้ำตาของจ้าวเย็นหรานเอ่อทะลักออกมา เธออยากจะขึ้นไปบนสังเวียนใจจะขาด

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

กร๊อบ!

แค่ได้ยินเสียงที่น่ากลัวนั้นดังออกมาอย่างแจ่มชัด กระดูกที่แขนของเย่เทียนหลง ได้ถูกหัวเข่าของหงเทียนเฉินยันเข้าไปจนแตกละเอียด

" อ้าก!!! "

มันเจ็บปวดจนกระทั่งที่ว่าเย่เทียนหลงที่กำลังอยู่ในสภาพตื่นครึ่งหลับครึ่งนั้นสะดุ้งขึ้นมา เขาก็โกรธจนเบิกตาขึ้น ร้องเวทนาจนแทบจะขาดใจ

" เทียนหลง! "

เย่หรูอี้นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว มองฉากตรงหน้าด้วยความตกตะลึง

" ฮ่าฮ่าฮ่าๆ ...... "

เย่เซ่าเตี๋ยที่อยู่ข้างๆ ขำยกใหญ่ ก่อนจะเดินมาข้างหน้าเย่หรูอี้ " เห็นคนของตัวเองถูกย่ำยีจนสภาพเป็นแบบนี้ รู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะ? "

" เทียนหลง........ "

ร่างกายของเย่หรูอี้ราวกับถูกดูดพลังทั้งหมดออกไป เธอนั่งลงไปด้วยความรู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ในตาของเธอผุดน้ำใสๆ ออกมา

" พี่! "

จ้าวเย็นหรานก็ตะโกนออกมา แล้วรีบพุ่งเข้าไปในสังเวียน ก่อนจะทรุดตัวลงข้างกายของเย่เทียนหลงร้องไห้โฮ

เพียงแค่เห็นรูปทรงของแขนเย่เทียนหลงที่โค้งง้อไม่เป็นรูปเป็นร่าง ก็รู้ได้ทันทีว่ากระดูกแขนข้างนั้นได้แตกหักไปหมดแล้ว

หงเทียนเฉินก็ค่อยๆ ชายตาหันไปมองทางถังเฉา ใบหน้านั้นผุดรอยยิ้มที่เย็นชา ราวกับว่ากำลังหัวเราะเยาะเขาที่ทำอะไรไม่ได้

เวลานั้นใบหน้าของถังเฉาได้เปลี่ยนไปนิ่งสงบ ราวกับคนตายที่กำลังมองหงเทียนเฉินอย่างไงอย่างงั้น

ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดเตือนหงเทียนเฉินไปแล้ว ตอนนี้จะเทพเทวดาที่ไหนก็คงช่วยเขาไม่ได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม