สนามกีฬาที่ใหญ่มากเช่นนี้ ล้วนแต่สะท้อนเสียงต่ำ ๆ เหมือนดังฟ้าร้องของถังเฉา
รอบด้านเงียบสงัด ผู้ชมมากมายล้วนแต่ฟังเสียงของถังเฉาอย่างเหม่อลอย
นึกไม่ถึงว่าจะพูดคำพูดกำหนดความเป็นความตายของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง
ความกล้าหาญที่เด็ดขาดประเภทนี้ ใครสามารถมีได้บ้าง?
ถ้าหากเป็นคนธรรมดาพูดประโยคนี้ออกมา ใคร ๆ ก็ล้วนแต่ต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขัน
แต่ดันเป็นถังเฉาที่ฆ่าสองพี่น้องหงเทียนหยาไปติด ๆ กันเป็นคนพูด ความน่าเชื่อถือนี้จึงสูงมาก
เกรงว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะไม่มีสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงอยู่อีกแล้ว
เย่หรูอี้กับเย่เซ่าเตี๋ยก็มองถังเฉาอย่างตกตะลึง
ใครก็ล้วนแต่คิดไม่ถึงว่าถังเฉาไม่เพียงแต่ชนะการแข่งขัน ยังจัดการล้างบางสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงอีก
ทันใดนั้น สายตาหนาวยะเยือกคู่หนึ่งก็มองมาบนร่างของเย่เซ่าเตี๋ย
ฉับพลัน เย่เซ่าเตี๋ยก็รู้สึกหนาวขึ้นมาทั้งสรรพางค์กาย ตกลงมาจากเก้าอี้อย่างตกอยู่ในที่นั่งลำบากดังตุ้บ ก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น
ก่อนที่หงเทียนหยาจะขึ้นเวทีก็ได้พูดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่ามาขึ้นต่อสู้เป็นตัวแทนของตระกูลเย่ ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าทั้งสองคนเคยติดต่อกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน
ตอนนี้หงเทียนหยาได้ตายไปแล้ว เย่เซ่าเตี๋ยก็ต้องปัดความผิดไม่พ้นเป็นธรรมดา
สายตาเย็นเยียบดุจสายน้ำของถังเฉาทอดลงบนร่างของเย่เซ่าเตี๋ ดูเหมือนว่าจะพัดพาเอาความอบอุ่นจากทั้งร่างของเธอจากไปด้วย
เย่เซ่าเตี๋ยรู้สึกเหมือนว่าตนเองตกลงไปในมหาสมุทรน้ำแข็ง สายตาของคนบางคนก็สามารถฆ่าคนได้!
“ไป... รีบพาฉันไปเร็วเข้า!”
เย่เซ่าเตี๋ยกรีดร้องด้วยสีหน้าลุกลี้ลุกลน
ตอนนี้เธอตกใจจนไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นยืน
เย่อู๋เหินที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกได้ถึงความอันตราย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเข้มงวด
ระยะห่างไกลขนาดนี้ เพียงแค่สายตาเดียวก็ข่มขู่จนเย่เซ่าเตี๋ยทำอะไรไม่ถูก
เกรงว่า ‘เจ้ามังกร’ คนนี้จะเป็นยอดฝีมือที่สุดแห่งยุค!
“รีบปกป้องคุณหนู!”
เย่อู๋เหินรีบเรียกผู้คุ้มครองของตระกูลเย่มาหิ้วตัวเย่เซ่าเตี๋ยออกไป
เธอมีลางสังหรณ์บางอย่างว่าถ้าหากยังอยู่ที่นี่ต่อไปจะถูกคนฆ่าตาย
เย่หรูอี้ไม่ได้ขัดขวางเอาไว้ เพียงแต่มองทั้งหมดนี้อย่างเรียบเฉย
เย่เซ่าเตี๋ยไม่อยู่แล้ว อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาเป็นกอง
“ทำไมคุณยังไม่ไปอีก?”
เย่หรูอี้กวาดสายตามองเย่อู๋เหินที่ยังคงเฝ้าอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่งอย่างเย็นชาพลางเอ่ยถามขึ้น
เย่อู๋เหินยิ้ม “ผมต้องปกป้องคุณหนูครับ”
เย่หรูอี้แย้มยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก
คนบ้าบู๊ที่นั่งอยู่ข้างบนสุดมองออกตั้งแต่แรกว่าเจ้ามังกรคนนี้ก็คือถังเฉา คำพูดของเขาจำเป็นจะต้องปฏิบัติตาม
มือใหญ่ ๆ ของเขาโบกไหว ประกาศเสียงดังว่า “สมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงจำเป็นจะต้องปรับปรุง สมาชิกทั้งหมดให้เข้าร่วมไปอยู่กับสมาคมการต่อสู้หมิงจู
บึ้ม!
คนบ้าบู๊ออกปากเป็นสัญลักษณ์ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้อีก
ใบหน้าของสมาชิกของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงทุกคนล้วนแต่เหมือนกับคนตาย ในใจเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
ที่จริงแล้วต่อให้คนบ้าบู๊ไม่พูด สมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงก็อยู่รอดไปได้ไม่นาน
เพราะบุคคลเบอร์หนึ่งเบอร์สองของสมาคมตายกันไปหมดแล้ว ทั้งยังตายด้วยน้ำมือของคนคนเดียวกัน สมาคมการต่อสู้ก็แตกสามัคคีกัน อยู่รอดได้ไม่นาน
ผู้คนทั้งหลายมองถังเฉาด้วยสายตาหวาดกลัว คนที่ล่มสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงกับมือคนนี้
จดจำชื่อของเขาเอาไว้ ‘เจ้ามังกร’
ถังเฉากวาดสายตามองกรรมการอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ยังไม่ประกาศผลอีกหรือ?”
กรรมการที่สติหลุดลอยอยู่ก็ระลึกได้ในทันที ตอนนี้จึงได้ประกาศออกไป “ผู้ชนะคือ... เจ้ามังกร!”
ถังเฉาลงจากเวทีอย่างช้า ๆ ปะทะหน้ากับบุคคลวัยกลางคนที่น่าเกรงขามคนหนึ่ง
ก็คือหลินรั่วหวี
เขาเดินเฉียดไหล่กับถังเฉา
ทั้งสองคนสำนึกได้ก็ชำเลืองมองกันหนึ่งที
ครั้งนี้ถังเฉาไม่ได้เก็บอาการอีก ปลดปล่อยลมปราณบนร่างออกไป
ทันใดนั้น ทั้งสองคนล้วนแต่เหมือนจะรู้สึกได้ถึงภูเขาใหญ่ยักษ์ลูกหนึ่ง
หลินรั่วหวีตกตะลึง ถังเฉาตกตะลึงยิ่งกว่า
นึกไม่ถึงว่าพ่อตาของเขาจะมีกำลังกล้าแกร่งขนาดนี้
“ตาต่อไป ตระกูลหลิน หลินรั่วหวี ปะทะกับตระกูลถัง...”
ถังเฉานั่งอยู่ในโถงพักคอย ดูการต่อสู้ของพ่อตา และก็ถือโอกาสสืบดูศักยภาพของพ่อตาอย่างละเอียด
ทว่ากลับเป็นหลินรั่วหวีที่ใช้กำลังที่เหนือกว่าเอาชนะยอดฝีมือของตระกูลถังไปได้
ถังเฉามีสายตาตกตะลึง เขาสัมผัสได้ว่านี่อาจจะไม่ใช่กำลังทั้งหมดของหลินรั่วหวี
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลฉินทางนั้นก็ขึ้นเวทีแล้ว เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งที่ชื่อว่ามู่เจียง
“มู่เจียง แซ่มู่?”
สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะมองไปยังมู่ตงเฟิง
เห็นเพียงว่า หลังจากที่มู่ตงเฟิงมองเห็นมู่เจียงขึ้นเวทีแล้ว บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มเย็นชา เห็นได้ชัดว่าพอใจมาก
“ซี๊ด! แม้แต่มู่เจียงก็ขึ้นเวทีแล้ว นี่อาจจะเป็นพี่น้องของคุณมู่!”
“แต่พวกเขาไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ ๆ แค่ยอมรับกัน”
“เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่แดนตะวันตกมาด้วยกัน ช่วยชีวิตมู่ตงเฟิงมาหลายครั้ง ถึงกับเปลี่ยนแซ่เป็นแซ่มู่เพื่อที่จะติดตามคูณมู่”
“...”
ด้านข้างมีคนวิจารณ์กันเซ็งแซ่ พูดความเป็นมาของมู่เจียงออกมา
ถังเฉาจึงคิดขึ้นมาได้ ที่แท้มู่เจียงคนนี้ก็คือพี่น้องที่มู่ตงเฟิงยอมรับ
พักกลางวัน สุดท้ายผลการแข่งขันรอบคัดเลือกก็ออกมาแล้ว
ถังเฉา หลินรั่วหวี มู่เจียงและผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของตระกูลลั่วได้รับการคัดเลือก
สุดท้ายชื่อของเจ้ามังกรก็เกิดขึ้นในท่ามกลางสี่คน
ถังเฉาตัดสินใจจะจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม