ได้ยินอย่างนั้นแล้วเจียงไป๋เสว่ก็ปฏิเสธในทันที “เข้าร่วมกับพวกคุณ นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
สำหรับการปฏิเสธของเจียงไป๋เสว่นั้น ไวโอเล็ตเพียงแค่ยิ้มนิดหน่อย ไม่ได้เหนือเกินความคาดหมาย
“ตอนนี้เธอจะปฏิเสธ แต่ต่อไปมันก็ไม่แน่แล้ว”
ไวโอเล็ตยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ตัดสินใจจะกลับเข้าไปในรถแล้ว
เจียงไป๋เสว่ขวางเอาไว้ “ที่คุณพูดว่าเข้าร่วม หมายความว่ายังไง?”
รอยยิ้มของไวโอเล็ตยิ่งมีความหยอกเย้ามากยิ่งขึ้น ชี้ไปที่หลี่เห้า “ก็เหมือนกับคนในใจของเธอนั่นแหละ”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเจียงไป๋เสว่ก็เต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรง “ฉันไม่ยอมให้แผนชั่วของคุณสำเร็จแน่ ฉันจะช่วยหลี่เห้าออกมาให้ได้!”
เจียงไป๋เสว่พูดประโยคนั้นออกมาจนคล้ายกับจะคำราม
ไวโอเล็ตหลุดหัวเราะออกมาเงียบ ๆ “คำพูดนี้ถ้าหากเป็นคนที่ชื่อถังเฉาคนนั้นพูดออกมาล่ะก็ ฉันก็คงจะกลัวขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับเธอน่ะเหรอ...”
ไวโอเล็ตไม่ได้พูดต่อ แต่ใคร ๆ ก็ล้วนแต่รู้ความหมายของเธอ
เธอมองท้องฟ้าที่มืดครึ้มแวบหนึ่ง “ฝนตกหนักแล้ว ฉันจะกลับแล้วล่ะ”
พูดจบเธอก็ดึงประตูรถออก เข้าไปนั่ง
“รอเดี๋ยว...”
“ออกรถ”
เจียงไป๋เสว่อยากจะถามอะไรอยู่ ไวโอเล็ตกลับเอ่ยอย่างเย็นชาขึ้นมาหนึ่งประโยค
หลี่เห้าที่รับหน้าที่เป็นพลขับก็เหยียบคันเร่ง รถยนต์จากไปไกล
เจียงไป๋เสว่ยืนอย่างเหม่อลอยอยู่ที่เดิมอยู่เป็นนาน ไม่ได้จากไป
น้ำฝนรินรดเสื้อผ้าและเส้นผมของเธอจนเปียกปอน แต่เธอดูเหมือนกับไม่รู้สึกรู้สา ยืนตั้งตระหง่านราวกับรูปปั้นหนึ่งองค์
ยังคงเป็นสายโทรศัพท์จากถังเฉาที่เรียกสติเธอคืนมาได้
“ทางผมไม่มีร่องรอยอะไรเลย ทางคุณล่ะครับ?”
เจียงไป๋เสว่เล่าเรื่องที่เจอหลี่เห้าเมื่อสักครู่ออกมา
น้ำเสียงของถังเฉาดูเหมือนจะทุ้มหนักอยู่บ้าง “ดูเหมือนสิ่งที่ผมคิดไว้จะไม่ผิด เขากลายเป็นศัตรูไปแล้วจริง ๆ”
ในสายโทรศัพท์ เจียงไป๋เสว่ไม่ได้ส่งเสียงอยู่นาน
ถังเฉาเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก สภาพการณ์แบบนี้ คนที่เจ็บปวดที่สุดก็ควรจะเป็นเจียงไป๋เสว่สินะ?
“ไป๋เสว่ ในเมื่อเป็นศัตรู ควรจะทำอย่างไร คุณก็น่าจะรู้ดีใช่ไหม?”
น้ำเสียงของถังเฉาทุ้มต่ำ เตือนสติเธออย่างเข้มงวดเป็นอย่างมาก
น้ำเสียงของเจียงไป๋เสว่ผ่อนคลายลง “เข้าใจค่ะ ฉันไม่ใจอ่อนหรอกค่ะ”
“อย่างนั้นก็ดี”
ริมฝีปากของถังเฉาพูดไปแบบนี้ แต่ในใจก็ยังเก็บความระแวดระวังเอาไว้
เจียงไป๋เสว่ตามหาหลี่เห้ามาสามปี เขาเองก็ตามหาหลี่เห้ามาสามปีเช่นเดียวกัน
ในที่สุดกลับกลายเป็นอริต่อกัน
นี่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนแต่รับไว้ไม่ไหว
พวกเขาเองก็เป็นมนุษย์ สามารถถูกความรักความผูกพันส่งผลกระทบเป็นอุปสรรคได้
ตอนที่ได้เจอกันอีกครั้ง เจียงไป๋เสว่จะลงมือได้จริง ๆ หรือ?
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คำพูดเช่นนี้ก็ไม่สามารถจะพูดออกมาได้ อนาคตจะเลือกทางไหน ถังเฉาเองก็สุดจะรู้
“ถังเฉา”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เจียงไป๋เสว่ส่งเสียงออกมากะทันหัน
“ต่อไปพวกเราจะเปลี่ยนเป็นแบบนั้นไหม?”
น้ำเสียงของเจียงไป๋เสว่ห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ไม่เหมือนกันกับเขา เขามีครอบครัวแล้ว มีลูกแล้ว ครอบครัวมีความสุขดี รักใคร่กลมเกลียว
เจียงไป๋เสว่กลับไม่มีอะไรเลย
เธอเป็นเด็กกำพร้า จนถึงตอนนี้แล้วยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองเป็นใคร
ถังเฉากับหลี่เห้ามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับเธอ สามารถพูดคุยกันได้
ตอนนี้หลี่เห้าจากไปแล้ว เหลือแค่ถังเฉาเพียงคนเดียว
เจียงไป๋เสว่กังวลถึงแต่เรื่องที่เธอได้รับหรือสูญเสียเป็นอย่างยิ่ง
เงียบอยู่พักหนึ่ง ถังเฉาก็พูดยิ้ม ๆ ว่า “ไม่หรอก พวกเราจะไม่เปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น”
“ผมก็คือญาติพี่น้องของคุณ”
“ขอบคุณค่ะ”
หลังจากได้รับการตอบรับ น้ำเสียงของเจียงไป๋เสว่ก็ผ่อนคลายลงไปมาก และก็สบายใจขึ้นมาก
หลังจากกลับไปแล้ว หลินชิงเสว่ก็กอดถังเสี่ยวลี้หลับไปแล้ว
ถังเฉายิ้มน้อย ๆ ห่มผ้าห่มให้กับแม่ลูกทั้งสองอย่างมิดชิด จากนั้นจึงนอนลงไป
เก็บสะสมพลังและจิตใจเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศพรุ่งนี้
เช้าตรู่วันถัดมา หลินชิงเสว่เปลี่ยนเป็นชุดทำงานทั้งตัว เตรียมที่จะไปสำรวจบริษัทสาขาย่อยที่เมืองเจียงเฉิง
เมื่อวานเธอได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีทางไปดูการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของงานประชุมแดนเหนือ
แต่ถังเสี่ยวลี้ชื่นชอบความคึกคัก หลินชิงเสว่ก็เลยเอาลูกสาวไปส่งให้หลินจ้าวหยูนดูแล “คุณไปลี่จิงกรุ๊ปกับฉันไหมคะ?”
หลินชิงเสว่มองไปยังถังเฉาแล้วเอ่ยถามขึ้น
ถังเฉาส่ายศีรษะ “ผมไปจวี้เฟิงกรุ๊ปครับ”
“ค่ะ”
ถังเฉาขับรถยนต์จากไป หลินชิงเสว่ยังยืนตระหง่านอยู่ที่เดิม ลังเลใจอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ขึ้นรถยนต์ไป
แต่ว่าเธอไม่ได้ไปลี่จิงกรุ๊ป แต่เป็นสนามกีฬาเมืองเจียงเฉิง
เธอเกิดความระแวงขึ้นแล้วว่าถังเฉาอาจจะแอบไปเข้าร่วมประชุมแดนเหนือลับหลังเธอ
สนามกีฬาเมืองเจียงเฉิงในวันนี้คึกคักเสียยิ่งกว่าเมื่อวาน
เสียงที่ดังกึกก้องดังขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า
หลังจากที่คนบ้าบู๊และมู่ตงเฟิงนั่งประจำที่ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของงานประชุมแดนเหนือก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ทางตระกูลเย่ เย่หรูอี้และเย่เซ่าเตี๋ยก็เข้าร่วมมาตาม ๆ กัน
เทียบกันกับเย่เซ่าเตี๋ยที่ใบหน้าโมโหเป็นอย่างยิ่งแล้ว ดูเหมือนว่าเย่หรูอี้จะสงบกว่ามากโข
“เย่หรูอี้ เธออย่าได้ใจไปเลย คิดว่าเข้ารอบชิงชนะเลิศแล้วก็จะหมดกังวลแล้วหรือไง? การแข่งขันนัดสำคัญที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่ม!”
เย่เซ่าเตี๋ยเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม
เย่หรูอี้ชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“ความหมายของเธอก็คือ แม้แต่การแข่งขันนัดสำคัญเธอก็ยังไม่เหมาะสมที่จะเข้าร่วมใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม