ห้องไว้ทุกข์ที่ถูกปิดสนิท มีเหล่าพวกคุณชายที่มึนเมา แล้วก็แม่ม่ายที่หน้าตาสวยงามอยู่คนเดียว
คิดจะทำอะไร ขนาดคนโง่ยังเดาออก
หลินชิงเสว่กำลังคิดจะร้องตะโกนขึ้น ก็ถูกอุดปากเอาไว้
“ถ้าคิดจะร้องตะโกน คุณไม่กล้าร้องตะโกนหรอก คุณเว่ยพาพวกเราเข้ามาคิดจะทำอะไร คุณไม่รู้หรือไง?”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นหัวโจกใบหน้ายิ้มขี้เล่น พร้อมกับพูดขึ้น
หลินชิงเสว่แววตาตกใจกลัว ขัดขืนอย่างไม่หยุดหย่อน
“คิดๆดูแล้วก็น่าตื่นเต้นดีนะ ทำต่อหน้าสามีที่ตายไปแล้วของคุณนี่น่ะ!”
“หืม ท้องของคุณ……”
จู่ๆ เด็กหนุ่มคนหนึ่งก็หันสายตามองไปยังท้องของหลินชิงเสว่
นูนขึ้นเล็กน้อย แต่รอยโค้งนูนไม่ใหญ่มาก ถ้าดูดีๆ ก็ยังคงมองออกอยู่ว่าเธอกำลังตั้งท้อง
“เห้ย ตายไปแล้วยังจะทิ้งสิ่งนี้ให้อีกเหรอวะ!”
สายตาของทุกคนที่มองมายังหลินชิงเสว่เปลี่ยนไป ดูถูกและดูหมิ่นสุดๆ
สายตาแบบนี้ เหมือนกับกำลังมองผู้หญิงที่อยู่ตามข้างทาง
ในที่สุดหลินชิงเสว่ก็สะบัดหลุดออกมาจากเงื้อมมือ น้ำตาไหลรินออกมา
“พวกคุณหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ พวกคุณทำแบบนี้ ไม่กลัวผิดกฎหมายหรือไง?”
“ผิดกฎหมาย? ฮ่าๆ พวกเราไม่กลัวหรอก!”
“แล้วอีกอย่าง รูปร่างหน้าตาแบบคุณ ต่อให้ผิดกฎหมายก็ยอม ฮ่าๆ……”
ทุกคนตรงนั้นก็พากันหัวเราะคิกคักออกมาอีกครั้ง
ตอนนี้หลินชิงเสว่รู้สึกสิ้นหวัง เธออยากจะโทรไปข้อความช่วยเหลือจากหลินจ้าวหยูนมาก แต่มือถือถูกพวกเขาโยนทิ้งไปข้างๆ
ข้างในมีพวกหมาป่าดุร้ายอยู่เต็มไปหมด แต่งานเลี้ยงข้างนอกกลับดำเนินไปอย่างมีระเบียบ
เว่ยหมิงจวินพูดสั่งกำชับไว้แล้ว ว่าไม่ให้ใครหน้าไหนเข้าใกล้ห้องไว้ทุกข์เป็นอันขาด
เธอยกมุมปากยิ้มอย่างเย็นชา
หลินชิงเสว่ ถูกย่ำยีในงานศพของสามีตัวเอง ต่อไปชื่อเสียงจะต้องย่อยยับป่นปี้แน่ๆ
ใช่ เว่ยหมิงจวินอยากจะให้หลินชิงเสว่แต่งงานออกเรือนไป แต่ก็ไม่มีทางให้เธอได้แต่งงานใหม่กับคนดีๆเหมือนกัน
เธอจะให้หลินชิงเสว่แต่งงานกับคนเร่รอนจรจัดไร้ค่าที่อยู่ระดับต่ำที่สุดในสังคม!
ชื่อเสียงย่อยยับป่นปี้ ไม่เหลืออะไรเลย หมดสิ้นทุกอย่าง!
ในขณะเดียวกัน เธอก็หันมองไปยังทางฝั่งของลั่วเย่นหัวอย่างระมัดระวัง พอเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เธอก็วางใจลง
เด็กหนุ่มที่โดดเด่นที่เธอพาเข้ามาก่อนหน้านี้ แทบจะไม่ใช่พวกคุณชายที่มาจากตระกูลยักษ์ใหญ่อะไรเลย เป็นเพียงแค่พวกผู้ชายที่หามาจากคลับเฮาส์เท่านั้น
แต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูเป็นคุณชายมีหน้ามีตาในสังคม คำพูดการกระทำกลับหยาบคาย ต่ำตมที่สุด
บูม!
ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงดังขึ้นมา
ประตูเหล็กของงานเลี้ยงถูกรถจิ๊บคันหนึ่งชนเข้ามาอย่างจัง รถจิ๊บคันนั้นราวกับสัตว์ป่าที่บ้าคลั่ง พุ่งชนเข้ามาอย่างแรง ทำเอาบรรดาคนที่อยู่ในงานเลี้ยงต่างพากันตกใจ
“ว้าย”
ชั่วขณะนั้น เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจกลัวดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างตกใจจนหลบไปอยู่ริมๆ
แม้แต่เว่ยหมิงจวินก็ด้วย
เธออึ้งตะลึงอยู่สักพัก แล้วจู่ๆก็ตะโกนด่าออกมาด้วยความโกรธ
“ใคร กล้าบุกเข้ามาแบบนี้?”
“บอดี้การ์ด!บอดี้การ์ดล่ะ!”
“ไม่ต้องตะโกนแล้ว บอดี้การ์ดที่พวกคุณเรียก ล้มนอนไปเรียบร้อยแล้ว”
มีน้ำเสียงที่เยือกเย็นของผู้ชายดังออกมาจากข้างในรถ
เสียงนี้คุ้นหูไม่น้อย พวกผู้คนตรงนั้นพอได้ฟัง สีหน้าก็ตกใจทันที
ถังเฉาเดินลงมาจากรถด้วยใบหน้าเย็นชา กวาดสายตามองไปทั้งงานอย่างเยือกเย็น ทุกคนที่ถูกมอง ก็ไม่มีคนไหนที่ไม่สั่นสะดุ้ง
ตอนที่เห็นคนที่มาไว้อาลัยในงานศพ ถังเฉาก็เม้มปาก ยิ้มอย่างเยือกเย็น
“นี่ขนาดผมยังไม่ตาย ก็จัดงานศพให้ผมไว้เรียบร้อยเสร็จสรรพขนาดนี้เชียว ผมควรจะขอบคุณพวกคุณดีๆสักหน่อยไหม?”
ตามมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา จู่ๆถังเฉาก็หันมองไปยังเว่ยหมิงจวินที่ตกใจจนอึ้งตะลึงไปเรียบร้อยแล้ว
บูม……
ทันใดนั้น จิตสังหารก็โอบล้อมเข้ามาราวกับลมพายุโหมกระหน่ำ ล้อมร่างกายของเว่ยหมิงจวินเอาไว้
ตึง!
ทันใดนั้นเว่ยหมิงจวินก็ลงไปนั่งที่พื้นอย่างแรง เหงื่อไหลรินออกมา ดูแล้วเหมือนเพิ่งจะถูกคนฉุดขึ้นมาแม่น้ำอย่างไรอย่างนั้น
ถูกถังเฉาจ้องเขม็ง เธอก็รู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในหลุมดำที่ไร้ที่สิ้นสุด มองไม่เห็นด้วยตา ไม่อาจได้ยินด้วยหู
ในเวลานี้ ก็มีเสียงพูดกระซิบดังขึ้นมา
ผู้คนต่างพากันอึ้งมึนงงกันหมด
“นี่ไม่ใช่คนในรูปหน้าศพหรอกเหรอ? ทำไมเขาถึงยังไม่ตาย?”
“แล้วการที่จัดงานศพขึ้นมา มันยังมีความหมายอะไรอีก?”
“ไว้อาลัยให้กับคนที่ยังไม่ได้ตาย ความหมายแย่สุดๆ!”
“……”
คนในงานต่างพากันพูดคุยวิจารณ์กัน เว่ยหมิงจวินเป็นคนที่ช็อกตกใจที่สุดในที่นี้!
เธอถามกองกำลังอารักขาที่คอยเฝ้าอารักขาแล้ว กองกำลังอารักขาเห็นกับตาว่าถังเฉาถูกคนเล่นงานไปอย่างรุนแรง ว่ากันตามหลักแล้ว น่าจะถูกอัดตายทั้งเป็นแล้วนี่นา!
ในใบรายชื่อคนตายก็มีชื่อของเขา!
แล้วกลับมาสภาพดีๆแบบนี้ได้ยังไง?
ถังเฉาในตอนนี้ ที่ตัว ที่หน้าแม้ว่าจะมีรอยแผลเล็กน้อย แต่ก็เป็นแค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น ไม่หนักหนาสาหัสอะไรเลย
มันยากที่จะจินตนาการว่า นี่คือคนที่มีชีวิตรอดออกมาจากเงื้อมมือของผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้
ถ้าพูดออกไปจะต้องช็อกสะเทือนไปทั่วทั้งวงการต่อสู้แน่นอน!
จู่ๆ เว่ยหมิงจวินก็เหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าซีดขาว
จะให้หลินชิงเสว่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ไม่ได้!
ไม่อย่างนั้น แผนการทั้งหมดของเธอก็จะสูญเปล่าไปทันที!
“มานี่ รีบไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้……”
เว่ยหมิงจวินพูดสั่งด้วยความตื่นตระหนก
แต่ บอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆมาแล้ว กลับไม่กล้าเข้าไปสักคน
เพราะว่าไม่นาน ก็มีผู้หญิงที่ท่าทางเยือกเย็นสวมเสื้อหนังสีดำคนหนึ่งลงมาจากรถจิ๊บ
นั่นก็คือเจียงไป๋เสว่
จากนั้น หงโฝกับเถี่ยเมี่ยนก็ตามลงมา
คนหนึ่งถือนมเปรี้ยวหนึ่งกล่อง คนหนึ่งสวมหน้ากากเหล็กที่เย็นยะเยือก
ใครๆต่างก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่น่าสะพรึงกลัว
เว่ยหมิงจวินเคยเห็นฝีมือของหงโฝกับเถี่ยเมี่ยนมาแล้ว ก็เลยรู้สึกหวาดกลัวมาก
ไม่คิดว่าพวกเขาจะมาด้วยกันกับถังเฉา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม